แตกประเด็นจาก
https://pantip.com/topic/41292320
.
สลิ่มชนนั้น มีอัตลักษณ์ที่เป็นนิจจังอยู่อย่างหนึ่ง
นั่นคือ คิดแบบที่อยากให้เป็น ฟังในสิ่งที่อยากฟัง ดูในสิ่งที่ถูกใจ ไม่ได้คำนึงความสมเหตุสมผลและข้อเท็จจริงใด ๆ
อะไรที่ไม่อยากฟัง อะไรที่คิดแล้วไม่ตรงกับที่อยากให้เป็น อะไรที่ดูแล้วไม่ถูกจริตโดนใจ สลิ่มชนจะ Ignore ไม่รับแม้แต่นิดเดียว
จึงได้เห็นสลิ่มชนทำอะไร คิดอะไรแบบหลุดโลกเป็นประจำ
นั่นเพราะเป็นการคิด เป็นการกระทำเพื่อตอบสนองอารมณ์ความรู้สึกส่วนตนเท่านั้น ไม่ได้อิงเหตุผลและข้อเท็จจริงใด ๆ
กรณีวิกฤติการณ์ รัสเซีย - ยูเครน
แค่พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความเห็น สื่อสลิ่มพุ่งเข้าโจมตีทันที กล่าวหาพิธาต่าง ๆ นานา
สลิ่มชนทั้งหลายก็เย้ว ๆ ตามทันที ไม่ได้คิดอะไรอย่างเคย สื่อสลิ่มจูงไงก็ว่าไปตามนั้น เพราะตรงตามอารมณ์ความรู้สึกส่วนตน
พิธําเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารออกจากยูเครน
สื่อสลิ่มก็โจมตีว่า พิธาจุ้น พิธาเหิมเกริม ทั้งที่สิ่งที่พิธาแสดงออก เป็นเรื่องที่สังคมโลกหรือแม่กระทั่งคนรัสเซียเองก็ทำกันทั้งนั้น
และที่สำคัญ แม้พิธาจะเป็นนักการเมือง เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง คำเรียกร้องของเขาก็ไม่ใช่ในนามประเทศไทย
ไม่ได้มีผลใด ๆ ต่อสถานการณ์ ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน หรือสถานการณ์ระหว่างไทยกับรัสเซีย
และก็แปลก สื่อสลิ่ม สลิ่มชนทั้งหลาย โมเมคิด มั่วกล่าวหาทันที
ว่าพิธาบังอาจสั่งให้ปูตินถอนทหาร
ไม่รู้คิดได้ไง เย้ว ๆ ตามกันแบบเอ็งเปิดมาเหอะ ข้าตามเสมอ
.
พอวันต่อมา ทางการไทย ได้แสดงจุดยืน (หลังจากทูตยุโรป - สหรัฐ ทวงถามจุดยืนไทย)
ว่า ...ประเทศไทยมีจุดยืนในการ “สนับสนุนแนวทางการแก้ปัญหาอย่างสันติ”
และ “พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มที่” กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ...
จุดยืนที่ทางการไทยแถลงนี้ ไม่ต่างอะไรเลยกับที่พิธาเรียกร้อง
เพียงถ้อยคำและวิธีการต่างกันเท่านั้น แต่เนื้อหาและความหมายไม่ต่างกันเลย
ถึงขนาดนั้น สลิ่มชนแทนที่จะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร
กลับยังตะแบงเถียง ตะบันตีความอยู่อย่างเดิมว่า พิธาจุ้น พิธาสั่ง ตามที่สื่อสลิ่มชี้นำไว้
และเพื่อปกป้องอารมณ์ความรู้สึกส่วนตน แม้จะเห็นว่า สิ่งที่ตัวเองคิด พูด ทำต่อพิธา นั้น ผิดเต็ม ๆ
อย่างว่า ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น ก็ไม่ใช่สลิ่มน่ะสิ
.
บทบาทที่เหมาะสมของไทย คือไม่เลือกข้าง แต่ก็ต้องแสดงจุดยืนว่าไม่เอาสงคราม เรียกร้องให้มีการเจรจากันอย่างสันติ
ไม่ใช่เฉย ไม่ใช่ทำไม่รู้ไม่เห็นอย่างที่สลิ่มบางคน (ที่สลิ่มด้วยกันมักอวยว่าเป็นผู้รู้ เป็นสื่อใหญ่ เป็นอดีตคนทำงานความมั่นคง) เอ่ยอ้าง
เพราะไทยเราอยู่ในสังคมโลก เราไม่ได้บอกว่าใครผิด เราไม่ได้เข้าข้างใครว่าถูก แต่เราต้องมีจุดยืนว่า ไม่เห็นด้วยกับการรบราฆ่าฟัน
จีน อินเดีย ในกรณีนี้ วางตัวนิ่ง เพราะหากแสดงท่าทีหนุนรัสเซีย ก็คือเห็นด้วยกับการฆ่าฟัน
และหากแสดงท่าทีเห็นด้วยกับรัสเซีย ก็จะส่งผลให้ตัวเองกลายเป็นยักษ์เป็นมารในสายตาโลกทันที
การนิ่งของจีน อินเดีย ก็คือการแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับสงคราม
แต่ไม่เสนอข้อเรียกร้องใด ๆ ต่อรัสเซีย ให้สังคมโลกจัดการกันเอง
หากจัดการกันไม่ได้ เกิดปัญหาลุกลามบานปลาย ถึงตรงนั้น จีนกับอินเดียว ก็ต้องคิดหนักว่าจะเลือกจุดยืนอย่างไร
ไทยเราเอง ไม่ได้มีปัญหาอะไรทางการเมืองระหว่างประเทศในเรื่องนี้
มีแต่ปัญหาทางการเมืองภายในประเทศเท่านั้นแหละ
มันก็แค่ว่า ทางการไทยแสดงท่าทีช้า โดนฝ่ายค้านชิงเล่นบทนำก่อน
สื่อสลิ่มที่อวยกันอยู่ก็เลยต้องออกมาโจมตีฝ่ายค้านเพื่อดิสเครดิต
เท่านั้นเอง
.
เรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นแม้วล่ะก็
ไทยเราคงมีบทบาทระดับโลกไปแล้วครับ ไม่มัว ๆ คลุม ๆ เครือ ๆ จนโดนเรียกร้องหรอก
.
I want you to make love, not war
john lennon
.
สุดท้าย ก็ได้เห็นแล้ว ว่าไทยเราแสดงจุดยืนเรื่องนี้อย่างไร
ตามภาษิตที่ว่า ช้า ดีกว่าไม่มา
เสียแต่ว่า เมื่อรัฐมนตรีอาเซียนแถลงจุดยืนแล้วว่าไม่เห็นด้วยกับสงคราม
นั่นแหละ ไทยเราถึงได้มาแสดงบ้างว่า เห็นด้วยกับอาเซียน ทั้งที่เราควรแสดงบทบาทนำอาเซียนไปเลยดีกว่า
จริงไหมครับหลิ่ม
ก็ไม่รู้สลิ่มชนเขามีวิธีคิดกันยังไงนะครับ
และ “พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มที่” กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ...