
ทูตรัสเซียชื่นชมไทย “วางตัวเป็นกลาง” ไม่ติดใจการลงมติสมัชชายูเอ็น
เอกอัครราชทูตรัสเซียขอบคุณการวางตัวเป็นกลางของรัฐบาลไทย ที่มีต่อวิกฤติการณ์ในยูเครน และยืนยันว่า "เข้าใจ" การลงมติของไทยบนเวทีสมัชชาสหประชาชาติ
นายเยฟกินี โทมิคิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย แถลงที่สถานเอกอัครราชทูต เมื่อวันอังคาร มีเนื้อหาในตอนหนึ่งว่ารัสเซียมีความเข้าใจในจุดยืนของไทย ที่มีต่อสงครามซึ่งกำลังเกิดขึ้นในยูเครน รัสเซียขอขอบคุณและชื่นชมท่าทีของรัฐบาลไทย ซึ่งวางตัวเป็นกลางมาตลอด และมีความซาบซึ้งใจ ต่อมาตรการด้านความมั่นคงของทางการไทย ซึ่งให้ความคุ้มครองสถานเอกอัครราชทูตเป็นอย่างดี
นายโทมิคิน กล่าวต่อไปว่า แม้ไทยเป็นหนึ่งใน 141 ประเทศ ที่ออกเสียงสนับสนุนมติของสมัชชาสหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) เมื่อต้นเดือนนี้ เรียกร้องรัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครนทันที อย่างไรก็ตาม รัสเซียคาดการณ์ว่า เป็นผลจาก “แรงกดดันของตะวันตก” และรัฐบาลมอสโกไม่ติดใจในเรื่องนี้
เกี่ยวกับระยะเวลาของการสู้รบว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด นายโทมิคิน กล่าวว่า ยากที่จะกำหนดได้ แต่กองทัพรัสเซียพร้อมปฏิบัติการจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย นั่นคือ ยูเครน “ต้องเป็นกลางทางทหาร” เท่านั้น
เมื่อพูดถึงการที่นักท่องเที่ยวรัสเซียจำนวนมากตกค้างอยู่ในไทย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก นายโทมิคินกล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกแห่งอีกครั้ง ในการมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ตอนนี้ สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางการไทย เพื่อจัดการเรื่องเอกสารให้กับบรรดานักท่องเที่ยวที่ตกค้าง ให้สามารถพักอยู่ในไทยต่อได้ชั่วคราว.
... สามารถติดตามต่อได้ที่ :
https://www.dailynews.co.th/news/859702/

'ทูตสหรัฐ' โปรยยาหอม! ยกย่องไทยลงมติเรียกร้องรัสเซียหยุดใช้กำลังทหารกับยูเครน
11 มี.ค.2565 - นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตและรักษาการแทนเอกอัครราชฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวถึงเหตุการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนว่า “นี่เป็นสงครามการรุกรานโดยปูติน ยูเครนไม่ได้เป็นภัยต่อรัสเซียเลย และมีเพียงปูตินเท่านั้นที่ต้องรับผิดชอบต่อความรุนแรงที่ไร้เหตุผลและการรุกรานอธิปไตยในครั้งนี้”
อุปทูตฮีธ กล่าวว่า เรายกย่องไทยที่ร่วมกับประเทศส่วนใหญ่ลงคะแนนเสียงอย่างล้นหลาม ณ สหประชาชาติ ให้รัสเซียหยุดใช้กำลังทหารกับยูเครนโดยทันที ประเทศทั้งหมด 141 ประเทศโหวตสนับสนุนข้อมตินี้ ซึ่งเน้นย้ำถึงอธิปไตย เอกราช และบูรณภาพทางดินแดนของยูเครน ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้พยายามคลี่คลายความขัดแย้งที่ไม่เป็นธรรมและไร้ความชอบธรรมด้วยการทูตและสันติวิธีมาโดยตลอด และยังคงเดินหน้าทำเช่นนั้นต่อไป
“เราชื่นชมความกล้าของชาวยูเครนที่กำลังปกป้องประเทศของตนจากการรุกรานที่โหดร้ายทารุณและผิดทำนองคลองธรรมในครั้งนี้ สหรัฐฯ ได้พยายามคลี่คลายความขัดแย้งที่ไม่เป็นธรรมและไร้ความชอบธรรมด้วยการทูตและสันติวิธีมาโดยตลอด และยังคงเดินหน้าทำเช่นนั้นต่อไป” อุปทูตสหรัฐฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่ง ของการการตอบคำถามผู้สื่อข่าวสายความมั่นคง ที่ได้รับเชิญไปพบปะพูดคุยสถานการณ์ทั่วไป ที่บ้านรับรองประจำตำแหน่งเอกอัคราชฑูตสหรัฐฯประจำประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา
https://www.thaipost.net/hi-light/102383/

ขอบคุณรัฐบาลไทยที่พาประเทศเดินถูกทางนะคะ
ไทยมีความจริงใจต่อมิตรประเทศ วางตัวเป็นกลาง เน้นช่วยเหลือเพื่อนต่างชาติในประเทศไทย เป็นคำตอบที่ชัดเจน
ส่วนการทำตามเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมก็ทำไปตามวิถีที่ถูกต้อง ใช้การเจรจาหาสันติแทนการประนาม
ไทยต้องพึ่งพาการส่งออกสินค้า การนำเข้าสินค้าสำคัญๆจึงต้องรู้รักษาตัวรอดในสถานการณ์เสี่ยงสงคราม
ต่างชาติเข้าใจประเทศไทย นี่คือความสำเร็จทางการต่างประเทศของนายกฯลุงตู่ค่ะ


....

💗มาลาริน/ไทยรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี...ทูตรัสเซียชื่นชมไทย “วางตัวเป็นกลาง” ไม่ติดใจการลงมติสมัชชายูเอ็น
เอกอัครราชทูตรัสเซียขอบคุณการวางตัวเป็นกลางของรัฐบาลไทย ที่มีต่อวิกฤติการณ์ในยูเครน และยืนยันว่า "เข้าใจ" การลงมติของไทยบนเวทีสมัชชาสหประชาชาติ
นายเยฟกินี โทมิคิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย แถลงที่สถานเอกอัครราชทูต เมื่อวันอังคาร มีเนื้อหาในตอนหนึ่งว่ารัสเซียมีความเข้าใจในจุดยืนของไทย ที่มีต่อสงครามซึ่งกำลังเกิดขึ้นในยูเครน รัสเซียขอขอบคุณและชื่นชมท่าทีของรัฐบาลไทย ซึ่งวางตัวเป็นกลางมาตลอด และมีความซาบซึ้งใจ ต่อมาตรการด้านความมั่นคงของทางการไทย ซึ่งให้ความคุ้มครองสถานเอกอัครราชทูตเป็นอย่างดี
นายโทมิคิน กล่าวต่อไปว่า แม้ไทยเป็นหนึ่งใน 141 ประเทศ ที่ออกเสียงสนับสนุนมติของสมัชชาสหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) เมื่อต้นเดือนนี้ เรียกร้องรัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครนทันที อย่างไรก็ตาม รัสเซียคาดการณ์ว่า เป็นผลจาก “แรงกดดันของตะวันตก” และรัฐบาลมอสโกไม่ติดใจในเรื่องนี้
เกี่ยวกับระยะเวลาของการสู้รบว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด นายโทมิคิน กล่าวว่า ยากที่จะกำหนดได้ แต่กองทัพรัสเซียพร้อมปฏิบัติการจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย นั่นคือ ยูเครน “ต้องเป็นกลางทางทหาร” เท่านั้น
เมื่อพูดถึงการที่นักท่องเที่ยวรัสเซียจำนวนมากตกค้างอยู่ในไทย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก นายโทมิคินกล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกแห่งอีกครั้ง ในการมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ตอนนี้ สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางการไทย เพื่อจัดการเรื่องเอกสารให้กับบรรดานักท่องเที่ยวที่ตกค้าง ให้สามารถพักอยู่ในไทยต่อได้ชั่วคราว.
... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/859702/
11 มี.ค.2565 - นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตและรักษาการแทนเอกอัครราชฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวถึงเหตุการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนว่า “นี่เป็นสงครามการรุกรานโดยปูติน ยูเครนไม่ได้เป็นภัยต่อรัสเซียเลย และมีเพียงปูตินเท่านั้นที่ต้องรับผิดชอบต่อความรุนแรงที่ไร้เหตุผลและการรุกรานอธิปไตยในครั้งนี้”
อุปทูตฮีธ กล่าวว่า เรายกย่องไทยที่ร่วมกับประเทศส่วนใหญ่ลงคะแนนเสียงอย่างล้นหลาม ณ สหประชาชาติ ให้รัสเซียหยุดใช้กำลังทหารกับยูเครนโดยทันที ประเทศทั้งหมด 141 ประเทศโหวตสนับสนุนข้อมตินี้ ซึ่งเน้นย้ำถึงอธิปไตย เอกราช และบูรณภาพทางดินแดนของยูเครน ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้พยายามคลี่คลายความขัดแย้งที่ไม่เป็นธรรมและไร้ความชอบธรรมด้วยการทูตและสันติวิธีมาโดยตลอด และยังคงเดินหน้าทำเช่นนั้นต่อไป
“เราชื่นชมความกล้าของชาวยูเครนที่กำลังปกป้องประเทศของตนจากการรุกรานที่โหดร้ายทารุณและผิดทำนองคลองธรรมในครั้งนี้ สหรัฐฯ ได้พยายามคลี่คลายความขัดแย้งที่ไม่เป็นธรรมและไร้ความชอบธรรมด้วยการทูตและสันติวิธีมาโดยตลอด และยังคงเดินหน้าทำเช่นนั้นต่อไป” อุปทูตสหรัฐฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่ง ของการการตอบคำถามผู้สื่อข่าวสายความมั่นคง ที่ได้รับเชิญไปพบปะพูดคุยสถานการณ์ทั่วไป ที่บ้านรับรองประจำตำแหน่งเอกอัคราชฑูตสหรัฐฯประจำประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา
https://www.thaipost.net/hi-light/102383/
ไทยมีความจริงใจต่อมิตรประเทศ วางตัวเป็นกลาง เน้นช่วยเหลือเพื่อนต่างชาติในประเทศไทย เป็นคำตอบที่ชัดเจน
ส่วนการทำตามเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมก็ทำไปตามวิถีที่ถูกต้อง ใช้การเจรจาหาสันติแทนการประนาม
ไทยต้องพึ่งพาการส่งออกสินค้า การนำเข้าสินค้าสำคัญๆจึงต้องรู้รักษาตัวรอดในสถานการณ์เสี่ยงสงคราม
ต่างชาติเข้าใจประเทศไทย นี่คือความสำเร็จทางการต่างประเทศของนายกฯลุงตู่ค่ะ