โควิดยังดุ! ยอดติดเชื้อนิวไฮ 27,071 ราย ดับนิวไฮ 80 ราย รักษาตัวที่ รพ. 1,391 ราย
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3239266
โควิดยังดุ! ยอดติดเชื้อนิวไฮ 27,071 ราย ดับนิวไฮ 80 ราย รักษาตัวที่ รพ. 1,391 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 18 ราย
วันที่ 18 มีนาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 แจ้งยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มในวันนี้ จำนวนรวม 27,071 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 27,022 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 49 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,079,734 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 21,522 ราย หายป่วยสะสม 879,997 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 230,603 ราย และเสียชีวิต 80 ราย
สำหรับจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,391 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 18 ราย อัตราครองเตียง ร้อยละ 27.1
รายงานข่าวแจ้งว่า โดยสถิติดังกล่าว เป็นนิวไฮทั้งยอดติดเชื้อและเสียชีวิต และเป็นวันแรกที่มีการรายงานอัตราการครองเตียง และอัตราเฉลี่ยผู้ป่วยปอดอักเสบในแต่ละจังหวัด
ผวาปัญหาชิพขาดกลับมารุนแรง กระเทือนผลิตรถยนต์ส่งมอบช้า
https://www.dailynews.co.th/news/864788/
ผวาชิพขาดรุนแรงกระทบผลิตรถยนต์ทั่วโลก รวมถึงไทย หลังรัสเซีย-ยูเครนสู้รบกระทบวัตถุดิบการผลิตชิพ ดันราคาพุ่ง เกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิดรับหวั่นกระทบการส่งออก รอประเมินอีก 1-2 เดือนข้างหน้าผลิตได้ตามเป้า 1.8 ล้านคันหรือไม่.
นาย
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กำลังติดตามสถานการณ์ภาวะการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิพ) ที่จะกระทบต่อการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกและไทยอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอาจทำให้ปัญหาการขาดแคลนชิพรุนแรงขึ้น เพราะยูเครนเป็นผู้ส่งออกก๊าซนีออนบริสุทธิ์ 70% ให้กับทั่วโลก เพื่อแกะแบบแผงวงจรให้เป็นแผ่นซิลิคอนเวเฟอร์ เพื่อใช้ผลิตชิพ
“ก่อนหน้านี้ ปัญหาการขาดแคลนชิพก็มีอยู่แล้ว แต่คิดว่าน่าจะทยอยดีขึ้น พอมีปัญหานี้เข้ามาก็ทำให้ภาวะการขาดแคลนยิ่งเพิ่มไปใหญ่ มองว่าภาวะขาดแคลนจะยาวไปถึงสิ้นปี 66 เป็นอย่างน้อย ขณะเดียวกัน ผลพวงดังกล่าวทำให้ราคาก๊าซนีออนสูงขึ้นมาก เป็นปัจจัยทำให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์ทั่วโลกจะสูงขึ้น โดยต้องติดตามว่า สถานการณ์สู้รบจะยืดเยื้อมากน้อยเพียงใด หากยืดเยื้อก็จะยิ่งกระทบมากขึ้น”
ทั้งนี้ ปัญหาชิพขาดยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก ล่าสุดค่ายรถบางยี่ห้อในญี่ปุ่นได้ประกาศลดการผลิตลง 20% ในช่วงเดือน เม.ย., พ.ค. และ มิ.ย. 65 นี้ และพบว่า รถเก่าในญี่ปุ่นกำลังขายดีขึ้น ส่วนประเทศอื่น ๆ รถยนต์บางรุ่นต้องใช้เวลารอนานนับปี ซึ่งการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนไม่เพียงกระทบต่อชิพ หากแต่วัตถุดิบต่าง ๆ โดยเฉพาะเหล็ก ก็มีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมไปถึง พลาสติก ที่มาจากปัญหาราคาน้ำมันแพง ล้วนเป็นปัจจัยต่อต้นทุนการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้บางประเทศเริ่มมีการปรับราคารถยนต์รุ่นใหม่แล้ว ส่วนไทยนั้นยอมรับว่า ขณะนี้การแข่งขันค่อนข้างรุนแรง มีทั้งลด แลก แจก แถม การปรับราคาอาจไม่ง่าย แต่หากต้นทุนขยับสูงมากที่สุดก็ต้องพิจารณาเช่นกัน
