สามีหมดสมรรถภาพทางเพศ และไม่มีอะไรกันมา 9 ปี

ท้าวความก่อนนะคะ ก่อนจะแต่งงาน นานๆ เจอกันก็เพียงคืนละครั้ง พอหลังแต่งก็สัปดาห์ละครั้ง พอทราบว่าท้อง ก็ไม่มีอะไรอีกเลย จนลูกคลอดได้ 3ขวบ เราไปเพิ่มความมั่นใจด้วยการเสริมหน้าอก ก็เป็นฝ่ายเริ่มเองจนท้องอีกคน (เราทำเองทุกขั้นตอน) หลังจากทำนมมา เราจะเป็นฝ่ายเริ่มเองทุกครั้ง สามีสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง เพราะเค้าไม่ค่อยแข็งตัว จริงๆ อาการนี้เป็นตั้งแต่ตอนรู้จักกันแล้วค่ะ แต่ตอนนั้นยังตื่นเต้น ก็เลยลุล่วงไปด้วยดี happy ทั้งสองฝ่าย

จนกระทั่งตอนนี้ เรากับสามี ไม่มีอะไรกันเลยกว่า 9 ปี สามีไม่มีอาการแข็งตัวในตอนเช้า ไม่มีอารมณ์ทางเพศ ไม่เหลืออะไรให้เราได้ลุ้น 

เราดูแลตัวเองดีมาก ยอมรับว่ายังเป๊ะ อายุน้อยกว่าสามี 10 ปี  เล่าให้เพื่อนสนิทฟัง เค้าก็ไม่เชื่อว่า สามีจะสามารถเพิกเฉยเราเลย เพราะเพื่อนๆ เรามองเราว่า sexy สวย หุ่นดี เอวคอด สะโพกผาย แต่งตัวทันสมัย 

คือเราเสียความมั่นใจ เราพยายามทุกหนทาง ไม่ว่าจะใส่ชุดนอนสวยๆ ผ้าลื่นๆ 
หรือทำตัวให้ผอมตลอดเวลา แล้วก็ตาม สามีก็ไม่มีอาการตอบสนองใดๆ 

เค้าทำงานที่บ้าน อยู่บ้านทุกวัน ไม่มีการนอกใจแน่นอน แต่ 3-4 ปี หลังเค้าเข้ายิม ไปออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์ เราก็กะว่า เค้าคงอยากเพิ่มความฟิตมั้ง แต่ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยน 

เราหาอ่านมาหลายสำนัก เราว่าเค้ามีปัญหาทางสมรรถภาพ ถามว่าจะไม่มีทางกลับมาใช้งานได้อีกแล้วเหรอคะ คือหมดแล้วหมดเลยรึไม่ เราขอหย่าหลายครั้งแต่ก็สงสารลูก แค่บอกลูกว่า ถ้าต่อแต่นี้ไป พ่อแม่ต้องแยกทางกัน ลูกจะทำยังไง ลูกจะอยู่กับใคร แค่นี้ลูกก็ร้องไห้ เสียใจ เราก็เจ็บ คือจริงๆ เราอยากจะหย่ามาตั้งแต่แต่งงานแรกๆ แล้วค่ะ 

อาการสามีของเรานะคะ คือเวลาจะนอนเค้าจะดูรายการตลกๆ นอนขำข้างๆ เราทุกคืน จนเหนื่อยเสร็จ เค้าก็จะหันหลังนอน ไม่เคยสัมผัสเรา เหมือนกลัวอะไรสักอย่าง เหมือนเค้าพยายามหลบเลี่ยงอาการหมดสมรรถภาพของเค้า เรานอนร้องไห้มาเกือบสิบปี ร้องจนเจ็บหัวใจ เหมือนคนบ้า
เหมือนตัวเองไร้ค่า ทั้งๆที่ ถ้าไม่มีเค้า เราก็ยังหาใครก็ได้ 

