โดย ภัทรพล ตุลารักษ์ (มีนาคม 2565)
1. ทวงคืน คลอง ลำรางสาธารณะ ที่ริมน้ำ ที่โดนบุกรุก (น่าจะทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ กทม.) ตัวอย่างจุดที่น่าสงสัยว่าโดนถม/บุกรุก

(เส้นสีส้มคือแนวคลอง แต่เมื่อมาถึงซอยทองหล่อ 10 คลองก็หายไป เหมือนมีคนถมแล้วยึด)

(พื้นที่ในวงสีแดง มีแต่น้ำอยู่ข้างใต้ น่าสงสัยว่าสร้างรุกล้ำ)
2. คืนพื้นที่ทางเท้าที่โดนเบียดไปทำทางให้รถวิ่ง ดังตัวอย่างทางเท้าในซอยสยามสแควร์ที่กว้างมากจากการขอคืนผิวถนน หรือทางเท้าใน ม.มหิดล ศาลายา ที่ยึดจากถนนให้รถวิ่งมาเป็นทางเท้าทางจักรยานแทน
3. ให้ ผอ.เขตเดินด้วยเท้าและใช้บริการขนส่งมวลชนในเขตตัวเองทุกสัปดาห์แล้วรายงานว่าต้นไม้ใหญ่ในที่สาธารณะในพื้นที่ตัวเองเหลือกี่ต้น มีจุดลักลอบทิ้งขยะกี่จุด มีผู้บุกรุกทางเท้ากี่ราย มีจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้าหรือทางจักรยานกี่คัน (เส้นเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา มีตลอดเวลา) ฯลฯ
4. ปรับปรุง bike-sharing ถ้าไม่สามารถทำให้ ปันปั่น ดีขึ้นได้ (เบรกทำงาน ยางไม่แบน เบาะไม่พัง ฯลฯ) /เพียงพอ (ควรมี app ให้ดูจำนวนจักรยานว่าที่สถานีที่จะไปใช้บริการมีเหลืออยู่กี่คัน) /ขยายพื้นที่ (นอกแนว BTS MRT เพื่อให้คนใช้เป็น feeder เช่น พระรามหกมาอารีย์ คลองตันมาพระโขนง กล้วยน้ำไทมาเอกมัย) ก็ควรให้เอกชน/startup เข้ามาดำเนินการได้ ไม่หวงอำนาจ และกลั่นแกล้ง เหมือนในอดีตที่เคยเกิดขึ้น [
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_562466]
5. ใช้วงเวียนแทนไฟแดง ในจุดที่ไม่ได้มีรถมาก หรือมีพื้นที่พอที่จะทำวงเวียน ที่ชัดๆ ก็ตรง กทม.ดินแดงเอง ติดไฟแดงไร้สาระมาก และหลายแยกตามซอยไม่ควรมีตำรวจมายืนกำกับเพราะพิสูจน์แล้วว่าทำให้รถติดมากกว่าการผลัดกันไปโดยผู้ขับขี่เอง

6. คืนเกาะกลางถนน เกาะกลางจะช่วยลดอุบัติเหตุจากการข้ามถนน และป้องกันไม่ให้จักรยานยนต์วิ่งสวนเลน ถนนหลายสายในกรุงเทพฯ เมื่อก่อนมีเกาะกลางทั้งนั้น การรื้อเกาะกลางออกไม่ได้ช่วยให้รถหายติด
7. เลิกใช้ร่องตัววีที่ใช้ระบายน้ำแต่ในความเป็นจริงเป็นแหล่งน้ำขัง และทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้จักรยาน ยิ่งรถเข็นเด็กยิ่งอันตราย ดูสภาพแม่บ้านชาวญี่ปุ่นที่เข็นรถใส่ลูกด้วยความลำบากได้แถวซอยสุขุมวิท 16 ประสานมิตร และแถวพร้อมพงษ์ ทำ slope ให้ถูกหลักวิชาการก็ระบายน้ำได้แล้ว
8. มุมบ้าน

