เกิดเมื่อ 3 มิถุนายน 1996 อายุ 26 ปี
บ้านเกิด เมืองŁask
ตำแหน่ง ตัวตีหัวเสา Opposite
สัญชาติ โปแลนด์
ตั้งแต่อายุยังน้อย เธอแสดงความสนใจในกีฬา ซึ่งเป็นเหตุผลที่เธอเริ่มก้าวแรกในวอลเลย์บอลในบ้านเกิดของเธอภายใต้การดูแลของโค้ช Bogdan Lipowski
ในปี 2013 มัลวินาได้รับรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขัน Cadet European Championships อีกหนึ่งปีต่อมา เธอถูกเรียกตัวให้เข้าร่วมทีมชาติโปแลนด์เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลกชุดเยาวชนรอบคัดเลือก
Smarzek กลายเป็นหัวหน้าทีมอย่างรวดเร็วและยังเป็นผู้เล่นทำลายสถิติ
เธอถูกจัดว่าเป็นนักกีฬาที่ดีที่สุดของโปแลนด์
ในฤดูกาล 2020/2021 เธอเป็นตัวแทนของสโมสรในอิตาลีIgor Gorgonzola Novara
และจากฤดูกาล 2021/2022 เธอเล่นให้กับ Kaliningrad Lokomotiv สโมสรของลีกในรัสเซีย
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2019 Smarzek แต่งงานกับPrzemysław Godek เจ้าของสตูดิโอสัก
( เธอชอบการสักมากและเป็นแฟนตัวยงของการตกแต่งร่างกาย ) พิธีแต่งงาน มีผู้เข้าร่วมหลายสิบคนเกิดขึ้นในโรงแรมแห่งหนึ่งใน Wiewiórzyn ใกล้ Łask บรรยากาศการแต่งงานอบอุ่นมาก ครอบครัว เพื่อนสนิท มารวมตัวกันที่นี่
ในปี 2020 เธอเปิดเผยต่อสาธารณชนว่า แรงกดดันจากผลการแข่งขันเป็นเวลาหลายปีส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเธอ ในการให้สัมภาษณ์กับ Przegląd Sportowy เธอยอมรับว่าเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคประสาทและอาการวิตกกังวลและเธอจำเป็นต้องได้รับการรักษาทางเภสัชวิทยา หมอต้องจ่ายยาระงับประสาทให้เธอทาน เพราะมีความเครียดและนอนไม่หลับ
“ฉันเข้าพบจิตแพทย์นั่นเป็นการตัดสินใจที่ดี ฉันได้รับยาระงับจิตประสาท แต่ไม่แรงเกินไป เพื่อที่ฉันจะได้เล่นได้ตามปกติ”
“คนภายนอก พวกเขาไม่มีทางรู้ว่าฉันมีปัญหา” เธอกล่าว
เธอต้องต่อสู้กับโรคประสาทและความวิตกกังวลมาหลายปี
“ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย ฉันเหนื่อย ฉันต้องการพัก ตราบเท่าที่ฉันจำได้ ฉันมีความปรารถนาที่จะอยู่ทุกที่และทุกเวลา ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ฉันรู้ว่าผู้เล่นควรรอบคอบมากขึ้นในการจัดการความแข็งแกร่งและสุขภาพกายและใจของพวกเขา ฉันมักจะใช้ความสามารถเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ และก็ทรมานตัวเอง ด้วยความคิดที่จะดิ้นรนเพื่อความสมบูรณ์แบบ อยากเอาชนะ อยากทำให้ดีที่สุด” เธออธิบาย
วันนี้ Smarzek รู้สึกดีขึ้นมาก เธอหยุดกินยาและพยายามจดจ่อกับวอลเลย์บอลเท่านั้น
“พ่อแม่สนับสนุนฉันเสมอ เมื่อตอนอายุสิบสามฉันพักอาศัยอยู่ในห้องกับผู้เล่นสาวอายุ 30 ปี ฉันได้เข้าแข่งขันเพียงเพราะฉันถอดเหล็กค้ำยันและโกหกโค้ช โค้ชอีกคนย้ายฉันไปยังทีมมืออาชีพในลีกที่สาม และฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถโจมตีได้” เธอกล่าว
นี่คือจุดเริ่มต้นอาชีพการงานของ Malwina Smarzek
เธอมาจากครอบครัวนักกีฬา
“ใช่ แม่ฉันเป็นนักกีฬากรีฑา พ่อจ็อกกิ้ง ปัจจุบันพ่อของฉันเขายังมีส่วนร่วมในอุลตร้ามาราธอน”
“พ่อของฉันวิ่ง 50 กิโลเมตรและมากกว่านั้น”
“ปัจจุบันเขากำลังเตรียมขึ้นวิ่งภูเขา การวิ่งบนภูเขาเกือบ 100 กิโลเมตรตลอดทั้งวัน เมื่อเร็ว ๆ นี้เขามีการเริ่มต้นการควบคุมฮาล์ฟมาราธอน”
เธอเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับคุณพ่อของเธอ
“พ่อแม่ให้กำลังใจฉัน และฉันก็ต้องการเป็นนักกีฬา คำถามไม่ใช่ว่าฉันจะเล่นกีฬาหรือไม่ แต่ควรเล่นกีฬาอะไร? ฉันเริ่ม เต้นรำ ว่ายน้ำ แล้วก็วิ่ง และในที่สุดฉันก็ลงเอยด้วยวอลเลย์บอลและอยู่ที่นี่” เธอเล่าต่อ
ครอบครัว เชียร์ตลอด
Q ทำไมคุณถึงเลิกเต้น ว่ายน้ำ และวิ่ง?
