วิปัสสนา คืออะไร? #อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์

วิปัสสนากัมมัฏฐาน เป็นภาษาบาลี แบ่งออกเป็น ๔ คำ คือ 

วิ + ปัสสนา + กัมมะ + ฐานะ 

อธิบายรากศัพท์ดังนี้

  วิ คือ เป็นอุปสัคในอัพยยศัพท์ แปลว่า วิเศษ, แจ้ง, ต่าง 

  ทิสะ ธาตุ แปลว่า เห็น แปลง ทิสะ เป็น ปัสสะ ประกอบด้วยปัจจัยและวิภัตติ เป็น ปัสสนา แปลว่า การเห็น

  เมื่อนำทั้ง ๒ คำมารวมกันจึงเป็น วิปัสสนา ซึ่งแปลว่า การเห็นโดยวิเศษ การเห็นแจ้ง การเห็นด้วยอาการต่างๆ เห็นการวิจัย เห็นการวิเคราะห์ เห็นการวิจารณ์ เห็นการกระทำของตนเองหรือบุคคลอื่น

วิปัสสนา ก็คือ วิเคราะห์วิจัยอย่างละเอียดแยบยล 

ต้องใช้เครื่องมือ คือ โยนิโสมนสิการ การคิดพิจารณาตั้งแต่ต้นเหตุไปถึงผล ผลไปถึงเหตุ ให้ครบวงจรตามภาวะจริงแท้แห่งธรรม 

  กัมมะ แปลว่า การกระทำ, พฤติกรรม

  ฐาน แปลว่า พื้นฐานแห่งการตั้งอยู่

  เมื่อนำมาร่วมกัน 

วิปัสสนากัมมัฏฐาน แปลว่า 

เห็นแจ้งพื้นฐานของการกระทำ, 

การทำให้แจ้งซึ่งฐานแห่งเหตุของการกระทำ 

รู้แจ้งแห่งเหตุและผล คือ รู้เหตุแห่งการเกิด รู้ผลแห่งการเกิด จึงจะเรียนรู้เข้าใจเหตุและผล นำไปสู่การแก้ไขเหตุและผล ขจัดปัญหา ทุกข์ต่างๆ ได้ ซึ่งนำไปสู่ผลที่ดีขึ้น 

  
หัวใจวิปัสสนากรรมฐาน 

คือ เป็นการค้นหาตามความเป็นจริงอริยสัจ ๔ ด้วยยุทธศาสตรวิธีแห่งโยนิโสมนสิการ จากเริ่มต้นไปหาสุดท้าย และสุดท้ายวนกลับมาเป็นชั้นๆ ขึ้น นี่แหละ วิปัสสนากรรมฐาน

  ฉะนั้น เราเข้าใจความหมายวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ถ้าเราไปนั่งหลับตาทำสมาธิแล้วไม่ต้องไปคิดอะไร แล้วจะกลายเป็นวิปัสสนากรรมฐานไม่ได้

  พระพุทธเจ้าเจริญธรรมไปถึงขั้นที่ ๔ (สุข) แล้วต้องถอยมาอยู่ขั้นที่ ๓ (ปิติ) เพื่อที่จะมาวิเคราะห์ ถ้าเข้าสู่เอกัคคตาก็จะนิ่งดิ่ง ต้องมาสู่ขั้นที่ ๓ ถึงจะมาเคลื่อนได้

จุดเด่นของพระพุทธเจ้าก็คือ
หาอริยสัจ ๔

  ส่วนรูปแบบวิธีการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานสายต่างๆ เช่น พุทโธ พองหนอ ยุบหนอ สัมมาอะระหัง รูปนาม ฯลฯ อย่างนี้แล้วแต่รูปแบบ รูปไม่เหมือนกัน แต่เป้าหมายทิศทางเหมือนกัน 

  เหมือนกับเราจะเดินทางไปเหนือสุดยอดแดนสยาม ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เราหันหลังกลับก็มาที่ว่าการอำเภอแม่สายได้ แต่ถ้าเราเดินไปข้างหน้าข้ามด่านไปยังประเทศพม่า เดินรอบโลกแล้วค่อยมาถึงอำเภอแม่สาย อย่างนี้ก็ได้ ก็มาถึงเช่นกัน แต่จะเสียเวลา
  
แล้วทำไมมีรูปแบบการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานหลายสาย?

  ก็เพราะว่าคนทั่วไปรู้จักแค่นั้น ก็ได้แค่นั้น อยู่ที่ว่าเขาจะรู้จักตรงไหน

  ยกตัวอย่างสายวิปัสสนาสายพองหนอ ยุบหนอ ดูลมหายใจที่ท้องพอง ท้องยุบ กำหนดให้รู้ว่าเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นี่แหละ สายพองหนอฯ ก็เป็นส่วนหนึ่งเล็กๆ ตามที่อธิบายการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานข้างต้น

  การเดินจงกรมก็ดี หรือการทำสมาธิก็ดี ก็เป็นวิปัสสนากรรมฐานได้เหมือนกัน หากเรามีหัวใจของวิปัสสนากรรมฐาน ก็เหมือนกับการปลอกมะม่วง เราจะปลอกด้วยมีดก็ได้หรือว่าเราจะปลอกด้วยอย่างอื่นก็ได้
 
  ๑. รู้แจ้ง เห็นจริง 
  ๒. ละความยึดมั่นถือมั่น 
  ๓. วาง 
  ๔. ถอน 
  ๕. หลุด
  ๖. ไม่ไปยึดซ้ำ

  สรุปง่ายๆ ก็คือ ถอนการจมปลัก แล้วอะไรที่ทำให้ไปจมปลัก ก็คือยึดมั่นถือมั่น

การยกวิปัสสนากรรมฐาน ท่านทั้งหลายยกอะไรมาพิจารณา?

  ให้ยก "กรรม" มาพิจารณา ตัวอย่าง เราฆ่าคนเราฆ่าทำไม? 

เพราะเราโกรธ
เราโกรธทำไม? 
เพราะเราเคือง 
เราเคืองทำไม? 
เพราะทำให้สะเทือนใจเรา 

  ยกอีกตัวอย่างเช่น เราหิว 
ทำไมถึงหิว? เพราะร่างกายต้องเผาผลาญ 
เราหิวเราจะต้องเอาอะไรมากิน? ก็ต้องกินข้าว ข้าวนี้เราต้องไปขโมยมา หรือว่าเราหุงเอง      

นี่แหละพิจารณาวิบากกรรมของตัว ต้นตอแห่งกรรม คือ สาเหตุแห่งทุกข์ และสาเหตุแห่งผล

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่