เราเคยขอร้องเค้าว่าเรามาทำการตกลงกันไหม ว่าต่างคนต่างไปมีอะไรก็ได้ แค่อยู่ด้วยกันทำหน้าที่พ่อแม่ เค้าบอกถ้าจะทำแบบนั้น เลิกกันไปเลยดีกว่า คือเค้ารับไม่ได้ค่ะ ถ้าเราจะไปมีใคร

ถ้าเราเป็นเค้า เรายอมให้เค้าไปมีอะไรกับใครก็ได้ หากเรารู้ว่าเราไม่สามารถให้ในส่วนตรงนี้ได้

เค้าจะคิดบ้างไหม ว่ามันเหงามาก เวลาอาการกำเริบ มันเจ็บหัวใจสุดๆ เราจะต้องทนแบบนี้ไปตลอดเลยรึเปล่า
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
จากข้อมูลมีปัญหาทางด้านความสัมพันธ์ด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องสมรรถภาพอย่างเดียว

ลดความเครียด เพิ่มความรู้สึกเชิงบวก

หยุดบ่น หยุดด่า ฟังเยอะๆ คิดเยอะๆก่อนพูดค่ะ ปรับปรุงเรื่องความสัมพันธ์ก่อน พูดจากันดีๆเพราะๆ ไม่หงุดหงิดใส่กัน ทำอาหารให้กิน เมนูก็เช่น ปลาแซลมอลอย่างเกลือ ไข่ต้มยางมะตูม ผัดกะหล่ำไม่ใส่น้ำมัน กล้วยหอมนมสดปั่น แตงโมแช่เย็นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำหวานๆ การบีบนวดเพื่อผ่อนคลาย จิบชาคาโมมายด์

ถ้าความสัมพันธ์ดีแล้ว ค่อยสร้างบรรยากาศโรแมนติก

ถ้าความสัมพันธ์ไม่ดีก็ส่งผลต่ออารมณ์ทางเพศนะ

ป.ล.เขาไม่ได้ชอบผู้ชายใช่ไหมคะ ไปยิมบ่อยๆ เขาชื่นชอบดูรูปผู้หญิงหรือดาราผู้หญิงไหม หรือชอบดูรูปผู้ชายมากกว่า
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
เท่าที่อ่านดู ... เราว่า คู่คุณ มีปัญหาเรื่องการสื่อสารกันนะคะ

คุณเหงา คุณคิดว่าเขา “ควรจะรู้”

เขารู้ค่ะ แต่เขาคร้าน ที่จะทำเพิ่ม ในเรื่องความสัมพันธ์ทางกาย  ซึ่งอาจจะเกิดจากปัญหาสะสมมา
เริ่มจากเครียด แล้วก็มาหมดความมั่นใจลงไปเรื่อยๆ  ยิ่งมาเจอคุณทำท่าไม่พอใจ ยิ่งไปกันใหญ่
ตอนคุณทำเอง เขาเสร็จบ้างไม่เสร็จบ้าง  หนักๆเข้าก็ไม่แข็งเลย

ลึกลงไปในใจเขา ก็คง รู้สึก อาย  เกลียดตัวเอง ที่ทำหน้าที่ตรงนี้ได้ไม่ดี
(ทุกข์นี้ ไม่น้อยไปกว่า ความน้อยใจ ที่คุณมองว่าตนเองไร้ค่า เพราะเขาไม่สัมผัส ไม่ใส่ใจ ไม่แสดงความรัก)

ที่เขาหลีกเลี่ยงที่จะถูกตัวคุณ ก็คงเพราะไม่อยากให้คุณเริ่มทำเรื่องนั้นกับเขา
เพราะถ้าไม่ทำเขายังใช้ชีวิตปกติได้
แต่ถ้าเริ่มทำ มันคือการตอกย้ำ ว่าเขาล้มเหลว และไร้ค่า (เรามองว่าตรงนี้ เขาก็คงรู้สึกเหมือนคุณ แค่คนละมุม)

