เมื่อเดือนที่ผ่านมาประสบปัญหาเชื้อราขึ้นเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน ฟูก และ โต๊ะหนังสือ
บริเวณพื้นและผนังไม่มีร่องรอยของเชื้อรา รวมถึงผนังห้องน้ำ มีเพียงเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของบางชิ้นที่วางใกล้เฟอร์นิเจอร์ที่มีราขึ้น
ได้มีการกำจัดในส่วนที่ขึ้นราออกไปหมดแล้วรวมถึงซักผ้าทุกตัว เช็ดทำความสะอาด กำจัดสิ่งของที่มีคราบเชื้อรา
มีการเปิดระบายอากาศบ่อยขึ้น (ไม่ได้เปิดแอร์)
งดใช้ก็อกน้ำและอ่างล้างมือในห้อง แต่ยังคงมีการใช้ห้องน้ำ แต่ได้รีดน้ำออกหลังใช้งานทุกครั้ง พยายามทำให้แห้งที่สุดหลังจากใช้งานเสร็จ ซื้อกล่องดูดความชื้นมาวางตามจุดต่างๆในห้องเปิดผ้าม่านให้แสงเข้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน
ซื้อตัววัดความชื้นของ mi พบว่าสองสามวันแรกหลังจากเริ่มทำตามข้อความด้านบนความชื้นลดลงไปเหลือประมาณ 60% - 70% แต่สองวันมานี้พบว่าความชื้นขึ้นสูงมากๆ ถึง 79%- 83% ( แต่ลองเซิร์ทดูเรื่องความชื้นพบว่าห้องนอนควรมีความชื้นที่ 50% )
ประตูห้องนอนตั้งฉากกับประตูห้องน้ำ และมีตู้เสื้อผ้าอยู่ตรงข้ามประตูห้องน้ำ ถัดมาเป็นเตียงนอน และมีหน้าต่างบานใหญ่กับระเบียงเล็กๆที่สามารถเปิดประตูออกไปได้
แสงแดดส่องเข้าห้องได้น้อยมาก ทางฝั่งห้องน้ำไม่สามารถส่องถึงเลย
สำหรับเสื้อผ้าใส่แล้วนำออกไปไว้ที่ระเบียงทุกครั้งเพราะเป็นคนเหงื่อเยอะ หลังจากซักอบแห้งทันทีแล้วจึงเก็บพับเข้าตู้
ลองสำรวจตามผนังห้องแล้วไม่พบว่ามีรอยแตก รอยน่ำรั่ว น้ำหยด และสัมผัสดูไม่พบว่ามีความชื้น
1. หลังจากใช้ห้องน้ำ เราควรเปิดหรือปิดประตูห้องน้ำ ( ในห้องน้ำมีพัดลมดูดอากาศติดบนเพดานแต่ไม่มีหน้าต่าง )
2. ตรวจสอบความชื้นของอากาศจาก google weather โดยใช้ location จริง พบว่าความชื้นที่พบใน google กับค่าที่วัดได้ในห้อง ต่างกันเล็กน้อย ( google 83% วัดในห้องได้ 81% ) แบบนี้ถือว่าผิดปกติหรือไม่ ?
3. หากเปิดแอร์บ้างจะช่วยลดความชื้นได้มากน้อยแค่ไหน ควรจะเปิดแอร์ไหม ?
4. ควรหาซื้อเครื่องลดความชื้นมาตั้งไว้ในห้องด้วยหรือไม่ ?
5. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ
ไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้ หากใส่แทกผิดต้องขออภัยมา ณ ทีนี้
ความชื้นในห้องนอน
บริเวณพื้นและผนังไม่มีร่องรอยของเชื้อรา รวมถึงผนังห้องน้ำ มีเพียงเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของบางชิ้นที่วางใกล้เฟอร์นิเจอร์ที่มีราขึ้น
ได้มีการกำจัดในส่วนที่ขึ้นราออกไปหมดแล้วรวมถึงซักผ้าทุกตัว เช็ดทำความสะอาด กำจัดสิ่งของที่มีคราบเชื้อรา
มีการเปิดระบายอากาศบ่อยขึ้น (ไม่ได้เปิดแอร์)
งดใช้ก็อกน้ำและอ่างล้างมือในห้อง แต่ยังคงมีการใช้ห้องน้ำ แต่ได้รีดน้ำออกหลังใช้งานทุกครั้ง พยายามทำให้แห้งที่สุดหลังจากใช้งานเสร็จ ซื้อกล่องดูดความชื้นมาวางตามจุดต่างๆในห้องเปิดผ้าม่านให้แสงเข้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน
ซื้อตัววัดความชื้นของ mi พบว่าสองสามวันแรกหลังจากเริ่มทำตามข้อความด้านบนความชื้นลดลงไปเหลือประมาณ 60% - 70% แต่สองวันมานี้พบว่าความชื้นขึ้นสูงมากๆ ถึง 79%- 83% ( แต่ลองเซิร์ทดูเรื่องความชื้นพบว่าห้องนอนควรมีความชื้นที่ 50% )
ประตูห้องนอนตั้งฉากกับประตูห้องน้ำ และมีตู้เสื้อผ้าอยู่ตรงข้ามประตูห้องน้ำ ถัดมาเป็นเตียงนอน และมีหน้าต่างบานใหญ่กับระเบียงเล็กๆที่สามารถเปิดประตูออกไปได้
แสงแดดส่องเข้าห้องได้น้อยมาก ทางฝั่งห้องน้ำไม่สามารถส่องถึงเลย
สำหรับเสื้อผ้าใส่แล้วนำออกไปไว้ที่ระเบียงทุกครั้งเพราะเป็นคนเหงื่อเยอะ หลังจากซักอบแห้งทันทีแล้วจึงเก็บพับเข้าตู้
ลองสำรวจตามผนังห้องแล้วไม่พบว่ามีรอยแตก รอยน่ำรั่ว น้ำหยด และสัมผัสดูไม่พบว่ามีความชื้น
1. หลังจากใช้ห้องน้ำ เราควรเปิดหรือปิดประตูห้องน้ำ ( ในห้องน้ำมีพัดลมดูดอากาศติดบนเพดานแต่ไม่มีหน้าต่าง )
2. ตรวจสอบความชื้นของอากาศจาก google weather โดยใช้ location จริง พบว่าความชื้นที่พบใน google กับค่าที่วัดได้ในห้อง ต่างกันเล็กน้อย ( google 83% วัดในห้องได้ 81% ) แบบนี้ถือว่าผิดปกติหรือไม่ ?
3. หากเปิดแอร์บ้างจะช่วยลดความชื้นได้มากน้อยแค่ไหน ควรจะเปิดแอร์ไหม ?
4. ควรหาซื้อเครื่องลดความชื้นมาตั้งไว้ในห้องด้วยหรือไม่ ?
5. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ
ไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้ หากใส่แทกผิดต้องขออภัยมา ณ ทีนี้