☭
☭
Eugene Stoner กับ Mikhail Kalashnikov
☭
ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 มีชื่อเสียงระดับโลก
มีการผลิตนับหลายล้านกระบอกทั่วโลก
ในยุคสหภาพโซเวียตส่งออกการปฏิวัติ
มีการมอบแบบพิมพ์เขียวและเทคนิคการผลิต
ให้กับประเทศฝักใฝ่คอมมี่ค่ายสหภาพโซเวียต
จีนแดงก็มีผลิตจำนวนนับสิบล้านกระบอก
ของจีนดัดแปลงลำกล้องและท่อแก๊สให้สั้นลง
AK-47 รุ่นที่หายาก/ยอดนิยมคุณภาพคับแก้ว
ต้องของเชคโกสโลวาเกีย ยุคร่วมกลุ่มวอร์ซอร์
ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47
ชนะเลิศการประกวดระดับชาติ
ของสหภาพโซเวียดในปี 1947
โดยผู้คิดค้นคือ Mikhail Kalashnikov
แต่ปืนกลรุ่นนี้เริ่มต้นสายการผลิตจริงในปี 1949
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มักจะมีปืน AK-47
อยู่ร่วมในสงครามกลางเมือง รัฐประหาร การปฏิวัติ
การกบฏ การปล้นสะดมภ์ การก่อการร้าย
แทบทุกแห่งทั่วโลก พอ ๆ กับ
ปืนไรเฟิลจู่โจม M16 ที่มีชื่อเสียงก้องโลกพอ ๆ กัน
ปืนไรเฟิลจู่โจมทั้งสองแบบนี้
สร้างขึ้นโดยชาติผู้นำสองค่ายที่ขัดแย้งกัน
ต้องการเป็นแกนนำระดับโลกในยุคสงครามเย็น
AK-47 ของค่ายสหภาพโซเวียต
M16 ของค่ายสหรัฐอเมริกา
ในปี 1963
มีการประกวดปืนระดับชาติของสหรัฐอเมริกา
ปืนไรเฟิลจู่โจม M16 ชนะการประกวด
โดยผู้คิดค้นคือ Eugene Stoner
ที่พัฒนาต่อจากปืนไรเฟิลจู่โจม AR-15
ในปี 1990
ก่อนการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
และก่อนการสิ้นสุดยุคสงครามเย็นของโลก
ผู้คิดค้นทั้งสองคนได้พบกันที่
Washington D.C. ในวันที่ 16 พฤษภาคม 1990
ไม่ต้องประหลาดใจที่ทั้งคู่
Eugene Stoner กับ Mikhail Kalashnikov
กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ต่างแลกเปลี่ยนเรียนรู้
เรื่องราวต่าง ๆ และประสบการณ์ร่วมกัน
โดยฝ่ายสหรัฐอเมริกาทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ
พาชมเมืองและไปร่วมกันล่าสัตว์
ในเขตที่มีใบอนุญาตให้ล่าสัตว์ป่า
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/3tBZUCt
ชื่อนามสกุล Eugene Morrison Stoner
อาชีพ นักประดิษฐ์
สัญชาติ อเมริกัน
ประวัติ ประดิษฐ์ปืนไรเฟิลจู่โจม AR-15
ได้รับการบรรจุเป็นปืนประจำกาย
กองทัพสหรัฐเหมือนปีนไรเฟิลจู่โจม M16
ปืนทั้งสองรุ่นนี้มีการใช้งานจนถึงทุกวันนี้
ในการทำสงครามของสหรัฐทุกครั้ง
ชาตะ 22 พฤศจิกายน 1922
บ้านเกิด Gosport, Indiana, USA
มตะ 24 เมษายน 1997 (อายุ 74)
สาเหตุการตาย โรคมะเร็ง
3 มีนาคม 1963
US Defense Secretary โดย Robert MacNamara
