สวัสดีค่ะ เราเป็นแม่ฟูลไทม์เลี้ยงลูกสองคนนะคะ คนโตสามขวบ คนเล็กหนึ่งขวบ เรื่องมันมีอยู่ว่า เรากับแม่สามีไม่ค่อยถูกกันค่ะ จริงตอนก่อนมีลูก ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะคะ แต่แค่ต่างคนต่างอยู่ไม่ค่อยได้เจอได้คุยกัน เพราะบ้านสามีทำร้านอาหาร แม่สามีก็จะออกไปที่ร้าน กลับมาดึกแล้วก็เข้าห้องนอน ส่วนเราเองเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านคนเดียว ตอนมีลูกคนแรกเราก็จะออกไปร้านตอนช่วงเย็นๆ เอาหลานไปเจอไปเล่นกับเค้าค่ะ แต่พอมีคนที่สอง แล้วมีโควิด ทำให้มีอยู่ช่วงนึงแม่สามีต้องอยู่แต่บ้าน ทีนี้พอต้องอยู่บ้านด้วยกันมากขึ้น เรื่องเลี้ยงลูกเป็นปัญหามากนับตั้งแต่นั้น
คือเราเลี้ยงลูกแบบสมัยใหม่ค่ะ ฝึกลูกช่วยเหลือตัวเอง กินข้าวเองไม่เดินตามป้อน ไม่ให้ดูมือถือ เน้นอ่านนิทาน เล่นกับลูกเอง ประมานนี้ แต่แม่สามีคือทำตรงกันข้ามกับเราทุกอย่างเลยค่ะ บ้านสามีเลี้ยงเด็กแบบปล่อยมาก ไม่มีตารางเวลา ลูกอยากได้อะไรแม่สามีจัดให้ซื้อให้หมดทุกอย่าง เช่นเรื่องทานขนม ลูกคนเล็กแค่หนึ่งขวบเราจะไม่ค่อยให้ทานขนมหวานค่ะ ให้ทานเป็นข้าวเลยกับพวกผลไม้ แต่ลูกคนโตก็มีให้ทานขนม ไอติม เค้กได้แต่มีข้อแม้ให้ทานข้าวก่อน แต่แม่สามีชอบให้ลูกเราทานแบบไม่ต้องกินข้าวก็ได้ ให้กินอะไรก็ได้ที่หลานชอบ ซึ่งเราก็ห้ามค่ะ บอกเค้าว่าให้ลูกเรากินข้าวก่อน พูดหลายครั้ง จนมีครั้งนึงเค้าพูดใส่เรา หาว่าเราไม่ยอมให้ลูกกินอะไรเลย ซึ่งจริงๆแล้วเราแค่อยากให้ลูกทานของที่มีประโยชน์ก่อน แล้วค่อยทานขนมทีหลัง ไม่งั้นพอเค้าอิ่มเค้าจะไม่ทานข้าวค่ะ
และวิธีการสอนหลานของแม่สามี มีหลายเรื่องที่เราไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ เช่นเวลาลูกเราร้องไห้ แม่สามีเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก็เลยยื่นเงินให้ บอกอาม่าให้เงินนะให้หยุดร้องไห้ ซึ่งพอเราบอก แม่คะไม่เอาค่ะ คือลูกเราไม่ได้ต้องการเงินค่ะ เค้าร้องเพราะเหตุผลอื่น เราไม่อยากสอนให้ลูกเราคิดว่าพอได้เงินก็หยุดร้อง ทั้งๆที่สาเหตุที่เค้าร้องไม่ได้เกี่ยวกับเงินเลย มันคนละเรื่องกันเลย ลูกเรายังเล็กยังไม่รู้จักเลยค่ะว่าเงินทำอะไรได้🤣เราอยากให้เค้ารู้จักอารมณ์ตัวเอง และรู้จักแก้ปัญหา แต่แม่สามีไม่พอใจ คงคิดว่าเราขัดเค้า เค้าคงไม่พอใจเราค่ะ
เรื่องมือถือหรือทีวี เราก็ไม่ได้ให้ลูกดูตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ยิ่งคนเล็กเพิ่งหนึ่งขวบคือไม่ให้ดูเลย ส่วนคนโตก็ไม่ค่อยให้ดูค่ะ แต่ถ้าให้ดูบ้างก็เลือกรายการให้เหมาะสม แต่ทีนี้เวลาเราพาลูกไปร้าน แม่สามีจะเปิดทีวีดูอยู่แล้วค่ะ แล้วรายการที่ดูก็จะเป็นละครแบบตบตีกัน พูดคำหยาบบ้าง ฆ่ากันบ้าง ทำให้เราหนักใจมากค่ะเวลาเราพาลูกไปหาเค้า เพราะแม่สามีเค้ารู้นะคะว่าเราไม่ให้ดู แต่เค้าก็จะเปิดไว้แบบนั้น แล้วก็บอกว่าอาม่าดูอยู่ ไม่ให้ปิด เราเลยเหนื่อยใจมากค่ะ บางทีคือไม่อยากพาลูกไปหาเค้าเลย การเลี้ยงลูกมันไปกันคนละทิศละทาง ทำให้เราสอนลูกยากขึ้นไปอีก เพราะอาม่าตามใจ แล้วลูกเราก็จะแอบทำทุกอย่างเวลาเราไม่อยู่ เพราะคิดว่าอยู่กับอาม่าแล้วมีคนตามใจจะทำอะไรก็ได้น่ะค่ะ
