นี่เป็นครั้งแรกที่ลุงแมวได้ลองใช้หูฟังของ SteelSeries ซึ่งได้ยินมานาน ว่าเป็นหูฟังที่ดี แต่ไม่เคยลองสักที หลังจากทาง SteelSeries ได้ส่ง Arctis 7P+ Wireless มาให้ลองใช้ได้ประมาณเดือนกว่าๆ วันนี้ได้ฤกษ์ดี เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์การใช้งาน หูฟังเอนกประสงค์ต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สายตัวนี้ ใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง กับทั้งการเล่นเกม PS5 (ต่อ PS4 ได้ด้วยนะ) Switch และ การทำงานบน PC
.

.
ในเชิงการเชื่อมต่อ Arctis 7P+ Wireless มาสองแบบคือแบบมีสายซึ่งเค้าจะมีสายต่อจากตัวพอร์ต (เข้าใจว่า) Micro USB เป็น พอร์ต 3.5 มม แจ๊คหูฟัง ทำให้เราสามารถต่อหูฟังตัวนี้กับอะไรก็ได้ที่มีพอร์ตหูฟัง ทั้งตัวจอยของ PS4 PS5 Switch PC MAC โทรศัพท์มือถือ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดหูฟัง ไม่ต้องใช้แบตเตอร์รี่ และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ในตัวกล่องเองเค้าจะมีตัวรับส่งสัญญาณไร้สาย USB Dongle มาให้ด้วย เป็น USB-C และมาพร้อมตัวแปลง USB-C เป็น USB-A ซึ่งเราสามารถเอาเสียบกับ PS4 / PS5 / Switch Dock / มือถือ Android / Android Tablet / PC/ Mac ได้เลย และการเปลี่ยน Source ก็ง่ายมาก เพียงดึงตัว Dongle จากตูดของเครื่องต่างๆ ไปเสียบเครื่องใหม่ไปมา เท่านั้นเอง เพราะว่าตัว USB Dongle ทำการรับส่งสัญญาณไปมาตลอดเวลาอยู่แล้วเราไม่ต้องทำการเปิดปิดหูฟังใหม่ โดยการใช้งานข้างกล่องเค้าบอกว่าใช้ได้ประมาณ 30 ชั่วโมงต่อการใช้ชาร์จหนึ่งครั้ง
.
ในเชิงฟังชั่นของหูฟัง ทางด้านซ้ายหลังของหูฟังจะเป็นปุ่ม เปิดปิดไมค์โครโฟน ที่เมื่อเราใช้จะมีสีแดงขึ้นที่ตัวไมโครโฟนด้วย ตัวเร่งลดเสียง นอกนั้นเป็นพอร์ตการเชื่อมต่อแบบมีสายและ USB-C ที่เอาไว้ชาร์จไฟ ด้านขวาหลังของหูฟังมี Sidetone ที่ทำให้เราได้ยินเสียงตัวเราเองเวลาพูดออกไมค์โครโฟน สามารถเร่งลดเสียงได้ และปุ่มปิดหูฟังที่เมื่อเราเปิดใช้งานจะมีแสงกระพริบช้าๆ ออกมา ทำให้เรารู้ว่า เปิดเครื่องและเชื่อมต่ออยู่ ตัวฟองน้ำหูฟังทั้งสองข้างเข้าใจว่าเป็น Memory Foam ข้อดีคือระบายอากาศได้ ไม่อึดอัด ไม่ร้อน ตัวหูฟังปรับขนาดหัวได้จากผ้าคาดหัวที่อยู่ด้านใต้ที่คาดหูฟัง โดยตัวเครื่องเป็นสีขาว สลับน้ำเงิน เพื่อให้เข้ากับ PS5 เอาวางกับจอย PS5 นี่เข้ากันมากๆ วัสดุโครงสร้างหลักของหูฟังเป็นเหล็กเพื่อความแข็งแรง ในขณะที่ตัวส่วนประกอบของหูฟังเป็นพลาสติก ทำให้น้ำหนักเบา
.
การสวมใส่ เป็นหนึ่งในหูฟังที่ใส่สบายมาก เนื่องมาจากน้ำหนักเบา ใส่ได้ทั้งวัน ไม่เป็นภาระกับหัว ไม่หนีบหู เป็นหนึ่งในหูฟังที่ใส่สบายเลย ในเชิงคุณภาพเสียง มาครบทุกย่าน เสียงเบส มาเต็ม สะใจ เล่นเกม ระเบิดตูมตาม ฟังเพลง Hiphop นี่เบสมาครบ แต่ที่โดดเด่นจะเป็นย่านเสียงกลางและแหลม ลุงแมวทดสอบโดยฟังเพลงแนว Hiphop จากที่ฟังไม่ออกว่าร้องอะไรจากหูฟังอื่นๆ มาตัวนี้ชัดเจนเป็นคำ Soundstage ไม่ได้กว้างมาก แต่ก็ไม่ได้แคบจนอึดอัด น่าจะประมาณสองคืบออกไปจากตัวหูฟัง ซึ่งก็มากพอที่จะรู้สึกถึงมิติของเสียง ระยะใกล้ไกล ทิศทางของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเกม แต่เมื่อได้ลองใช้กับ 3D Audio ก็ต้องบอกว่า ค่อนข้างประทับใจทีเดียว ในเกม Horizon Forbidden West PS5 ลุงแมวได้ยินเสียงช่างตีเหล็กไกลๆ ทิศทางชัดเจน มีรายละเอียด หรือกับ COD ก็สะใจ ทิศทางของศัตรูชัดเจน
.
แน่นอนว่าการเชื่อมต่อแบบมีสายให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่เชื่อมต่อที่ 2.4 GHZ ถ้าอยากได้เสียงประสบการณ์เต็มการใช้การเชื่อมต่อแบบมีสายเสียบกับจอย PS5 หรือ Soundcard แต่ถ้าใช้ทำงาน PC หรือเล่นเกมแบบสบายๆ เช่น Switch หรือปาร์ตี้กับเพื่อน ความสะดวกสบายของ Wireless ก็ดีเพียงพอเล่นเพลินๆ ได้ ในภาพรวม คุณภาพของเสียงสมราคาของหูฟัง ให้ประสบการณ์ที่ดีเลย
.
ในเชิงวัสดุ เข้าใจว่า อยากให้หูฟังน้ำหนักเบา แต่ก็แอบคิดว่า ถ้ามีการใช้วัสดุบางอย่างที่เพิ่มความ Premium กว่านี้ก็จะดูเท่ไม่หยอก แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร การประกอบเนี๊ยบมาก ในภาพรวม Arctis 7P+ Wireless เป็นหูฟังเอนกประสงค์ที่ใช้ได้ทั้งเล่นเกม ทำงาน ฟีเจอร์มีมาให้ครบครัน ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา ใส่สบาย เสียงดีสมราคา เป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับคนที่หาหูฟังสำหรับเล่นเกมและทำงานในตัวเดียวครับ
[SR] รีวิว SteelSeries Arctis 7P + Wireless ใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง เล่นเกม PS5 PS4 Switch ทำงาน PC MAC
.
.
ในเชิงการเชื่อมต่อ Arctis 7P+ Wireless มาสองแบบคือแบบมีสายซึ่งเค้าจะมีสายต่อจากตัวพอร์ต (เข้าใจว่า) Micro USB เป็น พอร์ต 3.5 มม แจ๊คหูฟัง ทำให้เราสามารถต่อหูฟังตัวนี้กับอะไรก็ได้ที่มีพอร์ตหูฟัง ทั้งตัวจอยของ PS4 PS5 Switch PC MAC โทรศัพท์มือถือ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดหูฟัง ไม่ต้องใช้แบตเตอร์รี่ และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ในตัวกล่องเองเค้าจะมีตัวรับส่งสัญญาณไร้สาย USB Dongle มาให้ด้วย เป็น USB-C และมาพร้อมตัวแปลง USB-C เป็น USB-A ซึ่งเราสามารถเอาเสียบกับ PS4 / PS5 / Switch Dock / มือถือ Android / Android Tablet / PC/ Mac ได้เลย และการเปลี่ยน Source ก็ง่ายมาก เพียงดึงตัว Dongle จากตูดของเครื่องต่างๆ ไปเสียบเครื่องใหม่ไปมา เท่านั้นเอง เพราะว่าตัว USB Dongle ทำการรับส่งสัญญาณไปมาตลอดเวลาอยู่แล้วเราไม่ต้องทำการเปิดปิดหูฟังใหม่ โดยการใช้งานข้างกล่องเค้าบอกว่าใช้ได้ประมาณ 30 ชั่วโมงต่อการใช้ชาร์จหนึ่งครั้ง
.
