จากกรณีที่ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU (Illegal Unreported and Unregulated Fishing) ไม่ดีขึ้น จนส่งผลกระทบต่อความมั่นคง และภาพลักษณ์ของประเทศ ส่วนหนึ่งก็มาจากความไม่จริงจังในการจัดการ และความต่อเนื่องของมาตรการติดตามของภาครัฐ จนทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่หากภาครัฐเผลอเมื่อไร ความเข้มงวดก็จะหย่อนยานเมื่อนั่นเช่นกัน และกลายเป็นโอกาสที่จะมีคน หรือกลุ่มคนที่อาศัยช่องว่างดังกล่าวเข้ามาหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยว่า
• 76% - รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญด้านมนุษยธรรมและการคุ้มครองมากกว่าอดีตที่ผ่านมา
• 75.1% - เชื่อมั่นว่า ความตั้งใจจริงของรัฐบาล การใส่ใจจริงจังในหน้าที่ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง มีส่วนสำคัญในการป้องกันและแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างยั่งยืน
• 92.2% - อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงไปดูแลและคุ้มครองสิทธิ์ แก้ปัญหาการบังคับแรงงานในทุกภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของประเทศไทยกลายเป็นประเด็นในหน้าสื่อเมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา จนทำให้สหภาพยุโรป (อียู) ประกาศให้ใบเหลืองกับประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.2558 ในสมัยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำให้ต้องมีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อกำกับดูแล และแก้ไขปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ให้มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของการใช้แรงงานของภาคอุสาหกรรมประมงของไทย ที่มีเรื่องของการค้ามนุษย์เกิดขึ้นด้วย ไปสู่การถูกจัดอันดับให้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มเทียร์ 3 และเกิดการคว่ำบาตรทางการค้าจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงนั้น จนเป็นที่มาของการออก พรก.ประมงปี 2558 และแก้ไขเพิ่มเติมอีกในปี 2560 เพื่อให้เป็นไปตามกฎข้อบังคับของไอยูยู จนทำให้หลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบกันเป็นลูกโซ๋ ทั้งห้องเย็น แพปลา โรงน้ำแข็ง อู่เรือ เพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากใบเหลือง
การแก้ไขปัญหาประมงของไทยด้วยยาแรง เริ่มต้นจากการใช้มาตรา 44 (ม.44) แบบหักดิบ แก้ไขปัญหาเร่งด่วน เพื่อการแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย IUU Fishing จากเรือประมงของไทยที่เคยมีมากกว่า 5 หมื่นลำ ปัจจุบันมีเรือประมงที่ถูกกฎหมาย และมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องเพียงหลัก 1 หมื่นลำเท่านั้น การขึ้นทะเบียนเรือประมงที่เข้มงวดขึ้น เช่น ให้มีการต่อใบอนุญาตเรือประมงพาณิชย์ทุก 2 ปี
การเข้มงวดเรื่องการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวต้องมีเอกสารชัดเจนและถูกกฎหมาย จนทำให้เกิดปัญหาแรงงานประมงหนีกลับประเทศเพราะกลัวถูกดำเนินคดี จนทำให้ประเทศไทยขาดแรงงานประมง
จากความเข้มงวดครั้งนั้น ทำให้เรือประมงหลายลำต้องจอดทิ้งไว้ เพราะไม่สามารถนำเรือออกทะเลเพื่อทำประมงได้ ไม่ว่าจะเป็นการไม่มีใบอนุญาต ตลอดจนถึงการจ้างแรงงานต่างด้าวที่มีเอกสาร ประจวบกับวิกฤตโควิด-19 มา แรงงานหาย รายได้ลด แต่ค่าใช้จ่ายในครอบครัวเท่าเดิม แถมราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปี 2559 - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้เลื่อนสถานะของไทยในรายงานการค้ามนุษย์จากเทียร์ 3 ขึ้นมาเป็นเทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List)
ปี 2560 - คงสถานะเดิม เทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List)
ปี 2561 - เลื่อนขึ้นมาเป็นเทียร์ 2
ปี 2564 - ลดระดับจากเทียร์ 2 เป็น เทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List) อีกครั้ง
แล้วปี 2565 - ไทยจะถูกปรับเป็นระดับไหน ??
ปัญหาประเทศไทย "ปราบปรามต้องจริงจัง และใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง"
• 76% - รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญด้านมนุษยธรรมและการคุ้มครองมากกว่าอดีตที่ผ่านมา
• 75.1% - เชื่อมั่นว่า ความตั้งใจจริงของรัฐบาล การใส่ใจจริงจังในหน้าที่ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง มีส่วนสำคัญในการป้องกันและแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างยั่งยืน
• 92.2% - อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงไปดูแลและคุ้มครองสิทธิ์ แก้ปัญหาการบังคับแรงงานในทุกภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของการใช้แรงงานของภาคอุสาหกรรมประมงของไทย ที่มีเรื่องของการค้ามนุษย์เกิดขึ้นด้วย ไปสู่การถูกจัดอันดับให้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มเทียร์ 3 และเกิดการคว่ำบาตรทางการค้าจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงนั้น จนเป็นที่มาของการออก พรก.ประมงปี 2558 และแก้ไขเพิ่มเติมอีกในปี 2560 เพื่อให้เป็นไปตามกฎข้อบังคับของไอยูยู จนทำให้หลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบกันเป็นลูกโซ๋ ทั้งห้องเย็น แพปลา โรงน้ำแข็ง อู่เรือ เพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากใบเหลือง
การแก้ไขปัญหาประมงของไทยด้วยยาแรง เริ่มต้นจากการใช้มาตรา 44 (ม.44) แบบหักดิบ แก้ไขปัญหาเร่งด่วน เพื่อการแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย IUU Fishing จากเรือประมงของไทยที่เคยมีมากกว่า 5 หมื่นลำ ปัจจุบันมีเรือประมงที่ถูกกฎหมาย และมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องเพียงหลัก 1 หมื่นลำเท่านั้น การขึ้นทะเบียนเรือประมงที่เข้มงวดขึ้น เช่น ให้มีการต่อใบอนุญาตเรือประมงพาณิชย์ทุก 2 ปี
จากความเข้มงวดครั้งนั้น ทำให้เรือประมงหลายลำต้องจอดทิ้งไว้ เพราะไม่สามารถนำเรือออกทะเลเพื่อทำประมงได้ ไม่ว่าจะเป็นการไม่มีใบอนุญาต ตลอดจนถึงการจ้างแรงงานต่างด้าวที่มีเอกสาร ประจวบกับวิกฤตโควิด-19 มา แรงงานหาย รายได้ลด แต่ค่าใช้จ่ายในครอบครัวเท่าเดิม แถมราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปี 2559 - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้เลื่อนสถานะของไทยในรายงานการค้ามนุษย์จากเทียร์ 3 ขึ้นมาเป็นเทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List)
ปี 2560 - คงสถานะเดิม เทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List)
ปี 2561 - เลื่อนขึ้นมาเป็นเทียร์ 2
ปี 2564 - ลดระดับจากเทียร์ 2 เป็น เทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List) อีกครั้ง