***ลงให้ครบองค์ไปงั้น ๆ แหละพยายามย่อสุด ๆ ตัดน้ำออกไป***
ประวัติความเป็นมา
..................................................
หลังจาก ปลย.G1 ได้เข้าประจำในกองทัพเยอรมันตะวันตกได้สักพักนั้นกองทัพเยอรมันตะวันตกนั้นประทับในประสิทธิภาพของ ปลย.G1 มากจึงมีความต้องการในการซื้อสิทธิบัตรมาผลิตในประเทศแต่ทางบริษัท FN นั้นไม่อนุญาติเนื่องด้วยเหตุผลทางการเมืองและประวัติศาสตร์
ทำให้รัฐบาลเยอรมันตะวันตกนั้นตัดสินใจไม่ไปต่อกับ ปลย.G1 และตัดสินใจพัฒนาอาุธปืนเล็กยาวประจำการด้วยตัวเองโดยไปซื้อแบบปืนเล็กยาวมาจากบริษัท CETME แห่งรัฐสเปนซึ่งก็คือ ปลย.CETME mod. A (ซึ่งต้นสายของปืนรุ่นนี้ก็คือ Stg.45(M) ของเยอรมันสมัยปลายสงครามโลกครั้งที่สองออกแบบโดย นาย Wilhelm Stähle ผลิตโดยบริษัท Mauser Werke) มาพัฒนาเองและกลายเป็น ปลย.G3 และเข้าประจำการในกองกำลังป้องกันสหพันธรัฐ/กองทัพเยอรมันตะวันตก (Bundeswehr) ในปี ค.ศ.1959 ในที่สุด
ปลย.G3 รุ่นแรก ๆ ก่อนนำเข้าประจำการในปี ค.ศ.1959 นั้นจะใช้ประกับลำกล้องที่ทำจากเหล็ก,พานท้าย,ด้ามปืน นั้นทำจากไม้ ศูนย์หลังจะเป็นศูนย์หลังที่ทำการจัดปรับด้วยการพับขึ้น-ลง ภายหลังในปี ค.ศ.1959 จึงมีการเปลี่ยนมาใช้ประกับที่ทำจากไม้ และ มีการปรับมาเรื่อย ๆ เช่นการนำวัสดุพลาสติก แบบเรียบ/คางหมู มาใช้จนกลายเป็น ปลย.G3 ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันในปัจจุบัน
..................................................
คุณลักษณะของตัวปืน
..................................................
ปลย.G3 เป็นปืนเล็กยาวต่อสู้ ทำงานด้วยระบบระบบลูกกลิ้งขัดกลอนพร้อมยิงขณะลูกเลื่อนปิด,ป้อนกระสุนด้วยซองกระสุนจำนวน 20 นัด,โครงปืนนั้นเป็นแบบปั๊มขึ้นรูปวัสดุที่นำมาทำคือเหล็กกล้าแผ่นตัด,คันรั้งของตัวปืนนั้นอยู่บริเวณเหนือลำกล้องตัวปืน,ตัวปืนสามารถยิงลูกระเบิดยิงจากปืนเล็กได้,ติดตั้งดาบปลายปืนได้ และ ติดตั้งเครื่องช่วยเล็งแบบ Hensoldt Fero Z24 กำลังขาย 4×24 และเครื่องช่วยเล็งแบบต่าง ๆ ที่ออกมาสำหรับตัวปืนได้
ปลย.G3 รุ่นแรก ๆ ก่อนนำเข้าประจำการในปี ค.ศ.1959 นั้นจะใช้ประกับลำกล้องที่ทำจากเหล็ก,พานท้าย,ด้ามปืน นั้นทำจากไม้ ศูนย์หลังจะเป็นศูนย์หลังที่ทำการจัดปรับด้วยการพับขึ้น-ลง ภายหลังในปี ค.ศ.1959 จึงมีการเปลี่ยนมาใช้ประกับที่ทำจากไม้ และ มีการปรับมาเรื่อย ๆ เช่นการนำวัสดุพลาสติกมาใช้ การเปลี่ยนไปใช้ศูนย์หลังแบบทรงกระบอกหมุนได้รอบตัวจัดปรับได้ทั้งระยะ 100,200,300 และ 400 เมตรจนกลายเป็น ปลย.G3 ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันในปัจจุบัน
..................................................
รุ่นต่าง ๆ ของตัวปืน
..................................................
1.ปลย.G3 (Early Model)
ปลย.G3 รุ่นแรก ๆ ก่อนนำเข้าประจำการในปี ค.ศ.1959 นั้นจะใช้ประกับลำกล้องที่ทำจากเหล็ก,พานท้าย,ด้ามปืน นั้นทำจากไม้ ศูนย์หลังจะเป็นศูนย์หลังที่ทำการจัดปรับด้วยการพับขึ้น-ลง ภายหลังในปี ค.ศ.1959 จึงมีการเปลี่ยนมาใช้ประกับที่ทำจากไม้ และ มีการปรับมาเรื่อย ๆ
2.ปลย.G3A2
ปลย.G3A2 เป็นรุ่นแรกที่ใช้ศูนย์หลังแบบทรงกระบอกหมุนได้รอบตัว ตัวปืนใช้ลำกล้องลอยตัวอิสระ (Freischwinger)
3.ปลย.G3A3
เป็นรุ่นที่รู้จักกันดีที่สุดและเป็นภาพจำตัวปืนใช้ประกับ,ด้ามปืน และ พานท้าย ทำจากวัสดุพลาสติกสีเขียวมะกอก ประกับนั้นเป็นแบบเรียบศูนย์หลังแบบทรงกระบอกหมุนได้รอบตัว
4.ปลย.G3A4
ปลย.G3A4 คือ ปลย.G3A3 ที่ใช้พานท้ายแบบจัดปรับได้ด้วยการดันขึ้น-ลง
5.ปลส.G3KA4
รุ่นนี้เป็นร่างปืนเล็กสั้นของ ปลย.G3A4 ลำกล้องยาว 12.4 นิ้ว
..................................................
ข้อมูลทางเทคนิค (กล่าวเฉพาะรุ่นมารตฐาน)
..................................................
ชื่อ : G3
ผู้ผลิต : Heckler & Koch
ขนาดกระสุน : 7.62x51มม.
ความจุซองกระสุน : บรรจุด้วยซองกระสุน 20 นัด
ความยาวลำกล้อง : 17.7 นิ้ว
ความยาวตัวปืน : 40.4 นี้ว
น้ำหนักตัวปืน : 4,38 กิโลกรัม
ระบบ : ทำงานด้วยระบบระบบลูกกลิ้งขัดกลอนพร้อมยิงขณะลูกเลื่อนปิด
อัตราเร็วการยิง : 500-600 นัด/นาที
ความเร็วปากลำกล้อง : 823 เมตร/วินาที
ระยะหวังผล : 800 เมตร
ประเทศผู้ผลิต : สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
..................................................
อ้างอิง
..................................................
The World's Assault Rifles
https://en.wikipedia.org/wiki/Heckler_%26_Koch_G3#Variants
https://de.wikipedia.org/wiki/HK_G3
https://modernfirearms.net/.../germany-assault.../hk-g3-eng/
..................................................
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 1267 G3
ประวัติความเป็นมา
..................................................
หลังจาก ปลย.G1 ได้เข้าประจำในกองทัพเยอรมันตะวันตกได้สักพักนั้นกองทัพเยอรมันตะวันตกนั้นประทับในประสิทธิภาพของ ปลย.G1 มากจึงมีความต้องการในการซื้อสิทธิบัตรมาผลิตในประเทศแต่ทางบริษัท FN นั้นไม่อนุญาติเนื่องด้วยเหตุผลทางการเมืองและประวัติศาสตร์
ทำให้รัฐบาลเยอรมันตะวันตกนั้นตัดสินใจไม่ไปต่อกับ ปลย.G1 และตัดสินใจพัฒนาอาุธปืนเล็กยาวประจำการด้วยตัวเองโดยไปซื้อแบบปืนเล็กยาวมาจากบริษัท CETME แห่งรัฐสเปนซึ่งก็คือ ปลย.CETME mod. A (ซึ่งต้นสายของปืนรุ่นนี้ก็คือ Stg.45(M) ของเยอรมันสมัยปลายสงครามโลกครั้งที่สองออกแบบโดย นาย Wilhelm Stähle ผลิตโดยบริษัท Mauser Werke) มาพัฒนาเองและกลายเป็น ปลย.G3 และเข้าประจำการในกองกำลังป้องกันสหพันธรัฐ/กองทัพเยอรมันตะวันตก (Bundeswehr) ในปี ค.ศ.1959 ในที่สุด
ปลย.G3 รุ่นแรก ๆ ก่อนนำเข้าประจำการในปี ค.ศ.1959 นั้นจะใช้ประกับลำกล้องที่ทำจากเหล็ก,พานท้าย,ด้ามปืน นั้นทำจากไม้ ศูนย์หลังจะเป็นศูนย์หลังที่ทำการจัดปรับด้วยการพับขึ้น-ลง ภายหลังในปี ค.ศ.1959 จึงมีการเปลี่ยนมาใช้ประกับที่ทำจากไม้ และ มีการปรับมาเรื่อย ๆ เช่นการนำวัสดุพลาสติก แบบเรียบ/คางหมู มาใช้จนกลายเป็น ปลย.G3 ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันในปัจจุบัน
..................................................
คุณลักษณะของตัวปืน
..................................................
