ทำงานล่วงเวลาไม่ได้เงิน

กระทู้คำถาม
สวัสดีครับผมผมอยากถามผู้รู้ ษริษัทผมมีการหักเงินเดือนพนักงานช่วงโควิดปีที่แล้ว10% แต่ไม่หักช่างที่ออกไปทำงานข้างนอก แต่……ช่างต้องไปถึงหน้างานเกิน8โมงเช้าถ้าเช็คอินหน้างานหลัง8โมงเช้าถือว่ามาทำงานสาย โดนหักเงิน50บาท ช่วงโควิดผมก็เข้าใจว่าเศษฐกิจไม่ดีก็ต้องช่วยบริษัท พอมาปี65ผมถามเพื่อนที่ทำงานข้างในว่าบริษัทยกเลิกหักเงินเดือน10%หรือยัง เขาบอกว่าไม่หักแล้ว แล้วที่ผมแสกนนิ้วมือที่บริษัททุกวัน7โมงเช้าผมต้องได้โอทีไหมครับเพราะเข้างาน8โมง เท่ากับผมทำงานวันละ9ชั่วโมง 1เดือน23วันผมน่าจะได้โอที23ชั่วโมงไหมครับ…หรือมีคำแนะนำในการพูดกับบุคคนไหมครับเพราะเขาไม่ให้ประมาณว่าอยากได้ก็ไปถามเจ้านายเลย
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าเช็คอินหน้างานหลัง8โมงเช้าถือว่ามาทำงานสาย โดนหักเงิน50บาท

*มาตรา 76 ห้ามมิให้นายจ้างหักค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด เว้นแต่เป็นการหักเพื่อ 
         (1) ชำระภาษีเงินได้ตามจำนวนที่ลูกจ้างต้องจ่ายหรือชำระเงินอื่นตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ 
         (2) ชำระค่าบำรุงสหภาพแรงงานตามข้อบังคับของสหภาพแรงงาน 
         (3) ชำระหนี้สินสหกรณ์ออมทรัพย์ หรือสหกรณ์อื่นที่มีลักษณะเดียวกันกับสหกรณ์ออมทรัพย์หรือหนี้ที่เป็นไปเพื่อสวัสดิการที่เป็นประโยชน์แก่ลูกจ้างฝ่ายเดียวโดยได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากลูกจ้าง 
         (4) เป็นเงินประกันตามมาตรา 10 หรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายจ้างซึ่งลูกจ้างได้กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง โดยได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง 
         (5) เป็นเงินสะสมตามข้อตกลงเกี่ยวกับกองทุนเงินสะสม 
        การหักตาม (2) (3) (4) และ (5) ในแต่ละกรณีห้ามมิให้หักเกินร้อยละสิบ และจะหักรวมกันได้ไม่เกินหนึ่งในห้าของเงินที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามกำหนดเวลาการจ่ายตามมาตรา 70 เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง 

ผมแสกนนิ้วมือที่บริษัททุกวัน 7 โมงเช้า ผมต้องได้โอทีไหมครับ เพราะเข้างาน 8 โมง เท่ากับผมทำงานวันละ 9 ชั่วโมง
*คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9015/2549
     พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ มาตรา  5 ให้นิยามของ "การทำงานล่วงเวลา" หมายความว่า "การทำงานนอกหรือเกินเวลาทำงานปกติ หรือเกินชั่วโมงทำงานในแต่ละวันที่ นายจ้างลูกจ้างตกลงกันตามมาตรา 23 ในวันทำงานหรือวันหยุดแล้วแต่กรณี" และมาตรา 24 วรรคหนึ่ง ระบุว่า "ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในวันทำงาน เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้างก่อนเป็นคราวๆ ไป" ตามบทบัญญัติดังกล่าว การทำงานของลูกจ้างที่จะเป็นการทำงานล่วงเวลา จึงต้องเป็นกรณีที่เป็นความประสงค์ของนายจ้างที่จะให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลา โดยลูกจ้างให้ความยินยอมก่อนเป็นคราวๆไป และจะต้องเป็นการทำงานนอกหรือเกินเวลาทำงานปกติหรือเกินชั่วโมงทำงานในแต่ละวัน ที่นายจ้างตกลงกันตามมาตรา 23 ในวันทำงานหรือวันหยุด เมื่อนายจ้างประสงค์ให้มีการทำงานล่วงเวลาในช่วงระยะใด นายจ้างจะต้องทำความตกลงกับลูกจ้างโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยาย ให้มีสาระสำคัญครบถ้วนถึงกำหนดช่วงระยะการเริ่มต้นและการสิ้นสุดของการทำงานล่วงเวลาไว้ก่อนล่วงหน้า หลังจากนั้นหากนายจ้างจะออกคำสั่งในเรื่องการทำงานล่วงเวลาอีก ก็ต้องให้สอดคล้องกับข้อตกลงดังกล่าว เมื่อศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่ได้สั่งให้โจทก์ทำงานล่วงเวลา แล้ววินิจฉัยว่า ถือไม่ได้ว่าโจทก์ทำงานล่วงเวลา จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา จึงชอบด้วยบทบัญญัติข้างต้นแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่