กรณีบ้านอยู่แปลงหัวมุมถนนสาธารณะ หากรั้วหรือกำแพงกั้นมีความกว้าง 3 เมตรขึ้นไป และมีมุมหักน้อยกว่า 135 องศา ต้องปาดมุมรั้วหรือกำแพงกั้น โดยให้ส่วนที่ปาดมุมมีระยะไม่น้อยกว่า 4 เมตร และทำมุมกับแนวถนนสาธารณะเป็นมุมเท่า ๆ กัน กฏหมายข้อนี้ออกมาเพื่อให้เกิดการใช้ทางร่วม สามารถเลี้ยวได้อย่างสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเจ้าของที่ดินไม่ได้เสียเปรียบ อยู่หัวมุม ได้ใช้ถนนถึง 2 ด้าน ถือว่าได้เปรียบกว่าบ้านอื่น
ตัวอย่างจุดที่เจ้าของบ้านเห็นแก่ตัวทำผิดกฎหมายแล้วทำให้รถติด คือ แยกในซอยเอกมัย 10 และ แยกแรกในซอยทองหล่อ 13

9. หาที่ให้ แผงลอย ร้านค้า ไปอยู่รวมกันแบบ Hawker center ในสิงคโปร์ กทม. เจรจากับเอกชนขอเช่าที่ว่างๆ แล้วเก็บค่าเช่าจากแผงลอยในอัตราที่ไม่ต่างจากที่เทศกิจเรียกเก็บอยู่ทุกวันนี้
10. เน้น pocket garden/park ให้กระจายทั่วในระยะไม่เกิน 1 กิโลเมตรจากทุกบ้าน ไม่ใช่ทำใหญ่ๆ แต่ต้องขับรถไปชานเมือง

(ที่มา: สมาคมภูมิสถาปนิก ประเทศไทย)
11. มีสวนป่าจริงๆ [
https://en.wikipedia.org/wiki/Urban_forest] บ้าง เป็นธรรมชาติ ไม่มีคอนกรีต ระบบนิเวศสมบูรณ์ ไม่มีพนักงาน กทม. มาตัดแต่ง ไม่มีรั้ว ไม่มีเวลาปิดเปิด เป็นของสาธารณะไม่ใช่ของ กทม. แบบทุกวันนี้ (แต่ควรจ้าง รปภ. ขี่จักรยานไฟฟ้าลาดตระเวน)
12. ฟื้นฟูสนามหญ้าในโรงเรียนสังกัด กทม. จากที่โดนเทคอนกรีตปิดทับไปหมดเพื่อให้ครูมีที่จอดรถเพิ่ม และให้มีต้นไม้ที่มีรากลงดินไม่ใช่มีแต่ไม้กระถาง เนื่องจากจะช่วยให้นักเรียนได้มีโอกาสสัมผัสธรรมชาติตั้งแต่เล็ก และจะเกิดความผูกพัน เป็นห้องเรียนทางวิทยาศาสตร์ของจริง ได้รู้จักไส้เดือน หนอน ผีเสื้อ ตั๊กแตน ฯลฯ รวมทั้งน้ำฝนมีโอกาสซึมลงดินไม่เป็นภาระท่อระบายน้ำ ที่สำคัญคือช่วยลดอุณหภูมิในบรรยากาศ
13. กำกับดูแลห้องแถวหรืออาคารพาณิชย์ไม่ให้ต่อท่อระบายน้ำฝนน้ำแอร์ยื่นออกมาบนทางเท้าหรือถนน สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน

(ที่มา: Metha, Less Plastic)
14. ถนนหรือซอยที่อนุญาตให้รถจอดตลอดเวลาอยู่แล้ว เช่น ส่วนใหญ่ของทองหล่อ หรือรัชดาภิเษกหน้าสวนเบญฯ ก็ควรปรับปรุงพื้นที่ให้มีต้นไม้แทรกระหว่างรถทุกๆ 2-3 คัน แบบที่พบได้ทั่วไปในยุโรป โดยปลูกบนถนนแทนต้นไม้บนทางเท้าที่โดนตัดเหี้ยนไป (ถ้ามีท่ออยู่ข้างใต้ก็ขยับแนวท่อ จะได้มีเรื่องใช้งบ โดยไม่ต้องเอางบมาตัดต้นไม้)

(ที่มา: pottstowntrees.org)
15. สร้างที่จอดรถใต้ดินสาธารณะในบริเวณที่ไม่ได้มีห้างขนาดใหญ่ที่มีที่จอดรถรองรับใกล้ๆ เช่นแถวเยาวราช ย่านเกาะรัตนโกสินทร์ (รวมถึงเสาชิงช้าที่ทำที่จอดรถใต้ดินด้วยเงินภาษีประชาชน แต่ให้จอดได้เฉพาะข้าราชการของ กทม.)