“ฉันยังเด็ก ฉันไม่สามารถตัดสินใจได้ ฉันชอบว่ายน้ำ แต่สักพักก็ชอบน้อยลง พี่ชายของฉันกำลังฝึกว่ายน้ำ การวิ่งสนุกมากและฉันคิดว่าฉันจะทำมันต่อได้ แต่ในเมืองของฉัน สโมสรกรีฑาและสนามกรีฑามีปัญหาเกี่ยวกับสภาวะทางการเงิน และฉันไม่มีที่ไหนเลยที่จะฝึก เราแค่ย้ายไปที่ไหนสักแห่ง ดังนั้นฉันเลยเริ่มเล่นวอลเลย์บอล”
Q เรื่องราววอลเลย์บอลที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างเหลือเชื่อของคุณคืออะไร?
“(หัวเราะ) ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทำให้หวาดกลัวนั่นคือจุดเริ่มต้นของฉัน ก่อนหน้านี้ในโรงเรียน ฉันเข้าเรียนที่ SKS แต่ฉันเริ่มการฝึกจริงๆ ทันทีหลังจากที่ฉันจบการผจญภัยด้วยการวิ่ง”
Q คุณชอบกีฬาวิ่งเหรอ?
“ความจริงที่ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับกันและกันเท่านั้น แน่นอน การเล่นเป็นทีมสนุกเพราะบางครั้งหากคุณทำได้ไม่ดี คนอื่นจะยื่นมือช่วย อย่างไรก็ตาม ฉันชอบความรู้สึกที่เมื่อฉันชนะมันเป็นเพราะฉันเอง และเมื่อฉันแพ้มันเป็นเพราะฉัน มันเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเวลาผ่านไป ฉันโตเต็มที่ และฉันเห็นบางสิ่งแตกต่างออกไป แต่ความรู้สึกดังกล่าวไม่ได้ตายไปในตัวฉันอย่างแน่นอน”
Q คุณพบการฝึกวอลเลย์บอลครั้งแรกที่จริงจังกว่านี้ได้อย่างไร?
“พ่อพาฉันไปสโมสรซึ่งเล่นในลีกที่สาม ตอนแรกฉันอยู่ในกลุ่มจูเนียร์ ฉันค่อนข้างสูง ดังนั้นพวกเขาจึงย้ายฉันไปอยู่ในกลุ่มนักเรียนรุ่นพี่ อย่างรวดเร็ว ที่ตลกที่สุดคือครู่ต่อมาฉันพบว่าตัวเองอยู่ในทีมชุดใหญ่” (หัวเราะ)
Q คุณเล่นในลีกที่ 3 ฝึกซ้อมเพียงไม่กี่เดือนใช่หรือไม่?
“ฉันเข้าร่วมทีมลีกสามอาวุโสตอนอายุ 13 ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่รู้ว่าตัวเองยืนอยู่ตรงไหน รวมถึงวิธีการเล่นด้วย”
Q ในลีกที่ 3 อาจไม่ใช่ทักษะสูงสุด แต่คุณสามารถเล่นที่นั่นได้?
“ใช่. ฉันมาซ้อมครั้งแรก วอร์มอัพ เราฝึกเป็นคู่ จนกระทั่งทุกอย่างเรียบร้อยดี เพราะฉันทำได้ดีมาก ครู่ต่อมาผู้เล่นเริ่มโจมตีและฉันก็หยุดลง”
Q ทำไม?
“เพราะในทีมจูเนียร์ ฉันไม่เคยเล่นตำแหน่งโจมตี! ฉันไม่รู้ว่าจะจัดการกับการโจมตีอย่างไร เมื่อไรจะกระโดด จะทำอย่างไรหน้าตาข่าย ฉันพยายามดูผู้หญิงทำ ฉันยืนปลายแถวและดู เป็นการยากที่จะเรียนรู้การโจมตีด้วยการดูผู้หญิงสองสามคนในการกระโดด 30 วินาที โดยปกติแล้ว เด็กผู้หญิงมือใหม่จะมีการวาดวงกลมในสนามเพื่อเรียนรู้วิธีการเข้าถึงอย่างถูกต้อง ฉันมีหลักสูตรเร่งรัด”
“จำได้ว่าฉันอายุ 13 ปี! ส่วนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อายุมากกว่าราวๆ 30 ปีปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็นลูกสาว ในการเดินทางหลายครั้ง ฉันอยู่ในห้องของฉันกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีลูกชายวัยเดียวกับฉัน เธอดูแลฉัน ช่วยเหลือฉัน มันเป็นเรื่องยาก แต่อย่างใดฉันก็สามารถจัดการได้”
Q คุณเป็นเด็กในโลกของผู้ใหญ่ คุณไม่รู้สึกเขินอายบ้างหรือไง ที่ต้องอยู่กับรุ่นใหญ่?
“ฉันเขินอายมากจริงๆ ฉันจำเรื่องราวในห้องล็อคเกอร์ครั้งแรกได้จนถึงทุกวันนี้ ผู้หญิงที่อยู่ในห้องล็อกเกอร์ทุกคนกล้ามาก พวกเขาเดินโดยไม่ใส่เสื้อผ้า เป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับฉัน ฉันเข้าไปในห้องล็อคเกอร์ แต่ละคนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันสวมผ้าเช็ดตัว และฉันก็สงสัยว่าฉันควรทำอย่างไร การอาบน้ำโดยแก้ผ้าพร้อมกับทุกคนเป็นสิ่งที่ท้าทาย” (เธอเล่าด้วยรอยยิ้ม)
Q คุณอยู่รอดในฤดูกาลนั้นได้อย่างไร?
“มันยากมาก เครียดมาก ฉันกำลังเล่นอยู่ตรงกลางและฉันก้าวเข้าไป "ทีละครั้ง" เท่านั้น ไม่มีคำถามเกี่ยวกับการโจมตีอื่น ๆ ฉันพยายามเรียนรู้ให้มากที่สุดแม้ว่าโค้ช Głuszak จะหัวเราะฉันจนถึงทุกวันนี้ว่าวิธีการโจมตีของฉันทำให้หลายคนเป็นที่ต้องการ เธออาจจะพูดถูก แต่ "การฝึก" ของฉันแตกต่างไปจากที่อื่นเล็กน้อย ฤดูกาลที่อธิบายไว้ประสบความสำเร็จเพราะเราได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นลีกที่สอง”
Q คุณมาโรงเรียน Sports Championship ได้อย่างไร?
“โดยผ่านการแข่งขันโอลิมปิคโฮป ที่นั่นฉันสังเกตเห็นและลงทะเบียนให้เรียนทาง SMS ก่อน นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวเบื้องหลังค่อนข้างมาก”
Q การเล่นในลีกที่ 2 เป็นอย่างไร?
“การเล่นในลีกที่สอง ฉันรู้ว่ามีการจัดทัวร์นาเมนต์ที่จะเปิดประตูสู่อาชีพการงานของฉัน ฉันไม่สามารถรอได้ สองสามสัปดาห์ก่อนที่เราจะเริ่ม ระหว่างการฝึกซ้อมครั้งหนึ่ง ฉันทำนิ้วตัวเองหัก การวินิจฉัยครั้งแรก การแตกหักแบบเปิด ฉันต้องเข้ารับการรักษา”
Q เพราะคุณขึ้นบล็อกใช่ไหม?
“ใช่. ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่มีหมอประจำทีม เราจึงเรียกรถพยาบาล พวกเขามาแล้ว. ปรากฎว่าไม่ใช่รอยแตกแบบเปิดเพียงนิ้วเดียวที่หลุดออกจากข้อต่อ น่าแปลกที่พวกเขาเอานิ้วจิ้มเฝือกและแนะนำว่าต้องพักอย่างน้อยสองสามสัปดาห์โดยไม่ต้องฝึก ฉันพังเพราะมันหมายความว่าฉันจะไม่ได้ไปเล่นในทัวร์นาเมนต์หน้า”
Q การกู้คืนที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างไร?