อนุมัติให้ปืนไรเฟิลจู่โจม M16
ประจำกองทัพสหรัฐอเมริกา
มีต้นฉบับที่ใช้ในการออกแบบใหม่คือ
ปืนไรเฟิลจู่โจม AR-15 ของ Eugene Stoner
ชื่อนามสกุล Mikhail Timofeyevich Kalashnikov
อาชีพ นักประดิษฐ์
สัญชาติ รัสเซีย สหภาพโซเวียต
ประวัติ ออกแบบปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47
และรุ่นต่อมาคือ AKM และ AK-74
เป็นปืนกลที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ ทนถึก
ทนได้/ทำงานได้ทุกสภาพแวดล้อม
มีการผลิตแพร่หลายในหลายประเทศ
และมีจำนวนมากที่สุดในปัจจุบัน
ชาตะ 10 พฤศจิกายน 1919
บ้านเกิด Altai Krai, Russian SFSR, Soviet Union
มตะ 23 ธันวาคม 2013 (อายุ 94 ปี)
สาเหตุการตาย เลือดออกในกระเพาะอาหาร
6 กรกฏาคม 1947
ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ได้รับการบรรจุ
เป็นอาวุธประจำกองทัพสหภาพโซเวียต
ในปี 2007
Mikhail Kalashnikov ให้สัมภาษณ์ว่า
" ผมไม่เคยนึกตำหนิตนเองเกี่ยวกับเลือด
และความตายผู้คนที่เกิดจากปืน AK-47
ผมนอนหลับสบายดี มันเป็นเรื่องของ
พวกนักการเมืองที่สมควรจะถูกประณามมากกว่า
เพราะต่างตกลงกันไม่ได้และนำไปสู่ความรุนแรง (ต่างพาชาติไปสู่สงคราม)
ผมสร้างมันขึ้นมาเพื่อปกป้องปิตุภูมิ
ผมไม่เคยเสียใจ หรือต้องรับผิดชอบแต่อย่างใด
ในการที่นักการเมืองใช้พวกมัน
ผมภูมิใจกับสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้
แต่ผมเศร้าใจ ถ้ามันถูกใช้โดยผู้ก่อการร้าย
ผมอยากที่จะสร้างเครื่องจักร
ที่ชาวบ้านสามารถใช้งานได้อย่างง่าย ๆ
และช่วยชาวนาในการทำงาน ตัวอย่างเช่น เครื่องตัดหญ้า เป็นต้น
.
Nguyen Thi Kim Lai ในตอนนั้นเพิ่งจะอายุ 17 ปี
และเพิ่งจะจับอาวุธปืนไม่นานนัก
กำลังถือปืนจี้หลังทหารสหรัฐ William Robinson
เธอไม่ยอมยิงทหารรายนี้
เพราะเธอคิดถึงน้องสาวตัวน้อยของเธอที่บ้าน
การพบกันอีกครั้งของอดีตคู่ศึกสหรัฐกับเวียตนาม
ทั้งคู่พบกันอีกครั้งหลังเหตุการณ์ครั้งนั้นถึง 30 ปี
คำทักทายประโยคแรกของ William Robinson ก็คือ
" แกยังไม่โตขึ้นเลยนะ "
Nguyen Thi Kim Lai ก็ตอบกลับไปว่า
" ฉันก็ยังไม่อ้วนเหมือนแก "
เธอน้ำหนักขึ้นจาก 37 เป็น 43 กิโลกรัม
ส่วน Robinson น้ำหนักขึ้นจาก 125 เป็น 150 กิโลกรัม
“ เขาเพิ่งจะแต่งงานไม่นานนัก
ส่วนฉันมีครอบครัวเล็ก ๆ แล้วเช่นกัน
ทุกชีวิตต่างอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขอีกครั้ง
ท้ายสุดของชีวิตคือ ความว่างเปล่า
ทุกอย่างเป็นอดีตไปแล้ว
เราได้พบกันอีก
ได้รำลึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ ที่ผ่านพ้นไปแล้ว
เหมือนคนรู้จักกันที่ไม่ได้พบกันมานานแล้ว
ได้พูดคุยมองย้อนหลังเรื่องราวในอดีตนั้น
ด้วยความทรงจำที่แสนงดงาม "
สงครามและความขัดแย้ง
ความไร้สาระถึงวิธีการที่แตกต่างกันของ
กลุ่มชาติพันธุ์ เชื้อชาติ สังคม การเมือง ศาสนา วัฒนธรรม พันธมิตร
ทำให้ดูเหมือนกับว่า ยากมากที่มนุษย์จะอยู่ร่วมกันได้
ด้วยความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
และลืมเลือนเรื่องเลวร้ายในอดีตได้
❀
❀

❀
James Bond
❀
❀
Ian Fleming
❀
❀
James Bond พบกับ Ian Fleming
ครั้งแรกในเดือน กุมภาพันธ์ 1964 ที่
บ้านพักส่วนตัว Fleming's Goldeneye ในJamaica
@ Mary Wickham Bond
❀
Ian Fleming เป็นนักดูนกสมัครเล่นใน Jamaica
คุ้นเคยกับหนังสือดูนก James Bond เป็นอย่างดี
เพราะคนนี้ดังมากมีหนังสือเรื่องนกแถบนี้หลายเล่ม
ตอนเขียน นวนิยาย Casino Royale 1953
เลยต้องการชื่อพระเอก ชื่อ บ้าน ๆ เชย ๆ ง่าย ๆ
แต่มีนัยว่า ต้องพรางตัวเก่ง ต้องซุ่มซ่อนยาวนาน
ช่างสังเกต ช่างจดจำ เหมือนกับพวกสายลับทำงาน
Ian Fleming ได้เขียนจดหมาย
ถึงภริยา James Bond มีข้อความว่า
" มันโดนใจผมทันที ไม่หวือหวา
ชื่อแบบ Anglo-Saxon ธรรมดามาก
นั่นแหละที่ผมชอบและต้องการ
ดังนั้น James Bond คนที่ 2 ถือกำเนิดแล้ว "
ภริยาของ James Bond ก็ไม่คิดอะไรมาก
เพราะชื่อนี้เป็นชื่อโหลมากในสหรัฐ
คิดว่ามีคนส่งจดหมายมาล้อเล่นมากกว่า
ยุคนั้นยังไม่มี Internet อย่างเก่งก็
โทรเลข โทรพิมพ์ โทรศัพท์ เท่านั้น
แม้ว่า Ian Fleming
จะไม่ได้ติดต่อ James Bond เลย
ในการใช้ชื่อนี้ในหนังสือโดยตรง
และ James Bond ก็ไม่รู้ว่าถูกนำชื่อนี้ไปใช้
จนกระทั่งปลายปี 1960
หนังสือ James Bond 007 ดังมากในสหรัฐ
ในปี 1964
ช่วงหลบหนาวของ Ian Fleming
ที่ Goldeneye ใน Jamaica
James Bond กับภริยา ได้เดินทางมาเยี่ยม
Ian Fleming โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
แล้วทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน
James Bond สารภาพว่า ไม่เคยอ่านหนังสือ
James Bond 007 แม้แต่หน้าเดียว
(นิสัยนักวิทยาศาสตร์มักสนใจเรื่องเฉพาะทาง
ไม่สนใจเรื่องอื่น ๆ ที่นอกลู่นอกทาง)
แต่ภริยาเป็นแฟนหนังสือนวนิยายนี้ตัวยง
ในนวนิยาย Dr. No
Ian Fleming ได้พูดถึงผลงานของ James Bond
ในสถานที่ศึกษานกขนาดใหญ่มาก
บนเกาะของ Dr. No ใน Bahamas
ในปี 1964 ที่ทั้งคู่พบกัน
Ian Fleming ได้มอบหนังสือปกแรก
นวนิยาย James Bond 007
ตอน You Only Live Twice
พร้อมกับเขียนข้อความว่า
"To the real James Bond
from the thief of his identity".
