JJNY : 4in1 ศึกยูเครนทำศก.ไทยโตต่ำ│อียูนำทูตรุดคุยกมธ.กม.│พท.งัดรูปยิ่งลักษณ์ตอกส.ส.พปชร.│ผู้นำฝ่ายค้านหมีขาววอนชุมนุม

ศึกยูเครน ทำศก.ไทย โตต่ำกว่าเป้า แนะรัฐกู้เงิน 1 ล้านล้านบาทรับมือ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6918584
 
 
ภาคเอกชนแจง สถานการณ์ยูเครน ทำศก.ไทย โตต่ำกว่าเป้า ราคาน้ำมันพุ่งสูงรอบ 8 ปี แนะรัฐกู้เงินเพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาท รับมือวิกฤต
   
วันที่ 2 มี.ค.2565 นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประจำเดือนมี.ค.2565 เผยว่าการรุกรานของรัสเซียในยูเครน ทำให้ต้องมีการปรับอัตราขยายตัวเศรษฐกิจในปีนี้เหลือ 2.5-4.5% โดยได้เสนอให้รัฐบาลกู้เงินเพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาทรับมือราคาน้ำมัน
 
ทั้งนี้คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 2-3% ขณะที่การส่งออก คาดว่าจะโต 3-5% ทั้งนี้สถานการณ์ที่ยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้นมาก เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ที่ราคาทะลุ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และยังสูงต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบด้วย
 
เบื้องต้นภาคเอกชนของให้ภาครัฐจัดตั้งคณะทำงานร่วม รัฐ-เอกชน ในการติดตามประเมินสถานการณ์ในเรื่องนี้ เพื่อวางแผนในการขนส่งสินค้าไทยต่อไป แม้เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบทางตรงจากตลาดรัสเซียและยูเครนไม่มาก แต่อาจได้รับผลกระทบจากคู่ค้าอื่นที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะสหภาพยุโรป
 
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนส่งผลให้กิจกรรมเศรษฐกิจช่วงต้นปีชะลอตัวบ้าง แม้ไทยจะมีการแพร่ระบาดเข้าสู่จุดสูงสุด แต่ไม่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการคุมโรค ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจดำเนินต่อไปได้ตามปกติ
 

---

 
อียูนำทูต 23 ประเทศ รุดคุยกมธ.กฏหมาย ทักท้วงรบ.ไทย ออกกม.คุมเอ็นจีโอ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3211956

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 มีนาคม ที่รัฐสภา นาย David Daly เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย คณะเอกอัครราชทูต คณะทูตานุทูต และ ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูต รวม 23 ประเทศ เข้าพบกับ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย รองประธานกมธ. ในฐานะรักษาการประธานกมธ. และกมธ.ร่วมให้การต้อนรับ เพื่อหารือในประเด็นที่สหภาพยุโรปมีข้อกังวลเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรที่จะกระทบกับองค์กรไม่แสวงหากำไร ตามมาตรา 21 ของร่างพ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. ซึ่งอาจกระทบกับกิจกรรมขององค์กรต่างๆ โดยการจัดตั้ง และการจดทะเบียนอาจมีลักษณะในทางควบคุมมากกว่าสนับสนุน รวมถึงสถานการณ์ระหว่างรัสเซียกับยูเครนด้วย
 
ทั้งนี้ นายชวลิต เผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า การที่คณะเอกอัครราชทูต และคณะทูตานุทูต ตลอดจนผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูต ซึ่งเป็นมิตรประเทศของไทยได้รวมตัวกันถึง 23 ประเทศ นำความห่วงใย ต่อร่าง พ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร พ.ศ. …. มาปรึกษาหารือ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถือเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน และหวังดีต่อกัน ในฐานะมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ต้อง ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงต่อการเสียสละเวลามาพบปะหารือ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
 
“เนื่องจากภาคเอกชนในประเทศของตนเองได้มาปรึกษาสถานทูตว่า ร่าง พ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร พ.ศ. …. มีสาระที่กระทบกับการสนับสนุนงานด้านต่างๆ ในประเทศไทยอย่างกว้างขวาง ทั้งทางด้านสิทธิมนุษยชน สันติภาพ ประชาธิปไตย เศรษฐกิจ แรงงาน การศึกษา เฉพาะอย่างยิ่ง มีบทบัญญัติควบคุมการทำงานของภาคประชาสังคม และ NGO มากกว่าการสนับสนุน ทั้งมีบทลงโทษที่รุนแรง อันเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน”
 
นายชวลิต กล่าวว่า กมธ.จึงได้เรียนว่า จากการตรวจสอบ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 จึงยังไม่ส่งมาสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตาม กมธ.จะรับข้อกังวลในรายละเอียด แต่ละมาตราที่ให้ไว้ แจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และฝ่ายบริหารรับไปพิจารณา เปรียบเสมือนรับฟังความเห็น และเป็นความเห็นที่มีคุณค่ายิ่งจากมิตรประเทศที่มีความห่วงใยและกังวลต่อร่างกฎหมายฉบับนี้
 