“ ใช่ ไม่สมบูรณ์. สักพักฉันก็ถอดเหล็กดัดออก ไปหาโค้ชและบอกว่าฉันแข็งแรงแล้ว เล่นได้ดี และก็สบายดี และฉันก็ไปแข่งขัน”
Q ด้วยนิ้วของคุณ ... หายเป็นปกติแล้วเหรอ?
“ย้อนกลับไปตอนนั้น ไม่ได้มีการเช็คที่ละเอียด ไม่มีใครดูมันเลย ฉันบอกว่าฉันเล่นได้ ฉันก็เลยเล่น แรกๆก็เจ็บเหมือนตกนรก ทรมานมาก “
Q คือคุณโกหกโค้ชใช่ไหมว่าหายดีแล้ว?
“(หัวเราะ) ฉันไม่คิดอย่างนั้นในชีวิตของฉัน แม้ว่าในสถานการณ์นี้ ฉันมีแรงจูงใจมากจนไม่เห็นความเป็นไปได้อื่นใด ถ้าฉันไม่ไปทัวร์นาเมนต์ บางทีวันนี้ฉันอาจจะไม่เล่นวอลเลย์บอลมาจนถึงวันนี้ก็ได้ ดังนั้นอาการบาดเจ็บที่นิ้วก้อยไม่ใช่อุปสรรคสำหรับฉัน วันนี้นิ้วโค้งเล็กน้อย แปลกๆ แต่ยังรู้สึกดี”
ข้อมูลเพิ่มเติม
ในรอบชิงชนะเลิศระดับจูเนียร์ของสหพันธ์ยุโรปตะวันออก ทีมชาติโปแลนด์เอาชนะรัสเซีย 3-2 และคว้าเหรียญทองไปครอง ผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีมโปแลนด์ Malwina Smarzek ได้รับ (MVP) และรางวัลผู้โจมตีที่ดีที่สุดของการแข่งขัน นี่เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของเธอ
9 กันยายน 2562 ทีมโปแลนด์แพ้ให้ทีมตุรกี 1:3 ในรอบรองชนะเลิศของการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปที่อังการา ปรากฏว่าก่อนการแข่งขัน Malwina Smarzek-Godek ถูกคุกคามและประสบกับช่วงเวลาแห่งความกลัว เธอได้รับข้อความขู่ฆ่าจากแฟนตุรกี- บนโซเชียลมีเดีย
“ฉันได้รับข้อความมากมายจากพวกเติร์ก รวมทั้งข้อความหยาบคายที่พวกเขาต้องการจะฆ่าฉัน พวกเขาเขียนว่าฉันควรโดนระเบิด พวกเขาแค่ต้องการให้ฉันตาย “
เธอกล่าวในการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง
ทำไมแฟนชาวตุรกีถึงโจมตีอินเทอร์เน็ตอย่างใหญ่หลวงเช่นนี้?
ก่อนเกมวันเสาร์ Malwina Smarzek-Godek เธอโพสต์ชอบการแสดงคาบาเร่ต์ Neonówka ที่ตลกขบขันซึ่งในโปรไฟล์ Instagram ของพวกเขาอ้างถึง Battle of Vienna ในปี 1683 และชัยชนะของกองทหารของ Jan III Sobieski แฟนบอลทีมชาติตุรกีไม่ปล่อยผ่าน พวกเขาปฏิบัติต่อ Smarzek-Godek อย่างรวดเร็วราวกับว่าเธอเป็นผู้เขียนการยั่วยุนี้
ในขณะเดียวกัน คาบาเร่ต์ Neo-Nówka ได้ตีพิมพ์คำอธิบายซึ่งเขาได้ขอโทษต่อผู้คนที่ไม่พอใจ ศิลปินคาบาเร่ต์เขียนในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แต่มันไม่ได้ช่วยให้แฟนตุรกีที่โกรธเคือง Smarzek หายเลย
Malwina Smarzek-Godek พยายามบรรเทาความขัดแย้ง
“ฉันพยายามจะอธิบาย แต่แฟนบอลตุรกีก็ดุดันมาก นอกจากนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจ ท้ายที่สุดฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย” เธอกล่าว
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เธอทุกข์ใจมาก เมื่อทีมโปแลนด์แพ้ให้กับทีมตุรกี แฟนชาวตุรกีก็สงบลงไม่ได้ส่งข้อความมาโจมตีเธออีกต่อไป
ปัจจุบัน เธอเล่นลีกที่ประเทศรัสเซีย กับทีม Lokomotiv
Malwina Smarzek-Godek นักตบที่แข็งแกร่ง ทีมชาติโปแลนด์
เกิดเมื่อ 3 มิถุนายน 1996 อายุ 26 ปี
บ้านเกิด เมืองŁask
ตำแหน่ง ตัวตีหัวเสา Opposite
สัญชาติ โปแลนด์
ตั้งแต่อายุยังน้อย เธอแสดงความสนใจในกีฬา ซึ่งเป็นเหตุผลที่เธอเริ่มก้าวแรกในวอลเลย์บอลในบ้านเกิดของเธอภายใต้การดูแลของโค้ช Bogdan Lipowski
ในปี 2013 มัลวินาได้รับรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขัน Cadet European Championships อีกหนึ่งปีต่อมา เธอถูกเรียกตัวให้เข้าร่วมทีมชาติโปแลนด์เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลกชุดเยาวชนรอบคัดเลือก
Smarzek กลายเป็นหัวหน้าทีมอย่างรวดเร็วและยังเป็นผู้เล่นทำลายสถิติ
เธอถูกจัดว่าเป็นนักกีฬาที่ดีที่สุดของโปแลนด์
ในฤดูกาล 2020/2021 เธอเป็นตัวแทนของสโมสรในอิตาลีIgor Gorgonzola Novara
และจากฤดูกาล 2021/2022 เธอเล่นให้กับ Kaliningrad Lokomotiv สโมสรของลีกในรัสเซีย
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2019 Smarzek แต่งงานกับPrzemysław Godek เจ้าของสตูดิโอสัก
( เธอชอบการสักมากและเป็นแฟนตัวยงของการตกแต่งร่างกาย ) พิธีแต่งงาน มีผู้เข้าร่วมหลายสิบคนเกิดขึ้นในโรงแรมแห่งหนึ่งใน Wiewiórzyn ใกล้ Łask บรรยากาศการแต่งงานอบอุ่นมาก ครอบครัว เพื่อนสนิท มารวมตัวกันที่นี่
ในปี 2020 เธอเปิดเผยต่อสาธารณชนว่า แรงกดดันจากผลการแข่งขันเป็นเวลาหลายปีส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเธอ ในการให้สัมภาษณ์กับ Przegląd Sportowy เธอยอมรับว่าเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคประสาทและอาการวิตกกังวลและเธอจำเป็นต้องได้รับการรักษาทางเภสัชวิทยา หมอต้องจ่ายยาระงับประสาทให้เธอทาน เพราะมีความเครียดและนอนไม่หลับ
“ฉันเข้าพบจิตแพทย์นั่นเป็นการตัดสินใจที่ดี ฉันได้รับยาระงับจิตประสาท แต่ไม่แรงเกินไป เพื่อที่ฉันจะได้เล่นได้ตามปกติ”
“คนภายนอก พวกเขาไม่มีทางรู้ว่าฉันมีปัญหา” เธอกล่าว
เธอต้องต่อสู้กับโรคประสาทและความวิตกกังวลมาหลายปี
“ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย ฉันเหนื่อย ฉันต้องการพัก ตราบเท่าที่ฉันจำได้ ฉันมีความปรารถนาที่จะอยู่ทุกที่และทุกเวลา ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ฉันรู้ว่าผู้เล่นควรรอบคอบมากขึ้นในการจัดการความแข็งแกร่งและสุขภาพกายและใจของพวกเขา ฉันมักจะใช้ความสามารถเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ และก็ทรมานตัวเอง ด้วยความคิดที่จะดิ้นรนเพื่อความสมบูรณ์แบบ อยากเอาชนะ อยากทำให้ดีที่สุด” เธออธิบาย
วันนี้ Smarzek รู้สึกดีขึ้นมาก เธอหยุดกินยาและพยายามจดจ่อกับวอลเลย์บอลเท่านั้น
“พ่อแม่สนับสนุนฉันเสมอ เมื่อตอนอายุสิบสามฉันพักอาศัยอยู่ในห้องกับผู้เล่นสาวอายุ 30 ปี ฉันได้เข้าแข่งขันเพียงเพราะฉันถอดเหล็กค้ำยันและโกหกโค้ช โค้ชอีกคนย้ายฉันไปยังทีมมืออาชีพในลีกที่สาม และฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถโจมตีได้” เธอกล่าว
นี่คือจุดเริ่มต้นอาชีพการงานของ Malwina Smarzek
เธอมาจากครอบครัวนักกีฬา
“ใช่ แม่ฉันเป็นนักกีฬากรีฑา พ่อจ็อกกิ้ง ปัจจุบันพ่อของฉันเขายังมีส่วนร่วมในอุลตร้ามาราธอน”
“พ่อของฉันวิ่ง 50 กิโลเมตรและมากกว่านั้น”
“ปัจจุบันเขากำลังเตรียมขึ้นวิ่งภูเขา การวิ่งบนภูเขาเกือบ 100 กิโลเมตรตลอดทั้งวัน เมื่อเร็ว ๆ นี้เขามีการเริ่มต้นการควบคุมฮาล์ฟมาราธอน”
เธอเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับคุณพ่อของเธอ
“พ่อแม่ให้กำลังใจฉัน และฉันก็ต้องการเป็นนักกีฬา คำถามไม่ใช่ว่าฉันจะเล่นกีฬาหรือไม่ แต่ควรเล่นกีฬาอะไร? ฉันเริ่ม เต้นรำ ว่ายน้ำ แล้วก็วิ่ง และในที่สุดฉันก็ลงเอยด้วยวอลเลย์บอลและอยู่ที่นี่” เธอเล่าต่อ
ครอบครัว เชียร์ตลอด
Q ทำไมคุณถึงเลิกเต้น ว่ายน้ำ และวิ่ง?