ให้กับ James Bond ตัวจริง
จากคนขโมยชื่อ/เอกลักษณ์ของเขามาใช้ "
และ Ian Fleming มตะในปีนี้
ในเดือนธันวาคม 2008
หนังสือเล่มนี้มีผู้ประมูลไป
ในราคา $84,000
ภริยา James Bond บอกว่า
สามีตนเองมองเป็นเรื่องขำขำ
กับเรื่องการถูกนำชื่อ James Bond
ไปใช้ในนวนิยาย James Bond 007
และรำลึกความทรงจำที่มีจดหมาย
Ian Fleming เขียนว่า
" ผมรู้สึกยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าวันใดวันหนึ่ง ท่านพบนกตัวหนึ่งตัวใด
ที่น่าเกลียดน่าชังและอัปลักษณ์ที่สุด
และยังไม่มีการตั้งชื่อนกตัวดังกล่าว
ผมอนุญาตให้ตั้งชื่อมันว่า Ian Fleming
เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจของท่าน
ที่ยินยอมให้ผมใช้ชื่อของท่าน "
James Bond เริ่มออกเดินทางศึกษาเรื่องนก
ในเขตแม่น้ำ Amazon ตั้งแต่ปี 1925
แวะพักศึกษานกตามหมู่เกาะ Caribbean
มากกว่า 100 เกาะ รวบรวมนกชนิดต่าง ๆ
ได้ถึง 294 สายพันธุ์จาก 300 ชนิด
ตีพิมพ์หนังสือเรื่องนกใน Carbbean
มากกว่า 100 เล่มที่เป็นคัมภีร์ดูนก
ท่านมตะในปี 1989
จริง ๆ การตั้งชื่อนกสายพันธุ์ใหม่
เป็นเกียรติ์อย่างแรง หลายคนต่างอยากมีชื่อ
เพราะคนเรียนชีววิทยาจะต้องท่องจำชื่อนี้ด้วย
และมีระบุไว้ในอนุกรมวิธาน Taxonomy
เป็นชื่อเฉพาะส่วนตัวไม่ซ้ำกับใคร
การพบกันของนักประดิษฐ์ AK-47/M16
☭
Eugene Stoner กับ Mikhail Kalashnikov
☭
ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 มีชื่อเสียงระดับโลก
มีการผลิตนับหลายล้านกระบอกทั่วโลก
ในยุคสหภาพโซเวียตส่งออกการปฏิวัติ
มีการมอบแบบพิมพ์เขียวและเทคนิคการผลิต
ให้กับประเทศฝักใฝ่คอมมี่ค่ายสหภาพโซเวียต
จีนแดงก็มีผลิตจำนวนนับสิบล้านกระบอก
ของจีนดัดแปลงลำกล้องและท่อแก๊สให้สั้นลง
AK-47 รุ่นที่หายาก/ยอดนิยมคุณภาพคับแก้ว
ต้องของเชคโกสโลวาเกีย ยุคร่วมกลุ่มวอร์ซอร์
ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47
ชนะเลิศการประกวดระดับชาติ
ของสหภาพโซเวียดในปี 1947
โดยผู้คิดค้นคือ Mikhail Kalashnikov
แต่ปืนกลรุ่นนี้เริ่มต้นสายการผลิตจริงในปี 1949
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มักจะมีปืน AK-47
อยู่ร่วมในสงครามกลางเมือง รัฐประหาร การปฏิวัติ
การกบฏ การปล้นสะดมภ์ การก่อการร้าย
แทบทุกแห่งทั่วโลก พอ ๆ กับ
ปืนไรเฟิลจู่โจม M16 ที่มีชื่อเสียงก้องโลกพอ ๆ กัน
ปืนไรเฟิลจู่โจมทั้งสองแบบนี้
สร้างขึ้นโดยชาติผู้นำสองค่ายที่ขัดแย้งกัน
ต้องการเป็นแกนนำระดับโลกในยุคสงครามเย็น
AK-47 ของค่ายสหภาพโซเวียต
M16 ของค่ายสหรัฐอเมริกา
ในปี 1963
มีการประกวดปืนระดับชาติของสหรัฐอเมริกา
ปืนไรเฟิลจู่โจม M16 ชนะการประกวด
โดยผู้คิดค้นคือ Eugene Stoner
ที่พัฒนาต่อจากปืนไรเฟิลจู่โจม AR-15
ในปี 1990
ก่อนการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
และก่อนการสิ้นสุดยุคสงครามเย็นของโลก
