ก่อนจะเล่าเรื่องชีวิตที่กวางโจว ขอเล่าถึงสิ่งที่เราสังเกตได้ในเมืองจีน 2 เรื่อง คือเรื่องนโยบาย “Zero-Covid Policy” กับเรื่องสังคมไร้เงินสด ค่ะ
ในช่วงสถานการณ์ที่โรคโควิด-19 กำลังระบาดไปทั่วโลกนี้ ประเทศจีนใช้นโยบาย “Zero-Covid Policy” เรียกง่ายๆ คือ นโยบายไม่ทน และไม่ยอมอยู่ร่วมกับโควิดเลย โดยพยายามอย่างสุดกำลังที่จะให้ประเทศจีนเป็นประเทศที่ปลอดโควิด ซึ่งในทางปฏิบัติ แม้ในหลายๆ พื้นที่ ยังมีการพบผู้ติดเชื้ออยู่บ้าง แต่ก็เรียกว่ามีจำนวนน้อยกว่าประเทศอื่นมาก
ด้วยนโยบาย Zero-Covid ดังกล่าว เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ตั้งแต่เราลงจากเครื่องบิน ในสนามบินก็มีตั้งจุดตรวจโควิด และตรวจ QR Code ที่เป็นหลักฐานแสดงว่า มีผลตรวจจากเมืองไทยว่าปลอดโควิดก่อนเดินทางมา ซึ่งขั้นตอนการตรวจค่อนข้างจะใช้เวลานาน เพราะมีการตรวจอย่างละเอียด เราลงเครื่องบินเวลา 4 ทุ่ม กว่าจะได้ออกจากสนามบินก็ประมาณตี 4 แต่ตรวจเข้มก็ดี ทำให้รู้สึกปลอดภัย หลังจากออกจากสนามบิน ก็นั่งรถบัสไปถึงโรงแรมกักตัว และใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นเวลา 14 วัน แล้วจึงไปเฝ้าสังเกตอาการต่อที่บ้านอีก 7 วัน รวมเป็นเวลากักตัวทั้งหมด 21 วันพอดี
ในช่วงที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศจีน ก็ได้สัมผัสถึงการดำเนินนโยบาย Zero-Covid อย่างเข้มข้น คือรัฐบาลจีนได้ลงทุนกับระบบ Health Code หรือโค้ดสุขภาพ ที่เป็น QR Code ในมือถือเรา มี 3 สี คือ เขียว เหลือง แดง ตามระดับความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด ผู้ที่จะเดินทางเข้าสถานที่ต่างๆ ได้ ต้องแสดง Health Code ที่เป็นสีเขียว สิ่งที่น่าสนใจคือ ถ้าเราเกิดไปอยู่ใกล้กับคน/เดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด Health Code ของเราจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองโดยอัตโนมัติ เพราะการเปลี่ยนสีของโค้ดดักจับจากคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ในแต่ละพื้นที่ที่เราอยู่ และเมื่อโค้ดเปลี่ยนสี จะได้รับข้อความเด้งเตือนเข้ามือถือว่า ให้ไปตรวจโควิดทุกกี่วัน รวมกี่ครั้ง ถ้าผลตรวจออกมาว่าปลอดโควิด โค้ดสุขภาพก็จะเปลี่ยนกลับเป็นสีเขียว แต่ถ้าผลออกมาว่าติดเชื้อโควิด โค้ดสุขภาพก็จะกลายเป็นสีแดง
ในส่วนของสังคมไร้เงินสด จีนเป็นสังคมไร้เงินสดที่แท้จริง เป็นประเทศที่ไม่มีใครอยากรับเงินสด เพราะใช้การสแกนจ่ายกันหมด ตั้งแต่ห้างใหญ่ถึงร้านค้าเล็กๆ ริมถนน ใช้กับการเรียกรถแท็กซี่ การสั่งอาหารแบบ delivery ต่างๆ ฯลฯ