16. ลดหรือกำจัดป้าย billboard ขนาดใหญ่ ที่รกหูรกตา ควบคุมความสว่างของป้ายที่เป็นจอ LED เพราะกลางคืนสว่างมาก ทำให้ตาพร่าเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และยกเลิกป้ายโฆษณาของ กทม. เอง รวมถึงเสาไฟที่ตั้งเกะกะอยู่บนทางเท้า (มีไฟถนนสว่างอยู่แล้ว ทำเสากินรีมาซ้ำซ้อนสิ้นเปลือง)

17. ปรับปรุงป้ายรถประจำทาง โดย 1) คำนวณระยะห่างแต่ละป้ายและปรับย้ายให้เหมาะสม เช่นทุก 400-500 เมตร แทนที่จะถี่ทุก 200-300 เมตรแบบบางถนน ทำให้สิ้นเปลือง รถติด ปล่อยมลพิษ (ช่วงออกตัวจะเยอะ) และ 2) ป้ายที่มีหลายสายผ่านแล้วชอบจอดซ้อนเลนสองเพราะตรงป้ายมีอีกคันจอดรับส่งผู้โดยสารอยู่ ให้แบ่งเป็นสองป้ายติดกันก็ได้
18. จัดการป้ายโฆษณาที่แปะตามเสาไฟฟ้า โดยใช้วิธีที่ British Council แนะนำเมื่อเกือบ 20 ปีมาแล้ว คือทำสติกเกอร์ม้วนที่พิมพ์คำว่า “เลิกกิจการ” หรือ “ยกเลิก” ไปแปะทับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาแกะทีละป้ายออกจากเสาไฟ และผู้โฆษณาก็จะเข็ดไม่มาติดอีก
19. เปลี่ยนไฟถนนเป็นแบบที่หรี่แสงได้ตามสภาพ เพื่อลดการใช้พลังงาน โดยยังคงความปลอดภัยอยู่ [
https://link.springer.com/article/10.1007/s12053-016-9476-1]
20. พิจารณาการเก็บค่าธรรมเนียมน้ำเสียอย่างจริงจัง และการเก็บค่าธรรมเนียมน้ำฝนตามพื้นที่ที่มีการดาดแข็งทำให้น้ำฝนไม่ซึมลงดิน แล้วไหลมาเป็นภาระให้ท่อระบายน้ำ [
https://www.hmw.tu-berlin.de/fileadmin/i41_hmw/12_DAAD_Rainwater-Jekel-Chile2010.pdf] [
https://www.mdpi.com/2073-4441/12/1/151]
เรื่องอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนืออำนาจ กทม.
1. เกลี้ยกล่อมให้ ตำรวจยอมใช้ technology (machine learning จากกล้องตามแยก) มาคุมไฟจราจรแทนเจ้าหน้าที่ที่ใช้ความรู้สึกมากกว่าใช้สถิติและข้อมูล real-time โดยเฉพาะกลางคืนหลังสี่ทุ่มตั้งเวลาไฟแดงเหมือนตอนกลางวันแต่จำนวนรถน้อยกว่าเป็นสิบเท่า ทำให้รถจอดรอเฉยๆ ผลาญน้ำมันและปล่อยมลพิษ (ยกเว้นพวกฝ่าไฟแดง)
2. ต้องแก้เรื่องภาษีที่ดิน ให้คนที่ปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้เต็มพื้นที่ ไม่ได้ทำการเกษตร เสียภาษีในอัตราเดียวกับการทำเกษตร ไม่อย่างนั้นต้นไม้ใหญ่จะโดนโค่นมาปลูกมะนาวหมด (อาจจะไม่ทันกาลเสียแล้ว)
3. อุโมงค์ลอดแยกดีกว่าสะพานข้ามแยก เนื่องจากมีแรงเฉื่อยจากการไหลลงทำให้เวลากลับขึ้นมาใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่า และเนื่องจากความชันต่ำกว่าสะพานทั้งขาเข้าและออกจากอุโมงค์จึงทำให้รถไม่เสียจังหวะการไหล

(source: Cloudfloor Co.,Ltd.)
4. ทบทวนเส้นทางและการให้บริการรถประจำทาง (bus) ซึ่งประหยัดกว่า BTS MRT หลายเท่า ก่อนหน้านี้ ขสมก. พยายามยกเลิกหลายสาย หรือทำให้สั้นลง เพื่อบังคับ(ทางอ้อม)ให้ผู้โดยสารมาขึ้น BTS ต่อ ทำให้ผู้มีรายได้น้อยเดือดร้อน
5. ร่วมกับ กกต. ออกกฎห้ามติดตั้งป้ายหาเสียงทุกชนิดในที่สาธารณะ ให้ผู้ลงรับเลือกตั้งติดป้ายได้เฉพาะในบริเวณและขนาดที่กำหนดไว้เท่านั้น
ข้อเสนอ แนวคิดและนโยบายให้ผู้สมัครผู้ว่า กทม.
1. ทวงคืน คลอง ลำรางสาธารณะ ที่ริมน้ำ ที่โดนบุกรุก (น่าจะทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ กทม.) ตัวอย่างจุดที่น่าสงสัยว่าโดนถม/บุกรุก
(เส้นสีส้มคือแนวคลอง แต่เมื่อมาถึงซอยทองหล่อ 10 คลองก็หายไป เหมือนมีคนถมแล้วยึด)
(พื้นที่ในวงสีแดง มีแต่น้ำอยู่ข้างใต้ น่าสงสัยว่าสร้างรุกล้ำ)
2. คืนพื้นที่ทางเท้าที่โดนเบียดไปทำทางให้รถวิ่ง ดังตัวอย่างทางเท้าในซอยสยามสแควร์ที่กว้างมากจากการขอคืนผิวถนน หรือทางเท้าใน ม.มหิดล ศาลายา ที่ยึดจากถนนให้รถวิ่งมาเป็นทางเท้าทางจักรยานแทน
3. ให้ ผอ.เขตเดินด้วยเท้าและใช้บริการขนส่งมวลชนในเขตตัวเองทุกสัปดาห์แล้วรายงานว่าต้นไม้ใหญ่ในที่สาธารณะในพื้นที่ตัวเองเหลือกี่ต้น มีจุดลักลอบทิ้งขยะกี่จุด มีผู้บุกรุกทางเท้ากี่ราย มีจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้าหรือทางจักรยานกี่คัน (เส้นเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา มีตลอดเวลา) ฯลฯ
4. ปรับปรุง bike-sharing ถ้าไม่สามารถทำให้ ปันปั่น ดีขึ้นได้ (เบรกทำงาน ยางไม่แบน เบาะไม่พัง ฯลฯ) /เพียงพอ (ควรมี app ให้ดูจำนวนจักรยานว่าที่สถานีที่จะไปใช้บริการมีเหลืออยู่กี่คัน) /ขยายพื้นที่ (นอกแนว BTS MRT เพื่อให้คนใช้เป็น feeder เช่น พระรามหกมาอารีย์ คลองตันมาพระโขนง กล้วยน้ำไทมาเอกมัย) ก็ควรให้เอกชน/startup เข้ามาดำเนินการได้ ไม่หวงอำนาจ และกลั่นแกล้ง เหมือนในอดีตที่เคยเกิดขึ้น [https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_562466]
5. ใช้วงเวียนแทนไฟแดง ในจุดที่ไม่ได้มีรถมาก หรือมีพื้นที่พอที่จะทำวงเวียน ที่ชัดๆ ก็ตรง กทม.ดินแดงเอง ติดไฟแดงไร้สาระมาก และหลายแยกตามซอยไม่ควรมีตำรวจมายืนกำกับเพราะพิสูจน์แล้วว่าทำให้รถติดมากกว่าการผลัดกันไปโดยผู้ขับขี่เอง
6. คืนเกาะกลางถนน เกาะกลางจะช่วยลดอุบัติเหตุจากการข้ามถนน และป้องกันไม่ให้จักรยานยนต์วิ่งสวนเลน ถนนหลายสายในกรุงเทพฯ เมื่อก่อนมีเกาะกลางทั้งนั้น การรื้อเกาะกลางออกไม่ได้ช่วยให้รถหายติด
7. เลิกใช้ร่องตัววีที่ใช้ระบายน้ำแต่ในความเป็นจริงเป็นแหล่งน้ำขัง และทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้จักรยาน ยิ่งรถเข็นเด็กยิ่งอันตราย ดูสภาพแม่บ้านชาวญี่ปุ่นที่เข็นรถใส่ลูกด้วยความลำบากได้แถวซอยสุขุมวิท 16 ประสานมิตร และแถวพร้อมพงษ์ ทำ slope ให้ถูกหลักวิชาการก็ระบายน้ำได้แล้ว
8. มุมบ้าน
กรณีบ้านอยู่แปลงหัวมุมถนนสาธารณะ หากรั้วหรือกำแพงกั้นมีความกว้าง 3 เมตรขึ้นไป และมีมุมหักน้อยกว่า 135 องศา ต้องปาดมุมรั้วหรือกำแพงกั้น โดยให้ส่วนที่ปาดมุมมีระยะไม่น้อยกว่า 4 เมตร และทำมุมกับแนวถนนสาธารณะเป็นมุมเท่า ๆ กัน กฏหมายข้อนี้ออกมาเพื่อให้เกิดการใช้ทางร่วม สามารถเลี้ยวได้อย่างสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเจ้าของที่ดินไม่ได้เสียเปรียบ อยู่หัวมุม ได้ใช้ถนนถึง 2 ด้าน ถือว่าได้เปรียบกว่าบ้านอื่น