“ฉันยังเด็ก ฉันไม่สามารถตัดสินใจได้ ฉันชอบว่ายน้ำ แต่สักพักก็ชอบน้อยลง พี่ชายของฉันกำลังฝึกว่ายน้ำ การวิ่งสนุกมากและฉันคิดว่าฉันจะทำมันต่อได้ แต่ในเมืองของฉัน สโมสรกรีฑาและสนามกรีฑามีปัญหาเกี่ยวกับสภาวะทางการเงิน และฉันไม่มีที่ไหนเลยที่จะฝึก เราแค่ย้ายไปที่ไหนสักแห่ง ดังนั้นฉันเลยเริ่มเล่นวอลเลย์บอล”
Q เรื่องราววอลเลย์บอลที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างเหลือเชื่อของคุณคืออะไร?
“(หัวเราะ) ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทำให้หวาดกลัวนั่นคือจุดเริ่มต้นของฉัน ก่อนหน้านี้ในโรงเรียน ฉันเข้าเรียนที่ SKS แต่ฉันเริ่มการฝึกจริงๆ ทันทีหลังจากที่ฉันจบการผจญภัยด้วยการวิ่ง”
Q คุณชอบกีฬาวิ่งเหรอ?
“ความจริงที่ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับกันและกันเท่านั้น แน่นอน การเล่นเป็นทีมสนุกเพราะบางครั้งหากคุณทำได้ไม่ดี คนอื่นจะยื่นมือช่วย อย่างไรก็ตาม ฉันชอบความรู้สึกที่เมื่อฉันชนะมันเป็นเพราะฉันเอง และเมื่อฉันแพ้มันเป็นเพราะฉัน มันเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเวลาผ่านไป ฉันโตเต็มที่ และฉันเห็นบางสิ่งแตกต่างออกไป แต่ความรู้สึกดังกล่าวไม่ได้ตายไปในตัวฉันอย่างแน่นอน”
Q คุณพบการฝึกวอลเลย์บอลครั้งแรกที่จริงจังกว่านี้ได้อย่างไร?
“พ่อพาฉันไปสโมสรซึ่งเล่นในลีกที่สาม ตอนแรกฉันอยู่ในกลุ่มจูเนียร์ ฉันค่อนข้างสูง ดังนั้นพวกเขาจึงย้ายฉันไปอยู่ในกลุ่มนักเรียนรุ่นพี่ อย่างรวดเร็ว ที่ตลกที่สุดคือครู่ต่อมาฉันพบว่าตัวเองอยู่ในทีมชุดใหญ่” (หัวเราะ)
Q คุณเล่นในลีกที่ 3 ฝึกซ้อมเพียงไม่กี่เดือนใช่หรือไม่?
“ฉันเข้าร่วมทีมลีกสามอาวุโสตอนอายุ 13 ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่รู้ว่าตัวเองยืนอยู่ตรงไหน รวมถึงวิธีการเล่นด้วย”
Q ในลีกที่ 3 อาจไม่ใช่ทักษะสูงสุด แต่คุณสามารถเล่นที่นั่นได้?
“ใช่. ฉันมาซ้อมครั้งแรก วอร์มอัพ เราฝึกเป็นคู่ จนกระทั่งทุกอย่างเรียบร้อยดี เพราะฉันทำได้ดีมาก ครู่ต่อมาผู้เล่นเริ่มโจมตีและฉันก็หยุดลง”
Q ทำไม?