ต่อมา ขอเข้าเรื่องงานและชีวิตในกวางโจวค่ะ
ตามติดชีวิตทูตพาณิชย์ในกวางโจว
ในช่วงสถานการณ์ที่โรคโควิด-19 กำลังระบาดไปทั่วโลกนี้ ประเทศจีนใช้นโยบาย “Zero-Covid Policy” เรียกง่ายๆ คือ นโยบายไม่ทน และไม่ยอมอยู่ร่วมกับโควิดเลย โดยพยายามอย่างสุดกำลังที่จะให้ประเทศจีนเป็นประเทศที่ปลอดโควิด ซึ่งในทางปฏิบัติ แม้ในหลายๆ พื้นที่ ยังมีการพบผู้ติดเชื้ออยู่บ้าง แต่ก็เรียกว่ามีจำนวนน้อยกว่าประเทศอื่นมาก
ด้วยนโยบาย Zero-Covid ดังกล่าว เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ตั้งแต่เราลงจากเครื่องบิน ในสนามบินก็มีตั้งจุดตรวจโควิด และตรวจ QR Code ที่เป็นหลักฐานแสดงว่า มีผลตรวจจากเมืองไทยว่าปลอดโควิดก่อนเดินทางมา ซึ่งขั้นตอนการตรวจค่อนข้างจะใช้เวลานาน เพราะมีการตรวจอย่างละเอียด เราลงเครื่องบินเวลา 4 ทุ่ม กว่าจะได้ออกจากสนามบินก็ประมาณตี 4 แต่ตรวจเข้มก็ดี ทำให้รู้สึกปลอดภัย หลังจากออกจากสนามบิน ก็นั่งรถบัสไปถึงโรงแรมกักตัว และใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นเวลา 14 วัน แล้วจึงไปเฝ้าสังเกตอาการต่อที่บ้านอีก 7 วัน รวมเป็นเวลากักตัวทั้งหมด 21 วันพอดี
ในช่วงที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศจีน ก็ได้สัมผัสถึงการดำเนินนโยบาย Zero-Covid อย่างเข้มข้น คือรัฐบาลจีนได้ลงทุนกับระบบ Health Code หรือโค้ดสุขภาพ ที่เป็น QR Code ในมือถือเรา มี 3 สี คือ เขียว เหลือง แดง ตามระดับความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด ผู้ที่จะเดินทางเข้าสถานที่ต่างๆ ได้ ต้องแสดง Health Code ที่เป็นสีเขียว สิ่งที่น่าสนใจคือ ถ้าเราเกิดไปอยู่ใกล้กับคน/เดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด Health Code ของเราจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองโดยอัตโนมัติ เพราะการเปลี่ยนสีของโค้ดดักจับจากคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ในแต่ละพื้นที่ที่เราอยู่ และเมื่อโค้ดเปลี่ยนสี จะได้รับข้อความเด้งเตือนเข้ามือถือว่า ให้ไปตรวจโควิดทุกกี่วัน รวมกี่ครั้ง ถ้าผลตรวจออกมาว่าปลอดโควิด โค้ดสุขภาพก็จะเปลี่ยนกลับเป็นสีเขียว แต่ถ้าผลออกมาว่าติดเชื้อโควิด โค้ดสุขภาพก็จะกลายเป็นสีแดง
ในส่วนของสังคมไร้เงินสด จีนเป็นสังคมไร้เงินสดที่แท้จริง เป็นประเทศที่ไม่มีใครอยากรับเงินสด เพราะใช้การสแกนจ่ายกันหมด ตั้งแต่ห้างใหญ่ถึงร้านค้าเล็กๆ ริมถนน ใช้กับการเรียกรถแท็กซี่ การสั่งอาหารแบบ delivery ต่างๆ ฯลฯ
ต่อมา ขอเข้าเรื่องงานและชีวิตในกวางโจวค่ะ