สำหรับปี 65 ได้วางเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไว้ทั้งหมด 1.8 ล้านคัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 8 แสนคัน ผลิตเพื่อส่งออก 1 ล้านคัน จากปี 64 ที่ผลิตได้ 1.68 ล้านคัน ยอมรับว่า ต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจไทยและโลกใกล้ชิด เนื่องจากการสู้รบรัสเซีย-ยูเครนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกดดันต่อเศรษฐกิจโดยรวม หากยืดเยื้อและยิ่งบานปลายไปยังพื้นที่อื่น ก็จะยิ่งส่งผลกระทบหนักขึ้น ดังนั้นคงจะต้องติดตามสถานการณ์ภาพรวมอีก 1-2 เดือน หรือตัวเลข มี.ค.-เม.ย. ก็คงจะเห็นภาพชัดเจนถึงแนวโน้มการผลิตรถยนต์
“ค่อนข้างกังวลว่าเป้าหมายดังกล่าวจะเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด เพราะในเดือน ม.ค. 65 การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ปรับตัวลดลงจากเดือน ธ.ค. 64 และ ม.ค. 64 ซึ่งมาจากปัญหาการขาดแคลนชิพ โดยขณะนั้น การประเมินไม่คิดว่าการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนจะเกิดขึ้นรวดเร็ว แม้วันนี้ดูสถานการณ์จะคลี่คลายบ้าง ราคาน้ำมันปรับลด แต่ก็ยังคงไม่ชัดเจน มาตรการคว่ำบาตรต่าง ๆ ก็ยังคงอยู่ ซึ่งการขาดชิพ โชคดีที่ไทยเป็นฐานผลิตรถปิกอัพที่ใช้ชิพน้อย และปัญหาชิพขาดนี้ก็จะกระทบต่อการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) อีกด้วย ที่ต้องติดตามใกล้ชิดเช่นกัน”
“โรม” ถึงบางขุนนท์ยันพร้อมสู้คดี – มวลชนแห่ให้กำลังใจ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_308143/
มวลชนให้กำลังใจ “โรม” พบพนักงานสอบสวน หลังถูกออกหมายจับคดีหมิ่นประมาทมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ยันพร้อมสู้ตามกระบวนการ หวั่นใจกลั่นแกล้งหลุด ส.ส.
ที่ สภ.บางขุนนนท์ มีมวลชนกลุ่มราษฎร และเครือข่ายอีกหลายกลุ่ม นำโดย นาง
อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาให้กำลังใจ นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน หลังถูกออกหมายจับ เพราะไม่ได้มาพบตามหมายเรียก 2 ครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ อยู่ในช่วงของสมัยประชุม ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ของ พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฟ้องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อต้นปี 2563
โดย นาง
อมรัตน์ กล่าวว่า คดีดังกล่าว ไม่ควรมีการออกหมายจับ เพราะเป็นแค่คดีหมิ่นประมาทธรรมดาเท่านั้น แต่ดูเหมือนมีความพยายามที่จะเร่งรัดกระบวนการของคดีต่าง ๆ ที่ยัดเยียดมาเพื่อเป็นการกลั่นแกล้ง สกัดการทำงานของ ส.ส.
โรม ในการปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ เมื่อนาย
รังสมันต์ เดินทางมาถึง พร้อมกับภรรยา และ มี นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ ส.ส.อีกจำนวนหนึ่ง มาให้กำลังใจด้วย มวลชนก็ได้ตะโกนให้กำลังใจ “
โรม สู้ๆ” จากนั้น นาย
รังสิมันต์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ ต้องยอมรับทุกครั้งที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ พาดพิงถึงพล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี คดีก็จะมีการเคลื่อนไหว ทุกครั้ง ซึ่งตนเองก็ยอมรับในกระบวนการ แต่ก็ได้ชี้แจงไปแล้ว หมายเรียกครั้งที่ 1 อยู่ในสมัยประชุม และมีการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ก็ได้ชี้แจงเช่นกัน มีการตกลงกันด้วยวาจา ว่า จะไปพบในเดือน มี.ค. แต่พนักงานสอบสวน กลับออกหมายจับ ก็เลยค่อนข้างแปลกใจ ว่าทำไมตำรวจ สามารถขอศาลออกหมายจับได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ต้องการให้หลบหนี จนมีผลต่อการประกันตัวหรือไม่ และอาจสูญเสียสถานะ ส.ส. เพื่อตรวจสอบรัฐบาล ทั้งนี้ยืนยันพร้อมสู้ ว่าการออกหมายจับ เป็นกระบวนการที่ผิดพลาด และจะต้องพยายามตรวจสอบว่าผู้พิพากษาคนใด ลงนามในหมายจับ มั่นใจการต่อสู้คดีในครั้งนี้ มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ
ด้าน นาย
พิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกล พร้อมยืนเคียงข้าง “
โรม” โดยไม่ได้กังวล แต่ก็ไม่ได้ประมาท เพราะการออกหมายเรียก 2 ครั้งได้มีการชี้แจงแล้ว