และด้วยความที่ว่าเรากับแม่สามีไม่ค่อยถูกกัน พอมีเรื่องนี้ทำให้เรากับแม่สามีไม่ค่อยได้คุยกันค่ะ เหมือนต่างคนต่างเลี่ยงๆกัน ทีนี้แม่สามีเวลาจะออกไปไหน เค้าจะมาหาหลานที่บ้านในช่วงที่เราไม่อยู่ ขึ้นไปอาบน้ำฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยง แล้วแม่สามีก็จะรีบๆให้ลูกเราแต่งตัวเตรียมของ บอกให้ออกไปกับอาม่า พอเราลงมาบางทีคือเค้าพาลูกเรา(คนโต)ออกไปแล้วค่ะ โดยไม่บอกหรือขออนุญาติเราก่อนเลย เราเครียดมากค่ะ เหมือนต้องมาคอยระแวงว่าเค้าจะพาลูกเราออกไปไหนรึเปล่า ยิ่งช่วงนี้มีโควิดเราก็อยากให้ลูกเราอยู่บ้าน เพราะลูกเรายังไม่ได้ฉีดวัคซีน เราก็เป็นห่วงเค้ามากค่ะ แต่คือแม่สามีก็อยากจะพาลูกเราออกไปตลอดเลย ไปปาร์ตี้กินข้าวกับเพื่อนเค้ามั่ง ไปไหนมาไหนข้างนอก โดยใช้ช่วงที่เราเผลอหรือไม่อยู่เอาลูกเราออกไปโดยไม่บอก
เราเคยคุยกับสามีแล้วแต่คือไม่ได้ผลเลยค่ะ สามีไม่คุยกับแม่เค้าให้ เค้าบอกว่าถ้าคุยเดี๋ยวจะเหมือนเป็นการไปว่าแม่เค้า แล้วจะเป็นเรื่องใหญ่ไปอีก ให้เงียบๆไว้ แล้วแก้ที่เราเองคือปล่อยวางอย่าไปอะไรมาก เราเลยยิ่งเครียดมากๆเลยค่ะ เลี้ยงลูกสองว่าเหนื่อยแล้ว อันนี้ความหนักใจเหมือนเพิ่มมาอีกหลายเท่า อยู่บ้านนี้เราก็รู้สึกโดดเดี่ยวมาก เหมือนไม่มีใครเข้าใจแนวทางการเลี้ยงลูกของเราเลยค่ะ😭😭😭 เราก็ไม่กล้าพูดกับใครเลย จนช่วงหลังเราต้องไปพบจิตแพทย์ หมอบอกว่าเราเหมือนมีอาการซึมเศร้าร่วมด้วยค่ะ
เครียดกับแม่สามีมาก ไม่ไหวแล้วค่ะ ทัศนคติการเลี้ยงลูกไม่ตรงกันเลย เหนื่อยใจมากกกก ท้อมากค่ะ
คือเราเลี้ยงลูกแบบสมัยใหม่ค่ะ ฝึกลูกช่วยเหลือตัวเอง กินข้าวเองไม่เดินตามป้อน ไม่ให้ดูมือถือ เน้นอ่านนิทาน เล่นกับลูกเอง ประมานนี้ แต่แม่สามีคือทำตรงกันข้ามกับเราทุกอย่างเลยค่ะ บ้านสามีเลี้ยงเด็กแบบปล่อยมาก ไม่มีตารางเวลา ลูกอยากได้อะไรแม่สามีจัดให้ซื้อให้หมดทุกอย่าง เช่นเรื่องทานขนม ลูกคนเล็กแค่หนึ่งขวบเราจะไม่ค่อยให้ทานขนมหวานค่ะ ให้ทานเป็นข้าวเลยกับพวกผลไม้ แต่ลูกคนโตก็มีให้ทานขนม ไอติม เค้กได้แต่มีข้อแม้ให้ทานข้าวก่อน แต่แม่สามีชอบให้ลูกเราทานแบบไม่ต้องกินข้าวก็ได้ ให้กินอะไรก็ได้ที่หลานชอบ ซึ่งเราก็ห้ามค่ะ บอกเค้าว่าให้ลูกเรากินข้าวก่อน พูดหลายครั้ง จนมีครั้งนึงเค้าพูดใส่เรา หาว่าเราไม่ยอมให้ลูกกินอะไรเลย ซึ่งจริงๆแล้วเราแค่อยากให้ลูกทานของที่มีประโยชน์ก่อน แล้วค่อยทานขนมทีหลัง ไม่งั้นพอเค้าอิ่มเค้าจะไม่ทานข้าวค่ะ
