ธรรมะ นิวนอร์มอล พระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) วัดบวรนิเวศวิหาร [ถอดเทป]

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

https://www.youtube.com/watch?v=ByPMymgWkzc

จิตใจของเรานั้น ที่ดิ้นรน กวัดแกว่งแสวงหา สิ่งนั้น สิ่งนี้
ไปตามสิ่งที่เรียกว่า กิเลส โลภ โกรธ หลง เห็นโน้นเห็นนี้
ตา หู จมูก ลิ้น กายของเรา เมื่อสัมผัสกับ สิ่งนั้นสิ่งนี้
ก็มีความอยากขึ้นมา เมื่อไม่ได้ตามที่ตัวเองอยาก ก็หงุดหงิด
เริ่มที่จะ มากขึ้นๆ  ก็เป็นความโมโห ความโกรธา และความที่เราโกรธ เราที่เรา
ความที่เราอยากได้ ก็เราก็ ไม่รู้ว่าเพราะ "อะไร" เพราะเรามีความหลงคือความโง่อยู่
เมื่อเราไม่ไปสนใจเรื่องของชาวบ้าน กลับมาดูใจของตัวเราเอง เราก็จะมองเห็นว่าเอ่อ
เรานี้มันโง่ขนาดไหน มาวัดก็เอ่อ มีต้องการที่มาเสก มาช่วยไหม ครูบาอาจารย์เก่งไหม
อันโน่นดีไหม อันโน่นดีไหม ก็คือ เอามาตรฐานของตัวเอง ไปวัดนู้นวัดนี้
แล้วเมื่อไหร่จิตใจเราสงบ เพราะฉะนั้น วิธีการที่พระพุทธเจ้าทรงสอนก็คือ
เมื่อจิตใจเราเดือดร้อน เป็นเหยื่อของ กิเลสอยู่ตลอดเวลา กามตัณหาอยู่ตลอดเวลา
ต้องหิวอยู่ตลอดเวลา ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย พระองค์ก็เลยบอกว่า

นั่นคือสายแห่งความทุกข์ ทุกข์คืออะไร ทุกขะ ทุก แปลว่า ยาก
ขะ แปลว่า ทุกข์ ก็เลยทำให้พวกเรานั้นน่ะ ทนกับสภาพชีวิตที่เราเป็นอยู่ไม่ได้
สุข ก็ตรงกันข้าม ไม่เหมือนกับของฝรั่งตะวันตก ของตะวันตกเวลาพูดถึงความสุข
เค้าเรียกว่า "happiness" แต่ happiness ของฝรั่งนั้นต้องตามล่า
เรียกว่า "pursuit for happiness" ก็คือ ต้องไปไล่ล่าความสุข
แต่พระพุทธเจ้าบอกว่าความสุขหรือความทุกข์ มันไม่ได้อยู่ข้างนอกอย่างนั้น
ความสุขและความทุกข์ อยู่ที่ว่าศักยภาพของเรา ที่จะพัฒนาชีวิต
ของเรา พัฒนาวิธีการมองโลกของเราว่า 

ถ้าเราสามารถที่จะเข้าใจตัวเองว่า เราทุกข์เพราะว่าเราหนิ ต้องมาสนองกามอยู่ตลอดเวลา
สนองตัณหาของเราอยู่ตลอดเวลา และมันทำให้เราดิ้นรนอยู่ตลอดเวลา
ได้ทำให้เราทุกข์ ดังนั้นถ้าปรับใจ ก็ใน ทนในสภาพที่เราเป็นอยู่
หรือทนได้ง่าย "สุขะ" แปลว่า ทนได้ง่าย "ทุกขะ" แปลว่า ทนได้ยาก
ถ้าเรามองเข้าไปแล้วเอ่อ มันวุ่นวายหนอ มันยากหนอ เพราะฉะนั้นอะไรที่เรามีอยู่แล้ว
อื่อ เราก็พอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ อะไรที่เราเป็นอยู่แล้ว ก็พอใจในสิ่งที่เราเป็นอยู่
ความสุขจะต้องไปหา เมื่อมีความพอใจ สิ่งที่มีในสิ่งที่ตัวเองเป็น สิ่งที่ตัวเองมี
ความโง่ที่จะทำให้เราตามล่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ ทาง ตา หู จมูก ลิ้น ก็ลด

คำว่า "บุญ" จริงๆ นั้น ไม่ใช่เป็นการลงทุน อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ 
เวลาเราจะใส่บาตร เวลาเราจะถวายอะไร ตกลงเราถวาย เพื่อผู้รับ หรือว่าเพื่อตัวเอง
วิธีการทั้งหมดนั้นน่ะเป็นบุญ แต่ความเข้าใจเรานั้นอาจจะไม่เป็นบุญเท่าไหร่
ดังนั้นเวลาเราใส่บาตร เราไม่ได้ใส่บาตรเพื่อตัวเราเอง เราใส่บาตรเพราะว่า
เราเห็นว่า พระสงฆ์ท่านไม่มีอาชีพ พระสงฆ์ท่านหุงหาฉันเองไม่ได้
เพราะฉะนั้นเราก็แบ่งปัน สิ่งที่เรามีถวาย ก็คือเป็นการปฏิบัติธรรม
ที่ทำให้เรารู้จักเสียสละ รู้จักทำให้เราปล่อยวางกับสิ่งที่เรายึด
ยึดนู่นยึดนี่ ทำให้เกิดความ "เมตตา กรุณา" ทำให้มองเห็นความสำคัญของอีกชีวิตหนึ่งขึ้นมา
ทำให้จิตใจเราอ่อนโยนขึ้นมา ต้องเอาสิ่งเหล่านี้ที่เป็นธรรมะดีๆ มาผูกนิมิตในใจของเรา 
ถ้าเรามีนิมิตดีๆ อุบายดีๆ มาผูกนิมิต ในใจของเรา เราก็จะสามารถที่จะ
ผูกใจของเรา อยู่กับความดี อยู่กับบุญ อยุ่กับความสุข และนั่นก็คือ

                                     "เป้าหมายของการมีศาสนา"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่