เริ่มเรื่องคือ วันที่ 26 ม.ค. 2565 มีคนชื่อ น.ส. ณุจุฑา ไม่ทราบนามสกุล โอนเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้งเข้ามาในบรรชีผม 8,000 บาท ในตอนนั้นผมตีความได้เลยว่าเป็นการโอนเงินผิดบัญชี เพราะว่าบัญชีนี้ของผมเพิ่งเปิดได้ไม่ถึง10วัน เพราะเป็นบัญชีที่ทางบริษัทที่ผมทำงานให้เปิดตอนเข้าทำงาน ซึ่งผมยังไม่เคยใช้บัญชีนี้ในการทำธุรกรรมทางการเงินใดๆเลย คนที่รู้เลขบัญชีนี้ของผมมีแค่ 1.ผม 2.บริษัทที่ผมทำงาน(ซึ่งไม่ใช่คนที่โอนมาแน่นอนเพราะไม่มีการแจ้งเหตุอะไรมาที่ผมเลย) 3.บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด(เนื่องจากผมประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์และมีการสำรองจ่ายก่อนที่จะไปยื่นเบิกค่ารักษากับทาง พรย. กลาง) ผมจึงสามารถตัดสินได้ว่าเป็นการโอนเงินผิดบัญชีอย่างแน่นอน ในวันถัดมาผมเลยไปลงบันทึกประจําวันที่สถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือ ว่าจะดำเนินขอโอนเงินคืน(ตอนนั้นผมนึกว่าต้องมีใบแจ้งความไปยื่นให้ทางธนาคารตอนยื่นเรื่องโอนเงินคืน) จากนั้นก็ไปติดต่อทางธนาคารกรุงเทพเพื่อทำเรื่องโอนเงินคืน แต่ปัญหาคือทางธนาคารไม่สามารถโอนเงินคืนไปได้เพราะเป็นการโอนเงินมาจากอีกธนาคารหนึ่ง(ธนาคารกรุงไทย)ทำให้ทางธนาคารกรุงเทพไม่มีข้อมูลบัญชีของ น.ส. ณุจุฑา ต้องให้ทางฝั่ง น.ส. ณุจุฑา แจ้งเรื่องผ่านทางธนาคารกรุงไทยเพื่อที่จะได้คืนเงินได้ ทางธนาคารแนะนำว่าให้รอ น.ส. ณุจุฑา แจ้งดำเนินการและให้ผมเซ็นเอกสารมอบอำนาจให้ทางธนาคารว่าถ้ามีคนแจ้งขอเงินคืนให้ทางธนาคารกรุงเทพเอาเงินจากบัญชีผมโอนไปได้เลย ปัญหาคือจนถึงตอนนี้ผ่านมา1เดือนกว่าแล้ว ยังไม่มีการขอโอนเงินคืนเลย
ปัญหาที่ผมเจอในตอนนี้คือ
1.ผมต้องคอยระวังการถอนเงินไม่ให้กระทบกับเงิน 8,000 บาทนั้น ไม่อย่างนั้นผมจะกลายเป็นโดนข้อหายักยอกทรัพย์
2.ปัญหาที่ตามมาคือผมไม่กล้าใช้บัญชีนี้ในการสมัครรายเดือนต่างๆ เพราะถ้าผมไม่ระวังมันอาจหักเงินไปโดนเงิน 8,000 บาทนั้นและถ้าเขามาเอาเงินคืนพอดีผมก็จะโดนข้อหายักยอกทรัพย์ จากปกติคือถ้าไม่มีเงินในบัญชีให้บริการรายเดือนหักผลก็แค่ถูกระงับบริการ แต่นี่คือถ้าหักโดย 8,000 ผมซวยเลย