และวิธีการสอนหลานของแม่สามี มีหลายเรื่องที่เราไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ เช่นเวลาลูกเราร้องไห้ แม่สามีเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก็เลยยื่นเงินให้ บอกอาม่าให้เงินนะให้หยุดร้องไห้ ซึ่งพอเราบอก แม่คะไม่เอาค่ะ คือลูกเราไม่ได้ต้องการเงินค่ะ เค้าร้องเพราะเหตุผลอื่น เราไม่อยากสอนให้ลูกเราคิดว่าพอได้เงินก็หยุดร้อง ทั้งๆที่สาเหตุที่เค้าร้องไม่ได้เกี่ยวกับเงินเลย มันคนละเรื่องกันเลย ลูกเรายังเล็กยังไม่รู้จักเลยค่ะว่าเงินทำอะไรได้🤣เราอยากให้เค้ารู้จักอารมณ์ตัวเอง และรู้จักแก้ปัญหา แต่แม่สามีไม่พอใจ คงคิดว่าเราขัดเค้า เค้าคงไม่พอใจเราค่ะ
เรื่องมือถือหรือทีวี เราก็ไม่ได้ให้ลูกดูตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ยิ่งคนเล็กเพิ่งหนึ่งขวบคือไม่ให้ดูเลย ส่วนคนโตก็ไม่ค่อยให้ดูค่ะ แต่ถ้าให้ดูบ้างก็เลือกรายการให้เหมาะสม แต่ทีนี้เวลาเราพาลูกไปร้าน แม่สามีจะเปิดทีวีดูอยู่แล้วค่ะ แล้วรายการที่ดูก็จะเป็นละครแบบตบตีกัน พูดคำหยาบบ้าง ฆ่ากันบ้าง ทำให้เราหนักใจมากค่ะเวลาเราพาลูกไปหาเค้า เพราะแม่สามีเค้ารู้นะคะว่าเราไม่ให้ดู แต่เค้าก็จะเปิดไว้แบบนั้น แล้วก็บอกว่าอาม่าดูอยู่ ไม่ให้ปิด เราเลยเหนื่อยใจมากค่ะ บางทีคือไม่อยากพาลูกไปหาเค้าเลย การเลี้ยงลูกมันไปกันคนละทิศละทาง ทำให้เราสอนลูกยากขึ้นไปอีก เพราะอาม่าตามใจ แล้วลูกเราก็จะแอบทำทุกอย่างเวลาเราไม่อยู่ เพราะคิดว่าอยู่กับอาม่าแล้วมีคนตามใจจะทำอะไรก็ได้น่ะค่ะ
และด้วยความที่ว่าเรากับแม่สามีไม่ค่อยถูกกัน พอมีเรื่องนี้ทำให้เรากับแม่สามีไม่ค่อยได้คุยกันค่ะ เหมือนต่างคนต่างเลี่ยงๆกัน ทีนี้แม่สามีเวลาจะออกไปไหน เค้าจะมาหาหลานที่บ้านในช่วงที่เราไม่อยู่ ขึ้นไปอาบน้ำฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยง แล้วแม่สามีก็จะรีบๆให้ลูกเราแต่งตัวเตรียมของ บอกให้ออกไปกับอาม่า พอเราลงมาบางทีคือเค้าพาลูกเรา(คนโต)ออกไปแล้วค่ะ โดยไม่บอกหรือขออนุญาติเราก่อนเลย เราเครียดมากค่ะ เหมือนต้องมาคอยระแวงว่าเค้าจะพาลูกเราออกไปไหนรึเปล่า ยิ่งช่วงนี้มีโควิดเราก็อยากให้ลูกเราอยู่บ้าน เพราะลูกเรายังไม่ได้ฉีดวัคซีน เราก็เป็นห่วงเค้ามากค่ะ แต่คือแม่สามีก็อยากจะพาลูกเราออกไปตลอดเลย ไปปาร์ตี้กินข้าวกับเพื่อนเค้ามั่ง ไปไหนมาไหนข้างนอก โดยใช้ช่วงที่เราเผลอหรือไม่อยู่เอาลูกเราออกไปโดยไม่บอก
เราเคยคุยกับสามีแล้วแต่คือไม่ได้ผลเลยค่ะ สามีไม่คุยกับแม่เค้าให้ เค้าบอกว่าถ้าคุยเดี๋ยวจะเหมือนเป็นการไปว่าแม่เค้า แล้วจะเป็นเรื่องใหญ่ไปอีก ให้เงียบๆไว้ แล้วแก้ที่เราเองคือปล่อยวางอย่าไปอะไรมาก เราเลยยิ่งเครียดมากๆเลยค่ะ เลี้ยงลูกสองว่าเหนื่อยแล้ว อันนี้ความหนักใจเหมือนเพิ่มมาอีกหลายเท่า อยู่บ้านนี้เราก็รู้สึกโดดเดี่ยวมาก เหมือนไม่มีใครเข้าใจแนวทางการเลี้ยงลูกของเราเลยค่ะ😭😭😭 เราก็ไม่กล้าพูดกับใครเลย จนช่วงหลังเราต้องไปพบจิตแพทย์ หมอบอกว่าเราเหมือนมีอาการซึมเศร้าร่วมด้วยค่ะ