ปลย.G3 เป็นปืนเล็กยาวต่อสู้ ทำงานด้วยระบบระบบลูกกลิ้งขัดกลอนพร้อมยิงขณะลูกเลื่อนปิด,ป้อนกระสุนด้วยซองกระสุนจำนวน 20 นัด,โครงปืนนั้นเป็นแบบปั๊มขึ้นรูปวัสดุที่นำมาทำคือเหล็กกล้าแผ่นตัด,คันรั้งของตัวปืนนั้นอยู่บริเวณเหนือลำกล้องตัวปืน,ตัวปืนสามารถยิงลูกระเบิดยิงจากปืนเล็กได้,ติดตั้งดาบปลายปืนได้ และ ติดตั้งเครื่องช่วยเล็งแบบ Hensoldt Fero Z24 กำลังขาย 4×24 และเครื่องช่วยเล็งแบบต่าง ๆ ที่ออกมาสำหรับตัวปืนได้
ปลย.G3 รุ่นแรก ๆ ก่อนนำเข้าประจำการในปี ค.ศ.1959 นั้นจะใช้ประกับลำกล้องที่ทำจากเหล็ก,พานท้าย,ด้ามปืน นั้นทำจากไม้ ศูนย์หลังจะเป็นศูนย์หลังที่ทำการจัดปรับด้วยการพับขึ้น-ลง ภายหลังในปี ค.ศ.1959 จึงมีการเปลี่ยนมาใช้ประกับที่ทำจากไม้ และ มีการปรับมาเรื่อย ๆ เช่นการนำวัสดุพลาสติกมาใช้ การเปลี่ยนไปใช้ศูนย์หลังแบบทรงกระบอกหมุนได้รอบตัวจัดปรับได้ทั้งระยะ 100,200,300 และ 400 เมตรจนกลายเป็น ปลย.G3 ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันในปัจจุบัน
..................................................
รุ่นต่าง ๆ ของตัวปืน
..................................................
1.ปลย.G3 (Early Model)
ปลย.G3 รุ่นแรก ๆ ก่อนนำเข้าประจำการในปี ค.ศ.1959 นั้นจะใช้ประกับลำกล้องที่ทำจากเหล็ก,พานท้าย,ด้ามปืน นั้นทำจากไม้ ศูนย์หลังจะเป็นศูนย์หลังที่ทำการจัดปรับด้วยการพับขึ้น-ลง ภายหลังในปี ค.ศ.1959 จึงมีการเปลี่ยนมาใช้ประกับที่ทำจากไม้ และ มีการปรับมาเรื่อย ๆ
2.ปลย.G3A2
ปลย.G3A2 เป็นรุ่นแรกที่ใช้ศูนย์หลังแบบทรงกระบอกหมุนได้รอบตัว ตัวปืนใช้ลำกล้องลอยตัวอิสระ (Freischwinger)
3.ปลย.G3A3
เป็นรุ่นที่รู้จักกันดีที่สุดและเป็นภาพจำตัวปืนใช้ประกับ,ด้ามปืน และ พานท้าย ทำจากวัสดุพลาสติกสีเขียวมะกอก ประกับนั้นเป็นแบบเรียบศูนย์หลังแบบทรงกระบอกหมุนได้รอบตัว
4.ปลย.G3A4
ปลย.G3A4 คือ ปลย.G3A3 ที่ใช้พานท้ายแบบจัดปรับได้ด้วยการดันขึ้น-ลง
5.ปลส.G3KA4
รุ่นนี้เป็นร่างปืนเล็กสั้นของ ปลย.G3A4 ลำกล้องยาว 12.4 นิ้ว
..................................................
ข้อมูลทางเทคนิค (กล่าวเฉพาะรุ่นมารตฐาน)
..................................................
ชื่อ : G3
ผู้ผลิต : Heckler & Koch
ขนาดกระสุน : 7.62x51มม.
ความจุซองกระสุน : บรรจุด้วยซองกระสุน 20 นัด
ความยาวลำกล้อง : 17.7 นิ้ว
ความยาวตัวปืน : 40.4 นี้ว
น้ำหนักตัวปืน : 4,38 กิโลกรัม
ระบบ : ทำงานด้วยระบบระบบลูกกลิ้งขัดกลอนพร้อมยิงขณะลูกเลื่อนปิด
อัตราเร็วการยิง : 500-600 นัด/นาที
ความเร็วปากลำกล้อง : 823 เมตร/วินาที
ระยะหวังผล : 800 เมตร
ประเทศผู้ผลิต : สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
..................................................
อ้างอิง
..................................................
The World's Assault Rifles
https://en.wikipedia.org/wiki/Heckler_%26_Koch_G3#Variants
https://de.wikipedia.org/wiki/HK_G3
https://modernfirearms.net/.../germany-assault.../hk-g3-eng/
..................................................