ผู้คิดค้นทั้งสองคนได้พบกันที่
Washington D.C. ในวันที่ 16 พฤษภาคม 1990
ไม่ต้องประหลาดใจที่ทั้งคู่
Eugene Stoner กับ Mikhail Kalashnikov
กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ต่างแลกเปลี่ยนเรียนรู้
เรื่องราวต่าง ๆ และประสบการณ์ร่วมกัน
โดยฝ่ายสหรัฐอเมริกาทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ
พาชมเมืองและไปร่วมกันล่าสัตว์
ในเขตที่มีใบอนุญาตให้ล่าสัตว์ป่า
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/3tBZUCt
☭
☭
☭
☭
☭
☭
ชื่อนามสกุล Eugene Morrison Stoner
อาชีพ นักประดิษฐ์
สัญชาติ อเมริกัน
ประวัติ ประดิษฐ์ปืนไรเฟิลจู่โจม AR-15
ได้รับการบรรจุเป็นปืนประจำกาย
กองทัพสหรัฐเหมือนปีนไรเฟิลจู่โจม M16
ปืนทั้งสองรุ่นนี้มีการใช้งานจนถึงทุกวันนี้
ในการทำสงครามของสหรัฐทุกครั้ง
ชาตะ 22 พฤศจิกายน 1922
บ้านเกิด Gosport, Indiana, USA
มตะ 24 เมษายน 1997 (อายุ 74)
สาเหตุการตาย โรคมะเร็ง
3 มีนาคม 1963
US Defense Secretary โดย Robert MacNamara
อนุมัติให้ปืนไรเฟิลจู่โจม M16
ประจำกองทัพสหรัฐอเมริกา
มีต้นฉบับที่ใช้ในการออกแบบใหม่คือ
ปืนไรเฟิลจู่โจม AR-15 ของ Eugene Stoner
☭
☭
☭
☭
ชื่อนามสกุล Mikhail Timofeyevich Kalashnikov
อาชีพ นักประดิษฐ์
สัญชาติ รัสเซีย สหภาพโซเวียต
ประวัติ ออกแบบปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47
และรุ่นต่อมาคือ AKM และ AK-74
เป็นปืนกลที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ ทนถึก
ทนได้/ทำงานได้ทุกสภาพแวดล้อม
มีการผลิตแพร่หลายในหลายประเทศ
และมีจำนวนมากที่สุดในปัจจุบัน
ชาตะ 10 พฤศจิกายน 1919
บ้านเกิด Altai Krai, Russian SFSR, Soviet Union
มตะ 23 ธันวาคม 2013 (อายุ 94 ปี)
สาเหตุการตาย เลือดออกในกระเพาะอาหาร
6 กรกฏาคม 1947
ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ได้รับการบรรจุ
เป็นอาวุธประจำกองทัพสหภาพโซเวียต
ในปี 2007
Mikhail Kalashnikov ให้สัมภาษณ์ว่า
" ผมไม่เคยนึกตำหนิตนเองเกี่ยวกับเลือด
และความตายผู้คนที่เกิดจากปืน AK-47
ผมนอนหลับสบายดี มันเป็นเรื่องของ
พวกนักการเมืองที่สมควรจะถูกประณามมากกว่า
เพราะต่างตกลงกันไม่ได้และนำไปสู่ความรุนแรง (ต่างพาชาติไปสู่สงคราม)
ผมสร้างมันขึ้นมาเพื่อปกป้องปิตุภูมิ
ผมไม่เคยเสียใจ หรือต้องรับผิดชอบแต่อย่างใด
ในการที่นักการเมืองใช้พวกมัน
ผมภูมิใจกับสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้
แต่ผมเศร้าใจ ถ้ามันถูกใช้โดยผู้ก่อการร้าย
ผมอยากที่จะสร้างเครื่องจักร
ที่ชาวบ้านสามารถใช้งานได้อย่างง่าย ๆ
และช่วยชาวนาในการทำงาน ตัวอย่างเช่น เครื่องตัดหญ้า เป็นต้น
☭
☭
☭
20 เรื่องราวของปืน AK47 หรือ Kalashnikov
☭
☭
☭
การพบกันของคนดังในตำนาน
☭
30 ปีของการพบกันอีกครั้งของสหายคู่ศึก
☭
☭
ภาพในอดีต/ปัจจุบันของทั้งสองคน 1965/1995
☭
.