JJNY : ติดเชื้อนิวไฮ27,071 ดับนิวไฮ80│ผวาปัญหาชิพขาด│“โรม”ถึงบางขุนนท์ยันพร้อมสู้คดี│อังกฤษส่ง"สกายเซเบอร์"ตั้งโปแลนด์
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3239266
โควิดยังดุ! ยอดติดเชื้อนิวไฮ 27,071 ราย ดับนิวไฮ 80 ราย รักษาตัวที่ รพ. 1,391 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 18 ราย
วันที่ 18 มีนาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 แจ้งยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มในวันนี้ จำนวนรวม 27,071 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 27,022 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 49 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,079,734 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 21,522 ราย หายป่วยสะสม 879,997 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 230,603 ราย และเสียชีวิต 80 ราย
สำหรับจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,391 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 18 ราย อัตราครองเตียง ร้อยละ 27.1
รายงานข่าวแจ้งว่า โดยสถิติดังกล่าว เป็นนิวไฮทั้งยอดติดเชื้อและเสียชีวิต และเป็นวันแรกที่มีการรายงานอัตราการครองเตียง และอัตราเฉลี่ยผู้ป่วยปอดอักเสบในแต่ละจังหวัด
ผวาปัญหาชิพขาดกลับมารุนแรง กระเทือนผลิตรถยนต์ส่งมอบช้า
https://www.dailynews.co.th/news/864788/
ผวาชิพขาดรุนแรงกระทบผลิตรถยนต์ทั่วโลก รวมถึงไทย หลังรัสเซีย-ยูเครนสู้รบกระทบวัตถุดิบการผลิตชิพ ดันราคาพุ่ง เกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิดรับหวั่นกระทบการส่งออก รอประเมินอีก 1-2 เดือนข้างหน้าผลิตได้ตามเป้า 1.8 ล้านคันหรือไม่.
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กำลังติดตามสถานการณ์ภาวะการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิพ) ที่จะกระทบต่อการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกและไทยอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอาจทำให้ปัญหาการขาดแคลนชิพรุนแรงขึ้น เพราะยูเครนเป็นผู้ส่งออกก๊าซนีออนบริสุทธิ์ 70% ให้กับทั่วโลก เพื่อแกะแบบแผงวงจรให้เป็นแผ่นซิลิคอนเวเฟอร์ เพื่อใช้ผลิตชิพ
“ก่อนหน้านี้ ปัญหาการขาดแคลนชิพก็มีอยู่แล้ว แต่คิดว่าน่าจะทยอยดีขึ้น พอมีปัญหานี้เข้ามาก็ทำให้ภาวะการขาดแคลนยิ่งเพิ่มไปใหญ่ มองว่าภาวะขาดแคลนจะยาวไปถึงสิ้นปี 66 เป็นอย่างน้อย ขณะเดียวกัน ผลพวงดังกล่าวทำให้ราคาก๊าซนีออนสูงขึ้นมาก เป็นปัจจัยทำให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์ทั่วโลกจะสูงขึ้น โดยต้องติดตามว่า สถานการณ์สู้รบจะยืดเยื้อมากน้อยเพียงใด หากยืดเยื้อก็จะยิ่งกระทบมากขึ้น”
ทั้งนี้ ปัญหาชิพขาดยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก ล่าสุดค่ายรถบางยี่ห้อในญี่ปุ่นได้ประกาศลดการผลิตลง 20% ในช่วงเดือน เม.ย., พ.ค. และ มิ.ย. 65 นี้ และพบว่า รถเก่าในญี่ปุ่นกำลังขายดีขึ้น ส่วนประเทศอื่น ๆ รถยนต์บางรุ่นต้องใช้เวลารอนานนับปี ซึ่งการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนไม่เพียงกระทบต่อชิพ หากแต่วัตถุดิบต่าง ๆ โดยเฉพาะเหล็ก ก็มีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมไปถึง พลาสติก ที่มาจากปัญหาราคาน้ำมันแพง ล้วนเป็นปัจจัยต่อต้นทุนการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้บางประเทศเริ่มมีการปรับราคารถยนต์รุ่นใหม่แล้ว ส่วนไทยนั้นยอมรับว่า ขณะนี้การแข่งขันค่อนข้างรุนแรง มีทั้งลด แลก แจก แถม การปรับราคาอาจไม่ง่าย แต่หากต้นทุนขยับสูงมากที่สุดก็ต้องพิจารณาเช่นกัน
