เพิ่งคุยกับแม่มา แม่เชื่อมากว่าแตงโมถูกฆาตกรรม เลยใช้ socratic method ลองแย๊บดูว่าแนวคิดนี้ มันพัฒนามายังไง
เรา: ยังไง ไหนเล่า?
แม่: ตม ถูกเอาขวดไวน์ตีหัว มีวิดีโอออกมาเลย
เรา: แผลที่หัว มันอาจเกิดจากหลายสาเหตุก็ได้ แล้วถ้ามีวิดีโอออกมา เห็นว่าใครตี คดีก็จบเลยสิ ง่ายเลย
แม่: วิดีโอไม่เห็น แต่ “เขาว่า” (เขาคือใคร?) รบ ตี
เรา: สมมติว่า รบ ตีจริง ทำไมคนที่เหลือต้องช่วยกันปิดให้ รบ ด้วย
แม่: เพราะ ป สั่งให้ปิด
เรา: ทำไม ป ต้องช่วย รบ ด้วย ทำไม ป ต้องหาเรื่องเข้าตัว
แม่: เพราะเขาทำธุรกิจด้วยกัน เขาอาจมีนอกมีใน สีเทา และต้องช่วยกัน
เรา: โอเค ถ้า ป อยากช่วย รบ จริง ทำไมที่เหลือต้องฟังปอ และช่วย รบ ด้วย เช่น ซ ก็รวยและมีเส้นสาย
แม่: ป ขู่จะเก็บทุกคน ถ้าไม่ทำตาม มีข่าวว่า เคยเอาปืนไปตบคนอื่นที่สนามแข่งรถ เกรี้ยวกราด
เรา: ป แค่ขายรถไม่ใช่หรอ ทำไมมาเฟียขนาดนั้น?
แม่: ก็มาเฟียไง ลูกไม่ได้ตามข่าว ลูกไม่รู่หรอก
เรา: 😂 หนูคิดว่าหนูตามข่าว และคิดตามเยอะอยู่นะ เอาเถอะ
บทสนทนานี้ไม่ได้มีเจตนาจะเผาบุพการีแต่อย่างใด แต่มันทำให้เราได้เข้าใจมากขึ้นว่า สื่อมีบทบาทในการพัฒนาข่าวลือ ให้กลายเป็นความเชื่ออย่างไร และทำไมความเชื่อที่ถูกประโคมย้ำซ้ำๆ สามารถพัฒนาเป็นความจริงสำหรับบางคนได้
การที่แนวคิดแบบนี้ มันไม่ได้เกิดกับคนๆเดียว แต่แพร่หลายใน twitter facebook etc. ในสังคมหมู่กว้าง นอกจากมันสะท้อนการใช้เหตุผลของคนในสังคม ความเละเทะของสื่อ มันอาจสะท้อนสิ้นหวังในระบบยุติธรรมด้วยรึเปล่า? ถึงสามารถเชื่อได้ว่าใครก็สามารถเก็บใครก็ได้ ปิดข่าวได้ ถ้ามีเงินและอำนาจมากพอ
มีใครที่เพื่อนหรือคนที่บ้าน มีความเชื่อและคำอธิบายคดี ตม แบบทฤษฏีสมคบคิดบ้าง เรื่องเล่าเขาเป็นยังไง?
คดีแตงโม: มีเพื่อน หรือ คนในครอบครัวใคร เชื่อว่าฆาตรกรรม และมีคำอธิบายแบบสุดโต่งบ้าง
เรา: ยังไง ไหนเล่า?
แม่: ตม ถูกเอาขวดไวน์ตีหัว มีวิดีโอออกมาเลย
เรา: แผลที่หัว มันอาจเกิดจากหลายสาเหตุก็ได้ แล้วถ้ามีวิดีโอออกมา เห็นว่าใครตี คดีก็จบเลยสิ ง่ายเลย
แม่: วิดีโอไม่เห็น แต่ “เขาว่า” (เขาคือใคร?) รบ ตี
เรา: สมมติว่า รบ ตีจริง ทำไมคนที่เหลือต้องช่วยกันปิดให้ รบ ด้วย
แม่: เพราะ ป สั่งให้ปิด
เรา: ทำไม ป ต้องช่วย รบ ด้วย ทำไม ป ต้องหาเรื่องเข้าตัว
แม่: เพราะเขาทำธุรกิจด้วยกัน เขาอาจมีนอกมีใน สีเทา และต้องช่วยกัน
เรา: โอเค ถ้า ป อยากช่วย รบ จริง ทำไมที่เหลือต้องฟังปอ และช่วย รบ ด้วย เช่น ซ ก็รวยและมีเส้นสาย
แม่: ป ขู่จะเก็บทุกคน ถ้าไม่ทำตาม มีข่าวว่า เคยเอาปืนไปตบคนอื่นที่สนามแข่งรถ เกรี้ยวกราด
เรา: ป แค่ขายรถไม่ใช่หรอ ทำไมมาเฟียขนาดนั้น?
แม่: ก็มาเฟียไง ลูกไม่ได้ตามข่าว ลูกไม่รู่หรอก
เรา: 😂 หนูคิดว่าหนูตามข่าว และคิดตามเยอะอยู่นะ เอาเถอะ
บทสนทนานี้ไม่ได้มีเจตนาจะเผาบุพการีแต่อย่างใด แต่มันทำให้เราได้เข้าใจมากขึ้นว่า สื่อมีบทบาทในการพัฒนาข่าวลือ ให้กลายเป็นความเชื่ออย่างไร และทำไมความเชื่อที่ถูกประโคมย้ำซ้ำๆ สามารถพัฒนาเป็นความจริงสำหรับบางคนได้
การที่แนวคิดแบบนี้ มันไม่ได้เกิดกับคนๆเดียว แต่แพร่หลายใน twitter facebook etc. ในสังคมหมู่กว้าง นอกจากมันสะท้อนการใช้เหตุผลของคนในสังคม ความเละเทะของสื่อ มันอาจสะท้อนสิ้นหวังในระบบยุติธรรมด้วยรึเปล่า? ถึงสามารถเชื่อได้ว่าใครก็สามารถเก็บใครก็ได้ ปิดข่าวได้ ถ้ามีเงินและอำนาจมากพอ
มีใครที่เพื่อนหรือคนที่บ้าน มีความเชื่อและคำอธิบายคดี ตม แบบทฤษฏีสมคบคิดบ้าง เรื่องเล่าเขาเป็นยังไง?