“เพราะในทีมจูเนียร์ ฉันไม่เคยเล่นตำแหน่งโจมตี! ฉันไม่รู้ว่าจะจัดการกับการโจมตีอย่างไร เมื่อไรจะกระโดด จะทำอย่างไรหน้าตาข่าย ฉันพยายามดูผู้หญิงทำ ฉันยืนปลายแถวและดู เป็นการยากที่จะเรียนรู้การโจมตีด้วยการดูผู้หญิงสองสามคนในการกระโดด 30 วินาที โดยปกติแล้ว เด็กผู้หญิงมือใหม่จะมีการวาดวงกลมในสนามเพื่อเรียนรู้วิธีการเข้าถึงอย่างถูกต้อง ฉันมีหลักสูตรเร่งรัด”
“จำได้ว่าฉันอายุ 13 ปี! ส่วนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อายุมากกว่าราวๆ 30 ปีปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็นลูกสาว ในการเดินทางหลายครั้ง ฉันอยู่ในห้องของฉันกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีลูกชายวัยเดียวกับฉัน เธอดูแลฉัน ช่วยเหลือฉัน มันเป็นเรื่องยาก แต่อย่างใดฉันก็สามารถจัดการได้”
Q คุณเป็นเด็กในโลกของผู้ใหญ่ คุณไม่รู้สึกเขินอายบ้างหรือไง ที่ต้องอยู่กับรุ่นใหญ่?
“ฉันเขินอายมากจริงๆ ฉันจำเรื่องราวในห้องล็อคเกอร์ครั้งแรกได้จนถึงทุกวันนี้ ผู้หญิงที่อยู่ในห้องล็อกเกอร์ทุกคนกล้ามาก พวกเขาเดินโดยไม่ใส่เสื้อผ้า เป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับฉัน ฉันเข้าไปในห้องล็อคเกอร์ แต่ละคนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันสวมผ้าเช็ดตัว และฉันก็สงสัยว่าฉันควรทำอย่างไร การอาบน้ำโดยแก้ผ้าพร้อมกับทุกคนเป็นสิ่งที่ท้าทาย” (เธอเล่าด้วยรอยยิ้ม)
Q คุณอยู่รอดในฤดูกาลนั้นได้อย่างไร?
“มันยากมาก เครียดมาก ฉันกำลังเล่นอยู่ตรงกลางและฉันก้าวเข้าไป "ทีละครั้ง" เท่านั้น ไม่มีคำถามเกี่ยวกับการโจมตีอื่น ๆ ฉันพยายามเรียนรู้ให้มากที่สุดแม้ว่าโค้ช Głuszak จะหัวเราะฉันจนถึงทุกวันนี้ว่าวิธีการโจมตีของฉันทำให้หลายคนเป็นที่ต้องการ เธออาจจะพูดถูก แต่ "การฝึก" ของฉันแตกต่างไปจากที่อื่นเล็กน้อย ฤดูกาลที่อธิบายไว้ประสบความสำเร็จเพราะเราได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นลีกที่สอง”
Q คุณมาโรงเรียน Sports Championship ได้อย่างไร?
“โดยผ่านการแข่งขันโอลิมปิคโฮป ที่นั่นฉันสังเกตเห็นและลงทะเบียนให้เรียนทาง SMS ก่อน นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวเบื้องหลังค่อนข้างมาก”
Q การเล่นในลีกที่ 2 เป็นอย่างไร?
“การเล่นในลีกที่สอง ฉันรู้ว่ามีการจัดทัวร์นาเมนต์ที่จะเปิดประตูสู่อาชีพการงานของฉัน ฉันไม่สามารถรอได้ สองสามสัปดาห์ก่อนที่เราจะเริ่ม ระหว่างการฝึกซ้อมครั้งหนึ่ง ฉันทำนิ้วตัวเองหัก การวินิจฉัยครั้งแรก การแตกหักแบบเปิด ฉันต้องเข้ารับการรักษา”
Q เพราะคุณขึ้นบล็อกใช่ไหม?
“ใช่. ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่มีหมอประจำทีม เราจึงเรียกรถพยาบาล พวกเขามาแล้ว. ปรากฎว่าไม่ใช่รอยแตกแบบเปิดเพียงนิ้วเดียวที่หลุดออกจากข้อต่อ น่าแปลกที่พวกเขาเอานิ้วจิ้มเฝือกและแนะนำว่าต้องพักอย่างน้อยสองสามสัปดาห์โดยไม่ต้องฝึก ฉันพังเพราะมันหมายความว่าฉันจะไม่ได้ไปเล่นในทัวร์นาเมนต์หน้า”
Q การกู้คืนที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างไร?