ในเชิงฟังชั่นของหูฟัง ทางด้านซ้ายหลังของหูฟังจะเป็นปุ่ม เปิดปิดไมค์โครโฟน ที่เมื่อเราใช้จะมีสีแดงขึ้นที่ตัวไมโครโฟนด้วย ตัวเร่งลดเสียง นอกนั้นเป็นพอร์ตการเชื่อมต่อแบบมีสายและ USB-C ที่เอาไว้ชาร์จไฟ ด้านขวาหลังของหูฟังมี Sidetone ที่ทำให้เราได้ยินเสียงตัวเราเองเวลาพูดออกไมค์โครโฟน สามารถเร่งลดเสียงได้ และปุ่มปิดหูฟังที่เมื่อเราเปิดใช้งานจะมีแสงกระพริบช้าๆ ออกมา ทำให้เรารู้ว่า เปิดเครื่องและเชื่อมต่ออยู่ ตัวฟองน้ำหูฟังทั้งสองข้างเข้าใจว่าเป็น Memory Foam ข้อดีคือระบายอากาศได้ ไม่อึดอัด ไม่ร้อน ตัวหูฟังปรับขนาดหัวได้จากผ้าคาดหัวที่อยู่ด้านใต้ที่คาดหูฟัง โดยตัวเครื่องเป็นสีขาว สลับน้ำเงิน เพื่อให้เข้ากับ PS5 เอาวางกับจอย PS5 นี่เข้ากันมากๆ วัสดุโครงสร้างหลักของหูฟังเป็นเหล็กเพื่อความแข็งแรง ในขณะที่ตัวส่วนประกอบของหูฟังเป็นพลาสติก ทำให้น้ำหนักเบา
.
การสวมใส่ เป็นหนึ่งในหูฟังที่ใส่สบายมาก เนื่องมาจากน้ำหนักเบา ใส่ได้ทั้งวัน ไม่เป็นภาระกับหัว ไม่หนีบหู เป็นหนึ่งในหูฟังที่ใส่สบายเลย ในเชิงคุณภาพเสียง มาครบทุกย่าน เสียงเบส มาเต็ม สะใจ เล่นเกม ระเบิดตูมตาม ฟังเพลง Hiphop นี่เบสมาครบ แต่ที่โดดเด่นจะเป็นย่านเสียงกลางและแหลม ลุงแมวทดสอบโดยฟังเพลงแนว Hiphop จากที่ฟังไม่ออกว่าร้องอะไรจากหูฟังอื่นๆ มาตัวนี้ชัดเจนเป็นคำ Soundstage ไม่ได้กว้างมาก แต่ก็ไม่ได้แคบจนอึดอัด น่าจะประมาณสองคืบออกไปจากตัวหูฟัง ซึ่งก็มากพอที่จะรู้สึกถึงมิติของเสียง ระยะใกล้ไกล ทิศทางของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเกม แต่เมื่อได้ลองใช้กับ 3D Audio ก็ต้องบอกว่า ค่อนข้างประทับใจทีเดียว ในเกม Horizon Forbidden West PS5 ลุงแมวได้ยินเสียงช่างตีเหล็กไกลๆ ทิศทางชัดเจน มีรายละเอียด หรือกับ COD ก็สะใจ ทิศทางของศัตรูชัดเจน
.
แน่นอนว่าการเชื่อมต่อแบบมีสายให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่เชื่อมต่อที่ 2.4 GHZ ถ้าอยากได้เสียงประสบการณ์เต็มการใช้การเชื่อมต่อแบบมีสายเสียบกับจอย PS5 หรือ Soundcard แต่ถ้าใช้ทำงาน PC หรือเล่นเกมแบบสบายๆ เช่น Switch หรือปาร์ตี้กับเพื่อน ความสะดวกสบายของ Wireless ก็ดีเพียงพอเล่นเพลินๆ ได้ ในภาพรวม คุณภาพของเสียงสมราคาของหูฟัง ให้ประสบการณ์ที่ดีเลย
.
ในเชิงวัสดุ เข้าใจว่า อยากให้หูฟังน้ำหนักเบา แต่ก็แอบคิดว่า ถ้ามีการใช้วัสดุบางอย่างที่เพิ่มความ Premium กว่านี้ก็จะดูเท่ไม่หยอก แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร การประกอบเนี๊ยบมาก ในภาพรวม Arctis 7P+ Wireless เป็นหูฟังเอนกประสงค์ที่ใช้ได้ทั้งเล่นเกม ทำงาน ฟีเจอร์มีมาให้ครบครัน ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา ใส่สบาย เสียงดีสมราคา เป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับคนที่หาหูฟังสำหรับเล่นเกมและทำงานในตัวเดียวครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้