เพราะอะไรคนเชียร์ทหารไทยถึงชอบดูถูก ปธน ยูเครนว่าตัวตลกครับ

คนยูเครนชอบแบบนี้ครับ ถึงประเทศย่อยยับ ตัวตาย, แต่ได้ประชาธิปไตย... เขาชอบของเขานี่ครับ ใครชอบยังไงก็กาบัตรเลือกตั้งแบบนั้น เขาว่าคุ้ม คนอื่นคิดแทนไม่ได้...

ก่อนอื่น ต้องบอกว่าเราต้องเคารพเสียงประชาชนของชาวยูเครนด้วย... เขาออกเสียงเลือกตั้งผู้นำที่มีแนวคิดแบบนี้ นั่นคือเขาต้องการให้ประเทศยูเครนเป็นแบบนี้ ถึงแม้ประเทศย่อยยับ ผู้คนล้มตายเป็นเบือ แต่ลึกๆแล้วกำลังมีความสุข เชื่อว่าตนเองกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง...

นาโต้ต้องการเหมือง/แหล่งน้ำมัน แล้วเอาประชาธิปไตยเข้าแลก ตรงนี้ไม่แปลก ประเทศอื่นๆส่วนใหญ่ในโลกนี้ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น ล่าสุดก็ที่อาเจ่ะห์ แยกประเทศออกไปเป็นติมอร์ฯ โดยเสียสัมปทานน้ำมันให้ แต่ก็ได้ประชาธิปไตย, อย่างน้อยก็นอนฝันหวานถึงเสรีภาพได้... ไม่เหมือนกับที่ฮ่องกง จีนแดงบังคับใช้กฏหมายจริงจัง ไม่ได้ประชาธิปไตย แถมยังต้องโดนคนจีนแผ่นดินใหญ่ดูแคลนอีกต่างหาก...

แล้วก่อนหน้านี้ ประชาชนยูเครนรู้ตัวไหมว่ามันจะเกิดสงครามแบบนี้เพราะรัสเซียไม่ยอมแน่นอน, คนยูเครนรู้แน่นอนเช่นกัน เพราะอยู่ตรงนั้นมานานรับรู้อิทธิพลรัสเซียมานาน ก็ก่อนแยกประเทศ ก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และรู้ด้วยว่าแผ่นดินตนเองเป็นที่หมายปองของต่างชาติเนื่องจากมีดินดีเพาะปลูกข้าวสาลีเลี้ยงยุโรป และมีเหมืองแร่/น้ำมันดิบ, ยูเครนต้องแก้โจทย์ให้ได้ว่าต้องรักษาทรัพยากรเอาไว้ โดยไม่โดนแย่งไปจนหมด... ประชาชนยูเครนพิจารณาแล้ว เห็นว่ายอมตายดีกว่ายอมเสียประชาธิปไตย และยอมเสียทรัพยากรให้นาโต้ดีกว่าเสียให้รัสเซีย...

ตอนนี้ประเทศย่อยยับ ไม่รู้ชีวิตจะเป็นยังไง... แต่นอนหลับฝันหวานประชาธิปไตยครับ...

เพราะมันคือสงครามข่าวสาร การด้อยค่าผู้มีบทบาทนำ ของฝ่ายตรงข้ามคือเรื่องปกติ ทำให้เกิดความลังเลของผู้รับข้อมูล
ในกรณีนี้ ผู้นำยูเครนแกก็เคยเล่นละคร เป็นนักแสดงตลกอยู่จริง เลยหยิบตรงนี้มาด้อยค่ากัน แต่ละเลยข้อมูลที่ว่าเขาก็เรียนนิติศาสตร์จาก สถาบันในยูเครนมาเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ใช่ชั้นนำของประเทศ
กล่าวหาว่าเขาชักศึกเขาบ้านจะนำ NATO เข้ามา แต่ละเลยข้อมูลที่ว่า รัสเซียเองก็เข้ายึดครองไครเมีย สนันสนุนการแบ่งแยกดินแดนในยูเครน และอยู่เบื้องหลังการยิงเครื่องบินมาเลย์ตก ก่อนที่ปธน. คนนี้จะได้รับเลือกมาหลายปีแล้ว และนี่คือการตัดสินใจของคนยูเครน ที่ต้องการคนที่จะมาช่วยให้หลุดพ้นจากรัสเซีย
บอกว่ายูเครนทำร้ายคนเชื้อสายรัสเซียในดอนบาส แต่ละเลยข้อมูลที่ว่า มันคือส่วนหนึ่งการต่อสู้กันระหว่างรัฐกับกบฏในประเทศเขา (ทั้งที่ความจริงตัวเองก็บอกว่าการที่ ทหารพม่า เข่นฆ่าประชาชนที่ต่อต้าน กลุ่มชาติพันธ์ เป็นเรื่องปกติ และเป็นเรื่องภายในประเทศ)

คนพวกที่เหยียดนี่คือต้องเข้าใจว่า แนวคิดอำนาจนิยมยังคงฝังลึกอยู่ในสังคมไทยเยอะอยู่ โดยเฉพาะในคนรุ่นเก่า ที่มักจะสยบยอมต่อผู้มีอำนาจ ฐานะ และข่มผู้ที่ด้อยกว่า ต่างกับคนเจนใหม่ที่จะมีแนวคิดเสรีนิยม มองความเท่าเทียมมากกว่า
แนวคิดอำนาจนิยมจะชอบผู้นำแบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด อำนาจล้น ควบคุมทุกอย่าง ตามแนวทางที่เขาคิดว่าถูกต้อง เพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าประชาชนจะฉลาดพอจะร่วมกันตัดสินใจอะไรได้แบบประชาธิปไตยได้จริง ขนาดที่ว่าถ้าประชาชนเคลื่อนไหวอะไรก็ต้องมีผู้อยู่เบื้องหลังสนับสนุน ไม่มีทางทำได้เอง
ที่นี้ผู้นำไอดอลที่ตอบโจทย์แนวคิดอำนาจนิยมที่สุดในปัจจุบัน คือปูติน รองลงมาก็จะเป็น สี จิ้น ผิง และถัดไปที่อาจจะอยู่ในใจคือประยุทธ์
แล้วเมื่อประเทศมหาอำนาจรัสเซียที่นำโดยผู้นำไอดอลของเขา ทำสงครามกับประเทศที่มีผู้นำมาจากการเลือกตั้งระบอบประชาธิปไตย เขาก็ต้องเชียร์ไอดอล เดินตามแนวคิดอำนาจนิยม รวมถึงได้โอกาศด้อยค่าประชาธิปไตยของจากการเลือกของประชาชนยูเครนไปด้วยในตัว

คนพวกนี้เป็นคนกลุ่มที่สนับสนุนการซื้ออาวุธมาโดยตลอด แต่พอมีสงครามที่ยูเครนกลับโทษยูเครนที่ทำการรบ ไม่ยอมแพ้ เจรจาการฑูต ขัดกับความคิดที่เขาสนับสนุนทางทหารโดยสิ้นเชิง ก็เพราะแนวคิดอำนาจนิยมเช่นกัน ที่ต้องยอมสยบต่อผู้มีอำนาจเหนือกว่า อาวุธที่ซื้อมาก็มีค่าแค่เอาไว้ข่มผู้ที่ด้อยกว่าก็เท่านั้น
แสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุด สุดท้ายก็คือการฑูตอยู่ดี กำลังทางทหารเป็นแค่สิ่งสนับสนุนข้อต่อรองทางการฑูตเท่านั้น