ด้าน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เผยผ่านเฟซบุ๊กเช่นกันว่า ได้มีการสนทนากันถึงร่างกฎหมายคุม NGO ที่ทาง ครม. ให้ความเห็นชอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ ทางคณะทูตทุกประเทศให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันถึงความกังวลว่า การพยายามผ่านร่างกฎหมายนี้ จะนำไปสู่การปิดกั้นการทำงานของประชาสังคม และองค์กรไม่แสวงผลกำไรจำนวนมาก ทั้งในและนอกประเทศ ที่ไม่ได้มีแค่องค์กรด้านากรเมือง แต่จะกระทบไปยังองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน หรือองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับภาคส่วนต่างๆ
 
ซึ่งทางคณะกมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ก็ให้ความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ร่างกฎหมายนี้แม้จะยังไม่เข้ามาในรัฐสภา แต่ก็เป็นร่างกฎหมายที่จะส่งผลกระทบต่อเสรีภาพเป็นอย่างมาก จึงจะขอรับความเห็นของคณะทูต EU เพื่อนำไปพูดคุยกันในกมธ.เพื่อที่กมธ.สามารถส่งความเห็นดังกล่าวไปยังครม. เพื่อให้การผ่านกฎหมายไม่กระทบกับสิทธิเสรีภาพอันจะขัดต่อรัฐธรรมนูญต่อไป
 
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้มีการสนทนาประเด็นเรื่องสงครามรัสเซีย – ยูเครน ซึ่งสงครามครั้งนี้สร้างความเสียหายต่อชีวิตประชาชนและกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก ประเทศไทยเองก็อยู่ในแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามครั้งนี้ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม คณะทูตและทางกมธ.ต่างก็มีความเป็นห่วงสวัสดิภาพ และความปลอดภัยของประชาชนในเขตสงคราม เพราะการรบกันครั้งนี้มีแต่ความสูญเสีย โดยที่โลกใบนี้ยังไม่อาจรับรู้ได้ด้วยซ้ำว่าการสงครามครั้งนี้จะมอบอะไรกลับมา
 

---

 
เพื่อไทยงัดรูปยิ่งลักษณ์ ตอก ส.ส.พปชร. หลังบอกนายกฯที่เคยมาคลองเตย มีประยุทธ์คนเดียว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3212025
 
เพื่อไทย งัดรูปยิ่งลักษณ์ ตอก ส.ส.พปชร. หลังบอกมีประยุทธ์คนเดียว นายกฯที่เคยไปคลองเตย 
 
นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม.เขตคลองเตย-วัฒนา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ลงพื้นที่ทำกิจกรรมที่ชุมชนคลองเตย เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า “ปฏิบัติภารกิจเพื่อคนคลองเตย มาเกือบ 3 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยทอดทิ้งชาวคลองเตย ทำงานช่วยเหลือพี่น้องชาวคลองเตยมาโดยตลอด จนเป็นที่ประจักษ์ นางกรณิศระบุช่วงหนึ่งว่า ตั้งแต่เป็นนักการเมือง เป็นเวลา 11 ปี (ส.ก. 2 สมัย 8 ปี และ ส.ส. 3 ปี) เพิ่งเคยเห็นนายกรัฐมนตรี ท่านเดียวที่มีความห่วงใยและลงมาพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชุมชนแออัดคลองเตย คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
 
ด้าน จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์  ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย โพสต์ภาพนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วงลงพื้นที่คลองเตย โดย ระบุว่า
ใครอยากจะชมว่าพล.อ.ประยุทธ์มาลงพื้นที่ชุมชนแออัดคลองเตยก็ตามสบาย แต่อย่าใช้คำว่าเป็นนายกคนเดียว นายกท่านอื่นจะเสียหาย เลยเอาภาพเก่าๆมาให้ดูกันคลายคิดถึงครับ
 
ขณะที่  ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์  ส.ส.กรุงเทพฯ และเป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย  เขียนข้อความ ระบุว่า
 
ภาพท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงพื้นที่คลองเตย (หลังท่านนายกฯ คือครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ)
 
ในข่าวที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกคนเดียวที่ลงพื้นที่นี้ ถือเป็นการบิดเบือนข่าวสารให้ ปชช.เข้าใจผิด ผู้พูดควรมีจิตสำนึกออกมากล่าวคำขอโทษ  แสดงความรับผิดชอบ เมื่อทำให้ผู้อื่นเสียหาย
 
เป็นการตอกย้ำว่าหลายเรื่องที่ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ถูกใส่ร้ายด้วยข้อมูลเท็จ ถ้าเป็นเรื่องที่มีภาพถ่ายก็นำมาเปิดเผยลบคำใส่ร้ายได้ แต่บางเรื่องเป็นเรื่องสืบสวน จนท.ไม่ได้นำมาเปิดเผย ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองก็ใส่ร้ายอย่างขาดความรับผิดชอบ การตามข่าวการเมืองเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงจึงสำคัญ