เจอบ่อยมากครับ กับคอนเท้นท์แบบ จริงๆแล้ว ผมคือประธานบริษัท ทั้งที่ก่อนหน้าแต่งตัวแย่ไปสถานที่ดีๆ
ที่ทำเพื่อสะท้อนสังคม สำหรับการเลือกปฏิบัติ... ผมดูทีไรก็สะเอียนตลอด
เพราะ "การแต่งตัวให้เกียรติสถานที่" ถือเป็น มารยาทและกาลเทศะ อย่างหนึ่งนะครับ
ไม่เพียงแค่สถานที่ ที่มีกำหนดการแต่งกาย อย่าง สถานที่ทางศาสนา ที่ให้แต่งสุภาพ
แต่มันยังเป็น สิ่งที่มีความสำคัญมาก นะ สำหรับ สังคมชั้นสูงและงานที่เป็น ครั้งหนึ่งในชีวิต
คงไม่มีใครกล้าใส่ขาสั้นไปงานแต่ง หรือ เสื้อกล้ามไปร้านไฟน์ไดนิ่ง หรอกจริงมั้ย
เจอบ่อยมากกับวีดีโอสะท้อนแบบนี้ อย่างพวก แต่งตัวแย่ไปดูคอนโด หรือ โชว์รูม
คุณครับ สถานที่ทั่วไป ต้องมีความสะอาดอยู่แล้ว และตกแต่งอาจมีบ้าง
แต่โชว์รูม ล็อบบี้ ห้องรับรอง สถานที่หรูๆ ที่สะอาดเนี้ยบ ตกแต่งดีเลิศ
เค้าทำเพื่ออะไรล่ะ.. ก็เพื่อภาพลักษณ์ ไงครับ
แล้วคุณ ทำเรื่องสั้น ให้คนแต่งตัวไปทำลายภาพนั้นของเค้า มันสมควรแล้วหรอ
ถ้าคุณจนจริง ไม่มีทางเลือก คุณก็ควรเลือกใช้ของที่เหมาะกับฐานะครับ จะได้ไม่ใช่การที่ซื้อแล้วตัวเองต้องลำบาก
ถ้าคุณอยากไปดู ดูได้ มันเป็นเสรีภาพคุณ ผมก็ไม่ได้จะห้าม
แต่ละครสั้น (เอาของคนที่จนจริง ก่อน) คือจะจับแต่งตัวแย่ไปเลย แบบขาดๆ เลอะๆ ซึ่งมันไม่ใช่มั้ย
มันไม่เกี่ยว ที่ว่าไม่มีเงิน แล้วจะหาเสื้อผ้าดีๆไม่ได้เลย
มันคือเรื่องของ เทส ครับ.. เสื้อผ้าดูดี มีทุกระดับราคา นะครับ
คุณภาพตามที่จ่าย แต่คือจะบอกว่าคนทุกระดับเข้าถึงเสื้อผ้าดีๆได้ ถ้ามีเงินหน่อยน่ะนะ
"คนจน" ในความหมายของละครสั้นหลายๆค่าย ก็ทำเกินไปนะ ที่แต่งตัวซอมซ่า เสื้อผ้าขาดๆ
แล้วถ้าไม่มีเลยจริงๆ ขนาดนั้น คนพวกนั้นเค้าจะไปร้านหรูเพื่ออะไรกันนะ
ไม่ใช่ว่าต้องอยากพัฒนาชีวิตประจำวันให้ไม่ขัดสนก่อนหรอกหรอ
คนวางพล็อตเรื่อง ได้ศึกษา Hierarchy of needs บ้างไหม
ส่วนถ้าความจริงมีเงิน แต่แต่งตัวแย่ๆไปสถานที่หรู อันนี้คือน่าด่านะ
จริงอยู่ที่ว่า พอมีทางเลือกแล้วคุณจะแต่งตัวยังไงมันเรื่องของคุณ
แต่พนักงานจะปฏิบัติกับคุณอย่างไร มันก็เรื่องของเค้าครับ
เรื่องราวในวีดีโอของคนที่มีเงินแต่ทำแต่งตัวแย่ก็จะแบบ ตั้งใจซื้อ แต่โดนปฏิบัติไม่ดี เลยไม่ซื้อ หรือ ลงโทษอะไรสักอย่างด้วยอำนาจที่ตัวเองมี
แล้วถ้าตั้งใจจะซื้อ คือ ยังไงนะ คุณมีเงิน มีรสนิยมใช้ของแพง กินดีอยู่ดี แต่แค่จัดการให้ตัวเองดูดี คุณกลับมองข้ามหรอ มันใช่หรอครับ คุณคนรวย.. รสนิยมใช้ของแพงมันต้องมาพร้อมเทสต์การใช้ชีวิตที่ดีไหมอะ
หรือคุณจะบอกว่าตัวเองรวย เป็นเศรษฐีที่ไม่สนใจว่าต้องใช้ของหรู กินอะไรก็ได้ เสื้อผ้าเก่าๆไม่แคร์ แต่กลับสร้างฉากเข้าร้านหรูงั้นหรอ ย้อนแย้งสุดๆไปเลย
ความเท่าเทียม ไม่มีอยู่จริง เพียงแต่แค่มันจะเหลื่อมล้ำแค่ไหน ก็เท่านั้นเอง
ในกรณีนี้เช่นกัน อย่าลืม ว่าการเลือกดูแลลูกค้า มันคือการลงทุนเวลาไป
เวลาของทุกคนมีค่า และการดูแลลูกค้า มันก็คือการลงทุน ที่มีเงินที่ลูกค้าจะจ่าย เป็นความเสี่ยง...
พนักงานมีการให้ความสำคัญที่สุดในการเข้าหาและเทคแคร์คนที่แต่งตัวมีเทสต์ที่ดี มันก็ปกตินะครับ
มันคือความจริงครับ
ผมแค่มองว่า แทนที่จะโปรโมทให้ปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
คุณไปโปรโมทให้แต่งตัวให้เกียรติสถานที่ยังดีกว่านะ
เลิกเถอะครับ กับละครสั้นที่ทำคอนเท้นท์แบบ แต่งตัวดูไม่มีเงินไปสถานที่หรู แต่จริงๆแล้วคือมี
ที่ทำเพื่อสะท้อนสังคม สำหรับการเลือกปฏิบัติ... ผมดูทีไรก็สะเอียนตลอด
เพราะ "การแต่งตัวให้เกียรติสถานที่" ถือเป็น มารยาทและกาลเทศะ อย่างหนึ่งนะครับ
ไม่เพียงแค่สถานที่ ที่มีกำหนดการแต่งกาย อย่าง สถานที่ทางศาสนา ที่ให้แต่งสุภาพ
แต่มันยังเป็น สิ่งที่มีความสำคัญมาก นะ สำหรับ สังคมชั้นสูงและงานที่เป็น ครั้งหนึ่งในชีวิต
คงไม่มีใครกล้าใส่ขาสั้นไปงานแต่ง หรือ เสื้อกล้ามไปร้านไฟน์ไดนิ่ง หรอกจริงมั้ย
เจอบ่อยมากกับวีดีโอสะท้อนแบบนี้ อย่างพวก แต่งตัวแย่ไปดูคอนโด หรือ โชว์รูม
คุณครับ สถานที่ทั่วไป ต้องมีความสะอาดอยู่แล้ว และตกแต่งอาจมีบ้าง
แต่โชว์รูม ล็อบบี้ ห้องรับรอง สถานที่หรูๆ ที่สะอาดเนี้ยบ ตกแต่งดีเลิศ
เค้าทำเพื่ออะไรล่ะ.. ก็เพื่อภาพลักษณ์ ไงครับ
แล้วคุณ ทำเรื่องสั้น ให้คนแต่งตัวไปทำลายภาพนั้นของเค้า มันสมควรแล้วหรอ
ถ้าคุณจนจริง ไม่มีทางเลือก คุณก็ควรเลือกใช้ของที่เหมาะกับฐานะครับ จะได้ไม่ใช่การที่ซื้อแล้วตัวเองต้องลำบาก
ถ้าคุณอยากไปดู ดูได้ มันเป็นเสรีภาพคุณ ผมก็ไม่ได้จะห้าม
แต่ละครสั้น (เอาของคนที่จนจริง ก่อน) คือจะจับแต่งตัวแย่ไปเลย แบบขาดๆ เลอะๆ ซึ่งมันไม่ใช่มั้ย
มันไม่เกี่ยว ที่ว่าไม่มีเงิน แล้วจะหาเสื้อผ้าดีๆไม่ได้เลย
มันคือเรื่องของ เทส ครับ.. เสื้อผ้าดูดี มีทุกระดับราคา นะครับ
คุณภาพตามที่จ่าย แต่คือจะบอกว่าคนทุกระดับเข้าถึงเสื้อผ้าดีๆได้ ถ้ามีเงินหน่อยน่ะนะ
"คนจน" ในความหมายของละครสั้นหลายๆค่าย ก็ทำเกินไปนะ ที่แต่งตัวซอมซ่า เสื้อผ้าขาดๆ
แล้วถ้าไม่มีเลยจริงๆ ขนาดนั้น คนพวกนั้นเค้าจะไปร้านหรูเพื่ออะไรกันนะ
ไม่ใช่ว่าต้องอยากพัฒนาชีวิตประจำวันให้ไม่ขัดสนก่อนหรอกหรอ
คนวางพล็อตเรื่อง ได้ศึกษา Hierarchy of needs บ้างไหม
ส่วนถ้าความจริงมีเงิน แต่แต่งตัวแย่ๆไปสถานที่หรู อันนี้คือน่าด่านะ
จริงอยู่ที่ว่า พอมีทางเลือกแล้วคุณจะแต่งตัวยังไงมันเรื่องของคุณ
แต่พนักงานจะปฏิบัติกับคุณอย่างไร มันก็เรื่องของเค้าครับ
เรื่องราวในวีดีโอของคนที่มีเงินแต่ทำแต่งตัวแย่ก็จะแบบ ตั้งใจซื้อ แต่โดนปฏิบัติไม่ดี เลยไม่ซื้อ หรือ ลงโทษอะไรสักอย่างด้วยอำนาจที่ตัวเองมี
แล้วถ้าตั้งใจจะซื้อ คือ ยังไงนะ คุณมีเงิน มีรสนิยมใช้ของแพง กินดีอยู่ดี แต่แค่จัดการให้ตัวเองดูดี คุณกลับมองข้ามหรอ มันใช่หรอครับ คุณคนรวย.. รสนิยมใช้ของแพงมันต้องมาพร้อมเทสต์การใช้ชีวิตที่ดีไหมอะ
หรือคุณจะบอกว่าตัวเองรวย เป็นเศรษฐีที่ไม่สนใจว่าต้องใช้ของหรู กินอะไรก็ได้ เสื้อผ้าเก่าๆไม่แคร์ แต่กลับสร้างฉากเข้าร้านหรูงั้นหรอ ย้อนแย้งสุดๆไปเลย
ความเท่าเทียม ไม่มีอยู่จริง เพียงแต่แค่มันจะเหลื่อมล้ำแค่ไหน ก็เท่านั้นเอง
ในกรณีนี้เช่นกัน อย่าลืม ว่าการเลือกดูแลลูกค้า มันคือการลงทุนเวลาไป
เวลาของทุกคนมีค่า และการดูแลลูกค้า มันก็คือการลงทุน ที่มีเงินที่ลูกค้าจะจ่าย เป็นความเสี่ยง...
พนักงานมีการให้ความสำคัญที่สุดในการเข้าหาและเทคแคร์คนที่แต่งตัวมีเทสต์ที่ดี มันก็ปกตินะครับ
มันคือความจริงครับ
ผมแค่มองว่า แทนที่จะโปรโมทให้ปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
คุณไปโปรโมทให้แต่งตัวให้เกียรติสถานที่ยังดีกว่านะ