Nguyen Thi Kim Lai ในตอนนั้นเพิ่งจะอายุ 17 ปี
และเพิ่งจะจับอาวุธปืนไม่นานนัก
กำลังถือปืนจี้หลังทหารสหรัฐ William Robinson
เธอไม่ยอมยิงทหารรายนี้
เพราะเธอคิดถึงน้องสาวตัวน้อยของเธอที่บ้าน
การพบกันอีกครั้งของอดีตคู่ศึกสหรัฐกับเวียตนาม
ทั้งคู่พบกันอีกครั้งหลังเหตุการณ์ครั้งนั้นถึง 30 ปี
คำทักทายประโยคแรกของ William Robinson ก็คือ
" แกยังไม่โตขึ้นเลยนะ "
Nguyen Thi Kim Lai ก็ตอบกลับไปว่า
" ฉันก็ยังไม่อ้วนเหมือนแก "
เธอน้ำหนักขึ้นจาก 37 เป็น 43 กิโลกรัม
ส่วน Robinson น้ำหนักขึ้นจาก 125 เป็น 150 กิโลกรัม
“ เขาเพิ่งจะแต่งงานไม่นานนัก
ส่วนฉันมีครอบครัวเล็ก ๆ แล้วเช่นกัน
ทุกชีวิตต่างอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขอีกครั้ง
ท้ายสุดของชีวิตคือ ความว่างเปล่า
ทุกอย่างเป็นอดีตไปแล้ว
เราได้พบกันอีก
ได้รำลึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ ที่ผ่านพ้นไปแล้ว
เหมือนคนรู้จักกันที่ไม่ได้พบกันมานานแล้ว
ได้พูดคุยมองย้อนหลังเรื่องราวในอดีตนั้น
ด้วยความทรงจำที่แสนงดงาม "
สงครามและความขัดแย้ง
ความไร้สาระถึงวิธีการที่แตกต่างกันของ
กลุ่มชาติพันธุ์ เชื้อชาติ สังคม การเมือง ศาสนา วัฒนธรรม พันธมิตร
ทำให้ดูเหมือนกับว่า ยากมากที่มนุษย์จะอยู่ร่วมกันได้
ด้วยความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
และลืมเลือนเรื่องเลวร้ายในอดีตได้
❀
James Bond
❀
❀
Ian Fleming
❀
❀
James Bond พบกับ Ian Fleming
ครั้งแรกในเดือน กุมภาพันธ์ 1964 ที่
บ้านพักส่วนตัว Fleming's Goldeneye ในJamaica
@ Mary Wickham Bond
❀
Ian Fleming เป็นนักดูนกสมัครเล่นใน Jamaica
คุ้นเคยกับหนังสือดูนก James Bond เป็นอย่างดี
เพราะคนนี้ดังมากมีหนังสือเรื่องนกแถบนี้หลายเล่ม
ตอนเขียน นวนิยาย Casino Royale 1953
เลยต้องการชื่อพระเอก ชื่อ บ้าน ๆ เชย ๆ ง่าย ๆ
แต่มีนัยว่า ต้องพรางตัวเก่ง ต้องซุ่มซ่อนยาวนาน
ช่างสังเกต ช่างจดจำ เหมือนกับพวกสายลับทำงาน
Ian Fleming ได้เขียนจดหมาย
ถึงภริยา James Bond มีข้อความว่า
" มันโดนใจผมทันที ไม่หวือหวา
ชื่อแบบ Anglo-Saxon ธรรมดามาก
นั่นแหละที่ผมชอบและต้องการ
ดังนั้น James Bond คนที่ 2 ถือกำเนิดแล้ว "
ภริยาของ James Bond ก็ไม่คิดอะไรมาก
เพราะชื่อนี้เป็นชื่อโหลมากในสหรัฐ
คิดว่ามีคนส่งจดหมายมาล้อเล่นมากกว่า
ยุคนั้นยังไม่มี Internet อย่างเก่งก็
