The Labyrinth ดึก ตึก ผี
อกอีแป้นจะแตกระหว่างที่ดู The Lybyrith หรือชื่อไทยว่าดึก ตึก ผี จริงๆก็แอบแหม่งๆ ตั้งแต่ดูตัวอย่างแล้วว่าหนังมันน่าจะดูบ้งๆ แต่ก็แอบคาดหวังว่ามันคงมาแนวแฟนตาซี หลุดๆ แต่พอผ่านไปสัก 15 นาที ก็เริ่มตระหนักได้แล้วว่า วิธีการเล่าเรื่อง การกำกับ ไปจนถึงตัดต่อนี่เข้าขั้นหนักหนาสาหัส จนเกิดอาการเกาหัวว่า นี่พี่ตั้งใจจะเล่าหนังกันแบบนี้จริงๆเหรอ เพราะตัด คัทซีน ฉึบฉับชนิดที่ว่าเริ่มสงสัยว่าบางฉากนี่ฟุตเทจถ่ายมาแค่นั้นรึไง ถึงตัดห้วนๆ แล้วตัวละครคุยกันอยู่ดีๆ แล้วยังไม่ทันจบท้ายประโยค หนังก็ตัดปึ้งเปลี่ยนฉากไปเลย เป็นงงดิ
จะว่าไปวิธีการหยิบเกมมาเล่าเนี่ย ดูเป็นปัญหาของคนทำหนังทุกเรื่อง แต่บางเรื่องก็เอาตัวรอดไป ส่วนThe Lybyrith ที่หยิบเอา เกม White Day: A Labyrinth Named School ซึ่งถ้าใครนึกไม่ออกว่าเป็นเกมแนวไหน ก็ให้นึกถึง Resident Evil เวอร์ชั่น นร.มัธยม เข้าไปเจอผีในโรงเรียนตัวเองแล้วต้องไขปริศนาเอาตัวรอดออกมานั่นแหละ
ปัญหาอยู่ตรงนี้ ตอนมันเป็นเกม มันดูเมคเซนส์ในการที่ตัวละครจะต้องมุดไปตามปล่องระบายอากาศ หรือ เข้ามาในโรงเรียนยามวิกาลเพราะจะเอาไดอารี่ไปคืนสาวที่แอบชอบ แต่พอมันกลายมาเป็นหนังคนแสดง (มิหนำซ้ำยังถมตัวละครตัวอื่นๆ มาเพียบ อาทิ แก๊งเด็กเกเรที่มามั่วสุมกินเหล้ากัน ซึ่งก็ไม่ยากต่อการคาดเดาว่าตัวละครพวกนี้คงตายห่ากันเป็นรายแรกๆ ตามสูตรหนังผี) แต่ก็นั่นแหละ เมื่อพฤติกรรมของตัวละครไม่แมคเซนส์ มันเลยเกิดความอิหยังวะกันไปตลอดยันจบ
โอเค หนังพยายามใส่องค์ประกอบที่อยู่ในเกมมาอย่างครบครัน แต่พอมันเลือกจะเล่าในโทนของหนังแฟนตาซี มีปล่อยแส้พลังกันอีก มันก็ดูไม่ไปด้วยกันกับเรื่อง เพราะจะเป็นผีแบบน่ากลัวก็ไม่ใช่ จะเป็นหนังไล่ผีก็ดูครึ่งๆกลางๆ จะเป็นหนังรอมคอมก็ไม่รอด ท้ายๆเรื่องก็เป็นละครฟ้ามีตา ช่อง 7 ไปอี๊ก! คือผู้กำกับอยากจะทำหนังทุกแนวแต่ยัดเข้ามาในหนังเรื่องเดียวกัน มันไม่ได้!!!! อารมณ์มันสวิงมั่วซั่วไปหมด
ระหว่างดูนี่พยายามจะทำใจว่า หนังอาจจะทำออกเป็นสไตล์ หอแต๋วแตก หรือไม่ก็พี่นาค อะไรประมาณนั้น แต่คนละเบอร์เลย จะบอกว่าหนังไทยสองเรื่องที่อ้างอิง สนุกกว่ามากๆ และกล่าวรวมๆคือ ไปนั่งดูแคสเกมของ White Day: A Labyrinth Named School สนุกกว่าดูหนังเรื่องนี้เยอะแยะมากมายจ้า!
Comeback Stage ทั้งทีขอฝากเพจหน่อยน้า ใครชอบดูหนัง - รีวิว เอเวอร์รีติง จังเกอเบล ตามไปเมาท์มอยกันได้ที่
https://www.facebook.com/PrettyPlaSalid
[CR] [Comeback Stage Review] The Labyrinth ดึก ตึก ผี - อก อีแป้น จะแตก!
จะว่าไปวิธีการหยิบเกมมาเล่าเนี่ย ดูเป็นปัญหาของคนทำหนังทุกเรื่อง แต่บางเรื่องก็เอาตัวรอดไป ส่วนThe Lybyrith ที่หยิบเอา เกม White Day: A Labyrinth Named School ซึ่งถ้าใครนึกไม่ออกว่าเป็นเกมแนวไหน ก็ให้นึกถึง Resident Evil เวอร์ชั่น นร.มัธยม เข้าไปเจอผีในโรงเรียนตัวเองแล้วต้องไขปริศนาเอาตัวรอดออกมานั่นแหละ
ปัญหาอยู่ตรงนี้ ตอนมันเป็นเกม มันดูเมคเซนส์ในการที่ตัวละครจะต้องมุดไปตามปล่องระบายอากาศ หรือ เข้ามาในโรงเรียนยามวิกาลเพราะจะเอาไดอารี่ไปคืนสาวที่แอบชอบ แต่พอมันกลายมาเป็นหนังคนแสดง (มิหนำซ้ำยังถมตัวละครตัวอื่นๆ มาเพียบ อาทิ แก๊งเด็กเกเรที่มามั่วสุมกินเหล้ากัน ซึ่งก็ไม่ยากต่อการคาดเดาว่าตัวละครพวกนี้คงตายห่ากันเป็นรายแรกๆ ตามสูตรหนังผี) แต่ก็นั่นแหละ เมื่อพฤติกรรมของตัวละครไม่แมคเซนส์ มันเลยเกิดความอิหยังวะกันไปตลอดยันจบ
โอเค หนังพยายามใส่องค์ประกอบที่อยู่ในเกมมาอย่างครบครัน แต่พอมันเลือกจะเล่าในโทนของหนังแฟนตาซี มีปล่อยแส้พลังกันอีก มันก็ดูไม่ไปด้วยกันกับเรื่อง เพราะจะเป็นผีแบบน่ากลัวก็ไม่ใช่ จะเป็นหนังไล่ผีก็ดูครึ่งๆกลางๆ จะเป็นหนังรอมคอมก็ไม่รอด ท้ายๆเรื่องก็เป็นละครฟ้ามีตา ช่อง 7 ไปอี๊ก! คือผู้กำกับอยากจะทำหนังทุกแนวแต่ยัดเข้ามาในหนังเรื่องเดียวกัน มันไม่ได้!!!! อารมณ์มันสวิงมั่วซั่วไปหมด
ระหว่างดูนี่พยายามจะทำใจว่า หนังอาจจะทำออกเป็นสไตล์ หอแต๋วแตก หรือไม่ก็พี่นาค อะไรประมาณนั้น แต่คนละเบอร์เลย จะบอกว่าหนังไทยสองเรื่องที่อ้างอิง สนุกกว่ามากๆ และกล่าวรวมๆคือ ไปนั่งดูแคสเกมของ White Day: A Labyrinth Named School สนุกกว่าดูหนังเรื่องนี้เยอะแยะมากมายจ้า!
Comeback Stage ทั้งทีขอฝากเพจหน่อยน้า ใครชอบดูหนัง - รีวิว เอเวอร์รีติง จังเกอเบล ตามไปเมาท์มอยกันได้ที่ https://www.facebook.com/PrettyPlaSalid
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้