“ ใช่ ไม่สมบูรณ์. สักพักฉันก็ถอดเหล็กดัดออก ไปหาโค้ชและบอกว่าฉันแข็งแรงแล้ว เล่นได้ดี และก็สบายดี และฉันก็ไปแข่งขัน”
Q ด้วยนิ้วของคุณ ... หายเป็นปกติแล้วเหรอ?
“ย้อนกลับไปตอนนั้น ไม่ได้มีการเช็คที่ละเอียด ไม่มีใครดูมันเลย ฉันบอกว่าฉันเล่นได้ ฉันก็เลยเล่น แรกๆก็เจ็บเหมือนตกนรก ทรมานมาก “
Q คือคุณโกหกโค้ชใช่ไหมว่าหายดีแล้ว?
“(หัวเราะ) ฉันไม่คิดอย่างนั้นในชีวิตของฉัน แม้ว่าในสถานการณ์นี้ ฉันมีแรงจูงใจมากจนไม่เห็นความเป็นไปได้อื่นใด ถ้าฉันไม่ไปทัวร์นาเมนต์ บางทีวันนี้ฉันอาจจะไม่เล่นวอลเลย์บอลมาจนถึงวันนี้ก็ได้ ดังนั้นอาการบาดเจ็บที่นิ้วก้อยไม่ใช่อุปสรรคสำหรับฉัน วันนี้นิ้วโค้งเล็กน้อย แปลกๆ แต่ยังรู้สึกดี”
ข้อมูลเพิ่มเติม
ในรอบชิงชนะเลิศระดับจูเนียร์ของสหพันธ์ยุโรปตะวันออก ทีมชาติโปแลนด์เอาชนะรัสเซีย 3-2 และคว้าเหรียญทองไปครอง ผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีมโปแลนด์ Malwina Smarzek ได้รับ (MVP) และรางวัลผู้โจมตีที่ดีที่สุดของการแข่งขัน นี่เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของเธอ
9 กันยายน 2562 ทีมโปแลนด์แพ้ให้ทีมตุรกี 1:3 ในรอบรองชนะเลิศของการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปที่อังการา ปรากฏว่าก่อนการแข่งขัน Malwina Smarzek-Godek ถูกคุกคามและประสบกับช่วงเวลาแห่งความกลัว เธอได้รับข้อความขู่ฆ่าจากแฟนตุรกี- บนโซเชียลมีเดีย
“ฉันได้รับข้อความมากมายจากพวกเติร์ก รวมทั้งข้อความหยาบคายที่พวกเขาต้องการจะฆ่าฉัน พวกเขาเขียนว่าฉันควรโดนระเบิด พวกเขาแค่ต้องการให้ฉันตาย “
เธอกล่าวในการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง
ทำไมแฟนชาวตุรกีถึงโจมตีอินเทอร์เน็ตอย่างใหญ่หลวงเช่นนี้?
ก่อนเกมวันเสาร์ Malwina Smarzek-Godek เธอโพสต์ชอบการแสดงคาบาเร่ต์ Neonówka ที่ตลกขบขันซึ่งในโปรไฟล์ Instagram ของพวกเขาอ้างถึง Battle of Vienna ในปี 1683 และชัยชนะของกองทหารของ Jan III Sobieski แฟนบอลทีมชาติตุรกีไม่ปล่อยผ่าน พวกเขาปฏิบัติต่อ Smarzek-Godek อย่างรวดเร็วราวกับว่าเธอเป็นผู้เขียนการยั่วยุนี้
ในขณะเดียวกัน คาบาเร่ต์ Neo-Nówka ได้ตีพิมพ์คำอธิบายซึ่งเขาได้ขอโทษต่อผู้คนที่ไม่พอใจ ศิลปินคาบาเร่ต์เขียนในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แต่มันไม่ได้ช่วยให้แฟนตุรกีที่โกรธเคือง Smarzek หายเลย
Malwina Smarzek-Godek พยายามบรรเทาความขัดแย้ง
“ฉันพยายามจะอธิบาย แต่แฟนบอลตุรกีก็ดุดันมาก นอกจากนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจ ท้ายที่สุดฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย” เธอกล่าว
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เธอทุกข์ใจมาก เมื่อทีมโปแลนด์แพ้ให้กับทีมตุรกี แฟนชาวตุรกีก็สงบลงไม่ได้ส่งข้อความมาโจมตีเธออีกต่อไป
ปัจจุบัน เธอเล่นลีกที่ประเทศรัสเซีย กับทีม Lokomotiv