สำหรับปี 65 ได้วางเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไว้ทั้งหมด 1.8 ล้านคัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 8 แสนคัน ผลิตเพื่อส่งออก 1 ล้านคัน จากปี 64 ที่ผลิตได้ 1.68 ล้านคัน ยอมรับว่า ต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจไทยและโลกใกล้ชิด เนื่องจากการสู้รบรัสเซีย-ยูเครนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกดดันต่อเศรษฐกิจโดยรวม หากยืดเยื้อและยิ่งบานปลายไปยังพื้นที่อื่น ก็จะยิ่งส่งผลกระทบหนักขึ้น ดังนั้นคงจะต้องติดตามสถานการณ์ภาพรวมอีก 1-2 เดือน หรือตัวเลข มี.ค.-เม.ย. ก็คงจะเห็นภาพชัดเจนถึงแนวโน้มการผลิตรถยนต์
“ค่อนข้างกังวลว่าเป้าหมายดังกล่าวจะเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด เพราะในเดือน ม.ค. 65 การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ปรับตัวลดลงจากเดือน ธ.ค. 64 และ ม.ค. 64 ซึ่งมาจากปัญหาการขาดแคลนชิพ โดยขณะนั้น การประเมินไม่คิดว่าการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนจะเกิดขึ้นรวดเร็ว แม้วันนี้ดูสถานการณ์จะคลี่คลายบ้าง ราคาน้ำมันปรับลด แต่ก็ยังคงไม่ชัดเจน มาตรการคว่ำบาตรต่าง ๆ ก็ยังคงอยู่ ซึ่งการขาดชิพ โชคดีที่ไทยเป็นฐานผลิตรถปิกอัพที่ใช้ชิพน้อย และปัญหาชิพขาดนี้ก็จะกระทบต่อการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) อีกด้วย ที่ต้องติดตามใกล้ชิดเช่นกัน”
“โรม” ถึงบางขุนนท์ยันพร้อมสู้คดี – มวลชนแห่ให้กำลังใจ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_308143/
มวลชนให้กำลังใจ “โรม” พบพนักงานสอบสวน หลังถูกออกหมายจับคดีหมิ่นประมาทมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ยันพร้อมสู้ตามกระบวนการ หวั่นใจกลั่นแกล้งหลุด ส.ส.
ที่ สภ.บางขุนนนท์ มีมวลชนกลุ่มราษฎร และเครือข่ายอีกหลายกลุ่ม นำโดย นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาให้กำลังใจ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน หลังถูกออกหมายจับ เพราะไม่ได้มาพบตามหมายเรียก 2 ครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ อยู่ในช่วงของสมัยประชุม ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฟ้องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อต้นปี 2563
โดย นางอมรัตน์ กล่าวว่า คดีดังกล่าว ไม่ควรมีการออกหมายจับ เพราะเป็นแค่คดีหมิ่นประมาทธรรมดาเท่านั้น แต่ดูเหมือนมีความพยายามที่จะเร่งรัดกระบวนการของคดีต่าง ๆ ที่ยัดเยียดมาเพื่อเป็นการกลั่นแกล้ง สกัดการทำงานของ ส.ส.โรม ในการปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ เมื่อนายรังสมันต์ เดินทางมาถึง พร้อมกับภรรยา และ มี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ ส.ส.อีกจำนวนหนึ่ง มาให้กำลังใจด้วย มวลชนก็ได้ตะโกนให้กำลังใจ “โรม สู้ๆ” จากนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ ต้องยอมรับทุกครั้งที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ พาดพิงถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี คดีก็จะมีการเคลื่อนไหว ทุกครั้ง ซึ่งตนเองก็ยอมรับในกระบวนการ แต่ก็ได้ชี้แจงไปแล้ว หมายเรียกครั้งที่ 1 อยู่ในสมัยประชุม และมีการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ก็ได้ชี้แจงเช่นกัน มีการตกลงกันด้วยวาจา ว่า จะไปพบในเดือน มี.ค. แต่พนักงานสอบสวน กลับออกหมายจับ ก็เลยค่อนข้างแปลกใจ ว่าทำไมตำรวจ สามารถขอศาลออกหมายจับได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ต้องการให้หลบหนี จนมีผลต่อการประกันตัวหรือไม่ และอาจสูญเสียสถานะ ส.ส. เพื่อตรวจสอบรัฐบาล ทั้งนี้ยืนยันพร้อมสู้ ว่าการออกหมายจับ เป็นกระบวนการที่ผิดพลาด และจะต้องพยายามตรวจสอบว่าผู้พิพากษาคนใด ลงนามในหมายจับ มั่นใจการต่อสู้คดีในครั้งนี้ มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ
ด้าน นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกล พร้อมยืนเคียงข้าง “โรม” โดยไม่ได้กังวล แต่ก็ไม่ได้ประมาท เพราะการออกหมายเรียก 2 ครั้งได้มีการชี้แจงแล้ว