ตัวอย่างจุดที่เจ้าของบ้านเห็นแก่ตัวทำผิดกฎหมายแล้วทำให้รถติด คือ แยกในซอยเอกมัย 10 และ แยกแรกในซอยทองหล่อ 13
9. หาที่ให้ แผงลอย ร้านค้า ไปอยู่รวมกันแบบ Hawker center ในสิงคโปร์ กทม. เจรจากับเอกชนขอเช่าที่ว่างๆ แล้วเก็บค่าเช่าจากแผงลอยในอัตราที่ไม่ต่างจากที่เทศกิจเรียกเก็บอยู่ทุกวันนี้
10. เน้น pocket garden/park ให้กระจายทั่วในระยะไม่เกิน 1 กิโลเมตรจากทุกบ้าน ไม่ใช่ทำใหญ่ๆ แต่ต้องขับรถไปชานเมือง
(ที่มา: สมาคมภูมิสถาปนิก ประเทศไทย)
11. มีสวนป่าจริงๆ [https://en.wikipedia.org/wiki/Urban_forest] บ้าง เป็นธรรมชาติ ไม่มีคอนกรีต ระบบนิเวศสมบูรณ์ ไม่มีพนักงาน กทม. มาตัดแต่ง ไม่มีรั้ว ไม่มีเวลาปิดเปิด เป็นของสาธารณะไม่ใช่ของ กทม. แบบทุกวันนี้ (แต่ควรจ้าง รปภ. ขี่จักรยานไฟฟ้าลาดตระเวน)
12. ฟื้นฟูสนามหญ้าในโรงเรียนสังกัด กทม. จากที่โดนเทคอนกรีตปิดทับไปหมดเพื่อให้ครูมีที่จอดรถเพิ่ม และให้มีต้นไม้ที่มีรากลงดินไม่ใช่มีแต่ไม้กระถาง เนื่องจากจะช่วยให้นักเรียนได้มีโอกาสสัมผัสธรรมชาติตั้งแต่เล็ก และจะเกิดความผูกพัน เป็นห้องเรียนทางวิทยาศาสตร์ของจริง ได้รู้จักไส้เดือน หนอน ผีเสื้อ ตั๊กแตน ฯลฯ รวมทั้งน้ำฝนมีโอกาสซึมลงดินไม่เป็นภาระท่อระบายน้ำ ที่สำคัญคือช่วยลดอุณหภูมิในบรรยากาศ
13. กำกับดูแลห้องแถวหรืออาคารพาณิชย์ไม่ให้ต่อท่อระบายน้ำฝนน้ำแอร์ยื่นออกมาบนทางเท้าหรือถนน สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
(ที่มา: Metha, Less Plastic)
14. ถนนหรือซอยที่อนุญาตให้รถจอดตลอดเวลาอยู่แล้ว เช่น ส่วนใหญ่ของทองหล่อ หรือรัชดาภิเษกหน้าสวนเบญฯ ก็ควรปรับปรุงพื้นที่ให้มีต้นไม้แทรกระหว่างรถทุกๆ 2-3 คัน แบบที่พบได้ทั่วไปในยุโรป โดยปลูกบนถนนแทนต้นไม้บนทางเท้าที่โดนตัดเหี้ยนไป (ถ้ามีท่ออยู่ข้างใต้ก็ขยับแนวท่อ จะได้มีเรื่องใช้งบ โดยไม่ต้องเอางบมาตัดต้นไม้)
(ที่มา: pottstowntrees.org)
15. สร้างที่จอดรถใต้ดินสาธารณะในบริเวณที่ไม่ได้มีห้างขนาดใหญ่ที่มีที่จอดรถรองรับใกล้ๆ เช่นแถวเยาวราช ย่านเกาะรัตนโกสินทร์ (รวมถึงเสาชิงช้าที่ทำที่จอดรถใต้ดินด้วยเงินภาษีประชาชน แต่ให้จอดได้เฉพาะข้าราชการของ กทม.)
16. ลดหรือกำจัดป้าย billboard ขนาดใหญ่ ที่รกหูรกตา ควบคุมความสว่างของป้ายที่เป็นจอ LED เพราะกลางคืนสว่างมาก ทำให้ตาพร่าเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และยกเลิกป้ายโฆษณาของ กทม. เอง รวมถึงเสาไฟที่ตั้งเกะกะอยู่บนทางเท้า (มีไฟถนนสว่างอยู่แล้ว ทำเสากินรีมาซ้ำซ้อนสิ้นเปลือง)
17. ปรับปรุงป้ายรถประจำทาง โดย 1) คำนวณระยะห่างแต่ละป้ายและปรับย้ายให้เหมาะสม เช่นทุก 400-500 เมตร แทนที่จะถี่ทุก 200-300 เมตรแบบบางถนน ทำให้สิ้นเปลือง รถติด ปล่อยมลพิษ (ช่วงออกตัวจะเยอะ) และ 2) ป้ายที่มีหลายสายผ่านแล้วชอบจอดซ้อนเลนสองเพราะตรงป้ายมีอีกคันจอดรับส่งผู้โดยสารอยู่ ให้แบ่งเป็นสองป้ายติดกันก็ได้
18. จัดการป้ายโฆษณาที่แปะตามเสาไฟฟ้า โดยใช้วิธีที่ British Council แนะนำเมื่อเกือบ 20 ปีมาแล้ว คือทำสติกเกอร์ม้วนที่พิมพ์คำว่า “เลิกกิจการ” หรือ “ยกเลิก” ไปแปะทับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาแกะทีละป้ายออกจากเสาไฟ และผู้โฆษณาก็จะเข็ดไม่มาติดอีก
19. เปลี่ยนไฟถนนเป็นแบบที่หรี่แสงได้ตามสภาพ เพื่อลดการใช้พลังงาน โดยยังคงความปลอดภัยอยู่ [https://link.springer.com/article/10.1007/s12053-016-9476-1]
20. พิจารณาการเก็บค่าธรรมเนียมน้ำเสียอย่างจริงจัง และการเก็บค่าธรรมเนียมน้ำฝนตามพื้นที่ที่มีการดาดแข็งทำให้น้ำฝนไม่ซึมลงดิน แล้วไหลมาเป็นภาระให้ท่อระบายน้ำ [https://www.hmw.tu-berlin.de/fileadmin/i41_hmw/12_DAAD_Rainwater-Jekel-Chile2010.pdf] [https://www.mdpi.com/2073-4441/12/1/151]
เรื่องอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนืออำนาจ กทม.
1. เกลี้ยกล่อมให้ ตำรวจยอมใช้ technology (machine learning จากกล้องตามแยก) มาคุมไฟจราจรแทนเจ้าหน้าที่ที่ใช้ความรู้สึกมากกว่าใช้สถิติและข้อมูล real-time โดยเฉพาะกลางคืนหลังสี่ทุ่มตั้งเวลาไฟแดงเหมือนตอนกลางวันแต่จำนวนรถน้อยกว่าเป็นสิบเท่า ทำให้รถจอดรอเฉยๆ ผลาญน้ำมันและปล่อยมลพิษ (ยกเว้นพวกฝ่าไฟแดง)
2. ต้องแก้เรื่องภาษีที่ดิน ให้คนที่ปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้เต็มพื้นที่ ไม่ได้ทำการเกษตร เสียภาษีในอัตราเดียวกับการทำเกษตร ไม่อย่างนั้นต้นไม้ใหญ่จะโดนโค่นมาปลูกมะนาวหมด (อาจจะไม่ทันกาลเสียแล้ว)
3. อุโมงค์ลอดแยกดีกว่าสะพานข้ามแยก เนื่องจากมีแรงเฉื่อยจากการไหลลงทำให้เวลากลับขึ้นมาใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่า และเนื่องจากความชันต่ำกว่าสะพานทั้งขาเข้าและออกจากอุโมงค์จึงทำให้รถไม่เสียจังหวะการไหล
(source: Cloudfloor Co.,Ltd.)
4. ทบทวนเส้นทางและการให้บริการรถประจำทาง (bus) ซึ่งประหยัดกว่า BTS MRT หลายเท่า ก่อนหน้านี้ ขสมก. พยายามยกเลิกหลายสาย หรือทำให้สั้นลง เพื่อบังคับ(ทางอ้อม)ให้ผู้โดยสารมาขึ้น BTS ต่อ ทำให้ผู้มีรายได้น้อยเดือดร้อน
5. ร่วมกับ กกต. ออกกฎห้ามติดตั้งป้ายหาเสียงทุกชนิดในที่สาธารณะ ให้ผู้ลงรับเลือกตั้งติดป้ายได้เฉพาะในบริเวณและขนาดที่กำหนดไว้เท่านั้น