โทรเลข โทรพิมพ์ โทรศัพท์ เท่านั้น
แม้ว่า Ian Fleming
จะไม่ได้ติดต่อ James Bond เลย
ในการใช้ชื่อนี้ในหนังสือโดยตรง
และ James Bond ก็ไม่รู้ว่าถูกนำชื่อนี้ไปใช้
จนกระทั่งปลายปี 1960
หนังสือ James Bond 007 ดังมากในสหรัฐ
ในปี 1964
ช่วงหลบหนาวของ Ian Fleming
ที่ Goldeneye ใน Jamaica
James Bond กับภริยา ได้เดินทางมาเยี่ยม
Ian Fleming โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
แล้วทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน
James Bond สารภาพว่า ไม่เคยอ่านหนังสือ
James Bond 007 แม้แต่หน้าเดียว
(นิสัยนักวิทยาศาสตร์มักสนใจเรื่องเฉพาะทาง
ไม่สนใจเรื่องอื่น ๆ ที่นอกลู่นอกทาง)
แต่ภริยาเป็นแฟนหนังสือนวนิยายนี้ตัวยง
ในนวนิยาย Dr. No
Ian Fleming ได้พูดถึงผลงานของ James Bond
ในสถานที่ศึกษานกขนาดใหญ่มาก
บนเกาะของ Dr. No ใน Bahamas
ในปี 1964 ที่ทั้งคู่พบกัน
Ian Fleming ได้มอบหนังสือปกแรก
นวนิยาย James Bond 007
ตอน You Only Live Twice
พร้อมกับเขียนข้อความว่า
"To the real James Bond
from the thief of his identity".
ให้กับ James Bond ตัวจริง
จากคนขโมยชื่อ/เอกลักษณ์ของเขามาใช้ "
และ Ian Fleming มตะในปีนี้
ในเดือนธันวาคม 2008
หนังสือเล่มนี้มีผู้ประมูลไป
ในราคา $84,000
ภริยา James Bond บอกว่า
สามีตนเองมองเป็นเรื่องขำขำ
กับเรื่องการถูกนำชื่อ James Bond
ไปใช้ในนวนิยาย James Bond 007
และรำลึกความทรงจำที่มีจดหมาย
Ian Fleming เขียนว่า
" ผมรู้สึกยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าวันใดวันหนึ่ง ท่านพบนกตัวหนึ่งตัวใด
ที่น่าเกลียดน่าชังและอัปลักษณ์ที่สุด
และยังไม่มีการตั้งชื่อนกตัวดังกล่าว
ผมอนุญาตให้ตั้งชื่อมันว่า Ian Fleming
เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจของท่าน
ที่ยินยอมให้ผมใช้ชื่อของท่าน "
James Bond เริ่มออกเดินทางศึกษาเรื่องนก
ในเขตแม่น้ำ Amazon ตั้งแต่ปี 1925
แวะพักศึกษานกตามหมู่เกาะ Caribbean
มากกว่า 100 เกาะ รวบรวมนกชนิดต่าง ๆ
ได้ถึง 294 สายพันธุ์จาก 300 ชนิด
ตีพิมพ์หนังสือเรื่องนกใน Carbbean
มากกว่า 100 เล่มที่เป็นคัมภีร์ดูนก
ท่านมตะในปี 1989
จริง ๆ การตั้งชื่อนกสายพันธุ์ใหม่
เป็นเกียรติ์อย่างแรง หลายคนต่างอยากมีชื่อ
เพราะคนเรียนชีววิทยาจะต้องท่องจำชื่อนี้ด้วย
และมีระบุไว้ในอนุกรมวิธาน Taxonomy
เป็นชื่อเฉพาะส่วนตัวไม่ซ้ำกับใคร