ลองถามตัวเองดูอีกทีค่ะ
ว่า ใช่เรื่องเซ็กส์ ไหม ที่อยากได้จากเขา

ถ้าใช่ ก็ทราบไว้เลยค่ะ ว่าเขาจะไม่ไปหาหมอ จะไม่ปรับปรุงเรื่องนี้แน่ๆ
เพราะในมุมของเขา เขาไม่อยากยอมรับออกมา ดังๆว่า นี่คือข้อบกพร่อง
อาจจะทั้งอาย และทั้งกลัว (กลัวว่าจะต้องทำให้คุณผิดหวังอีก หากรักษาไม่หาย)

แต่ถ้า หักกลบลบข้อดี ข้อเสียแล้ว
แม้หากไม่มีเซ็กส์กัน แต่เขามอบเป็นความอบอุ่น ความเอาใจใส่ ความโรแมนติกแบบตอนจีบกันใหม่ๆ

ถ้าคุณพอใจที่ตรงนี้ ... ตรงจุดนี้ น่าจะพอรอมชอมกันได้ค่ะ

เมื่อเปิดใจพูดกัน
แรกๆ เขาอาจจะยังไม่ให้ความร่วมมือ เพราะคุณด่าเขาไว้เยอะ เขาจึงยังไม่ไว้ใจ

ตรงนี้ให้คุณพิสูจน์ตัวเองก่อน ว่าคุณพร้อมจะเปลี่ยน
อยากให้เขาเป็นคนเดิม แบบตอนจีบกันใหม่ๆ คุณก็ต้องเป็นแบบนั้นด้วย (เชื่อว่า ตอนนั้นคุณคงไม่ด่าเขามากแบบนี้ใช่ไหมคะ)

ทำข้อตกลงกัน ว่า จะเติมความหวานเพื่อกันและกัน เริ่มจาก 1 ชม.  ต่อวัน
ใน หนึ่งชม. นี้ ให้ลืมนึกถึงความต้องการของตัวเองไปค่ะ
โจทย์คือ ให้ทำเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งมีความสุขที่สุด ในแบบที่เราอยากจะจีบเขา อยากจะได้เขามาครอบครองนั่นแหละ
แสดงความรักต่อกัน ราวกับว่า พรุ่งนี้จะไม่ได้เจอกันอีก (เอาจริงๆ ชีวิตคนเรา มันก็ไม่แน่ไม่นอนนะคะ ใครจะรู้ ว่าจะตายจากกันเมื่อไหร่ จริงมะ)

หากช่วงแรกๆ ดูเหมือนไม่ได้ผล อย่าด่า นะคะ (เพราะการเบลมเขาจะยิ่งเป็นการผลักเขาให้ห่างออกไป)
และอย่าไปกดดันเรื่องเพศเอากับเขานะคะ พูดเรื่องนี้ขึ้นมากลางปล้องเมื่อไหร่
เขาคงจะไม่อยากทำอะไร เพิ่มอีก (เพราะปมในใจเขา เขาตั้งธงไว้แล้วว่า มันเป็นเรื่องที่เขาทำไม่ได้ค่ะ)

ถือซะว่า คุณจะพยายาม ทำดีกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจากลา  (จะได้ไม่รู้สึกผิด หากต้องเลิกรา)
และ เขาเอง ก็จะกระตือรือร้น ทำเพื่อ “รักษา” คุณไว้เช่นกันค่ะ (เมื่อเขาเห็นแล้วว่า มีโอกาสจะเสียคุณไปจริงๆ)

แจ้งให้เขาทราบล่วงหน้าด้วยว่า
หากการพยายามครั้งนี้ ไม่สำเร็จ คุณและเขา จะอยู่ด้วยกันในฐานะเพื่อน เพื่อทำหน้าที่พ่อแม่ของลูกเท่านั้น

ใช้ทั้งไม้อ่อน ไม้แข็งให้พอเหมาะ
เขาน่าจะยอมปรับตัวในจุดนี้ได้ค่ะ

ไม่เป็นไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่