ตัดสินใจซื้อจักรยานไฟฟ้าเพราะบ้านกับที่ทำงานคือใกล้กันมาก และไม่อยากเสียค่าวินทุกวัน เราลองคำนวณปีๆนึงจ่ายค่าวินมาทำงาน ไปกลับวันละ (80 ) X เราทำงาน ( 261 วัน) ปีปีนึงเราเสียไปกับวินสองหมื่นเลย OMG ตอนแรกคือเราลังเลว่าจะซื้อมอเตอร์ไซค์ไปเลยดีไหม แต่หลายๆ ด้วยไลฟ์สไตล์เราก็ไม่ใช่สิงห์นักบิดขนาดนั้น ไม่ได้ชื่นชอบความเร็ว ค่อนข้างระมัดระวังด้วย ตัดสินใจถูกมากๆ ที่เอาน้องมาตอนนั้น ราคาน้ำมันคือไปไกลมาก พี่ๆในออฟฟิศบ่นเกือบทุกวัน งือ
ขอเล่าหน่อยช่วงแรกๆเราลองเดินเข้ามาทำงาน คิดว่าเข้าซอยใกล้ๆนะแก โห เกือบ 2 กม. 5555 หลังๆหรอพี่สุชาติไปเลยค่ะ
หน้าปากซอยทางเข้าหมู่บ้านอ่ะคิดดูถ้าต้องเดินคือแย่แน่ๆ
เราชอบจักรยานไฟฟ้าตัวนี้มาก เพราะดีไซน์ทันสมัย ดูเป็นรุ่นที่ไม่แก่เป็นผู้สูงอายุไป ดูเป็นเยาวรุ่นชาวเรามาก ดูล้ำๆ เหมือนหลุดมากจากอวกาศ เป็นพลังไฟฟ้า ไม่ผลิตก๊าซพิษทำลายอากาศดีๆไป
ฟังก์ชั่นการใช้การใช้การค่อนข้างง่าย น้องมีน้ำหนักเบาๆ กะทัดรัดคล่องตัว เหมาะกับผู้หญิงตัวเล็กๆแบบเรา
ในส่วนของการใช้งาน :
ฝั่งขวา มีปุ่ม P ไว้สำหรับตอนสตาทรถ เราต้องกดปุ่ม P พร้อมกับกำเบรกเบาๆ 1 ครั้ง เพื่อสตาร์ท ปุ่มปิดไฟ, เปิดไฟ,ไฟสูง
ฝั่งด้านซ้าย จะมีปุ่มไฟเลี้ยวซ้าย-ขวา ปุ่มแตร เสียงดังประมาณนึง
รีโมท Smart key การสตาร์ทรถสามารถกดรีโมทสตาร์ทได้เลย คือมันล้ำนะ เดินไปไม่ถึงรถกดสตาร์ทรถก่อนได้เลย ไม่ต้องเสียบกุญแจก็ได้จ้า แต่ต้องอยู่ในระยะใก้ลๆนิดนึง อาจจะด้วยความปลอดภัยด้วย
เมื่อเราสตาร์ทรถหน้าจอแสดงไฟ จะบอกบอกสถานะต่างๆ
- เปอร์เซ็นของแบตเตอร์รี่
- ไฟหน้ารถ
- ความเร็วของรถ / จำนวนระยะทางสะสม (ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย)
เมื่อเราสตาร์ทรถหน้าจอแสดงไฟ มีเสียงเหมือนรถยนต์จะบอกบอกสถานะต่างๆเป็นดิจิตอล หน้าจอแสดงคือเหมือนเอา Tablet มาตั้งไว้หน้ารถ ตัวเลขค่อนข้างใหญ่ บอกความเร็ว , เปอร์เซ็นแบตเตอร์รี่ , เลขไมล์สะสม
ไฟหน้ารถดวงใหญ่ส่องสว่าง,สามดวงจุกๆ ไปเลย หน้าหลังครบ มองๆๆหน้ารถนี่คล้ายมอเตอร์ไซค์ แทบแยกไม่ออกเลย
แฮนด์คือมันพอดี ไม่กว้างไปไม่แคบไปสำหรับเรา ที่จับเหมือนรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปนะ กระจกมองข้าง ซ้าย-ขวา ขนาดกำลังดีไว้มอง เพื่อความปลอดภัย
มีที่แขวนของ ห้อยของที่ซื้อจากซุปเปอร์ได้ และก็ช่องวางโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ ที่เราว้าวอีกอย่างคือนางมีช่องเสียบชาร์จแบบ USB ด้วยวะ คือมันล้ำเกินจักรยานไฟฟ้าไปแล้ว ชั้นตามไม่ทันแล้วพี่บัวลอย 5555
ตัวเบาะรถก็ใหญ่นั่งสบาย ไม่ยุบไม่ยวบ เต็มตูดดี แต่ที่นั่งด้านหลังจริงๆไม่ค่อยมีใครซ้อน เพราะเราจะขับขี่คนเดียว แต่มีบ้างบางครั้งน้องที่ออฟฟิศไปกินก๊วยเตี๋ยวปากซอย ไปซื้อของช่วงพักกลางวัน เราว่าก็ขับง่ายนะ น้องน้ำหนักประมาณ 45-50 กิโล ไม่ส่าย รองรับน้ำหนักได้ถึง 150 กิโลกรัม
ความเร็วสูงสุด 30-35 กิโลเมตร แต่เราก็ขับประมาณ 20-25 เพราะไม่ค่อยซิ่งเท่าไหร่
การชาร์จแบตเตอร์รี่ ชาร์จหนึ่งครั้งสามารถใช้งานได้ 60 กม. เราไปกลับออฟฟิศวันละ 7.5 กม บางวันก่อนกลับห้อง ก็จะแวะไปซุปเปอร์บ้างแวะไป
ตลาด หาอะไรกินแถวออฟฟิศ อาทิตย์นึงก็จะเหลือขีดบางสัปดาห์เหลือถึง สองขีด
การชาร์จไฟครั้งนึงประมาณ 5-6 ชม แล้วก็ดึงออกได้เลย เราจะชาร์จ ทุกๆวัน ศุกร์ หลังจากกลับมาจากที่ทำงาน เราก็ถอดน้องมาชาร์จ ยกถอดมาชาร์จได้เลย น้องมีน้ำหนักเบา เป็นแบตเตอร์รี่ลีเทียม
แต่บางครั้งถ้าแบตหมด หรือว่าลืมชาร์จก็ต้องปั่นจักรยาน5555 แต่ส่วนมากจะไม่ปั่น ปั่นช่วงอากาศเย็นๆมีลมสบายๆ 5555 ฟิลลิ่งตอนปั่นมันต้องสบาย ถ้าไม่สบายอากาศร้อนๆ บิดอย่างเดียวเลยค่ะ
ส่วนตัวเราว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบเรามาก พอได้ใช้งานแล้วโอเคมักมาก คือมันคือ destiny 555 ราคาแอบอาจจะแรงไปนิด แต่เราเลือกผ่อนยาวๆ บวกกับการรับประกัน ดีกว่าซื้อที่มันถูกกว่าแต่ไม่มั่นใจหลังการขาย แบบนั้นคือวัดดวงไป
[CR] วิกฤตน้ำมันแพงเลยเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดประหยัดไปเยอะเลย
เมื่อเราสตาร์ทรถหน้าจอแสดงไฟ มีเสียงเหมือนรถยนต์จะบอกบอกสถานะต่างๆเป็นดิจิตอล หน้าจอแสดงคือเหมือนเอา Tablet มาตั้งไว้หน้ารถ ตัวเลขค่อนข้างใหญ่ บอกความเร็ว , เปอร์เซ็นแบตเตอร์รี่ , เลขไมล์สะสม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้