ประกันโควิดเจอจ่ายจบกับบริษัทอาคเนย์ ล้มบนฟูก เจ็บจังเน้าะ

สวัสดี สวีดัส  โควิดโรคประจำถิ่น ถิ่นใครถิ่นมันแม้แต่หมอยังไม่กล้าเข้าใกล้
หัวอกของคนเป็นครูและเป็นผู้ปกครอง
นับจากวันนี้ถอยหลังไปเมื่อวันที่  15 เมษายน  2564  หมู่บ้านที่ข้าพเจ้าสอนหนังสือจัดผ้าป่าสามัคคีเพื่อหางบประมาณมาจ้างครูสอน  เพราะโรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก  ในช่วงเวลานั้นมีข้าราชการครูแค่เพียง 1 คน คือตัวของข้าพเจ้าเอง  พอมีคนติดโควิดในหมู่บ้าน  ทุกคนต้องกักตัวรวมทั้งข้าพเจ้าด้วย  ช่วงเวลาที่เรากักตัว  เราก็ได้รับ SMS  การต่อสัญญาประกันโควิดของบริษัทสิน...   พอเราต่อสัญญาเรียบร้อย  เราก็คิดว่าจะทำยังไงให้ผู้ปกครองได้อุ่นใจหากมีการแพร่ระบาดในโรงเรียน  เราจึงได้ติดต่อตัวแทนขายประกันโควิด  และเราก็เลือกบริษัทอาคเนย์  ค่าเบี้ยประกัน 260 บาท เจอจ่ายจบ 50,000 บาท ให้กับนักเรียน  โดยโรงเรียนออกเงินให้นักเรียน 160 บาท ผู้ปกครองจ่ายสมทบ 100 บาท  นักเรียนทำกันทั้งหมด 43 คน ไม่รวมตัวข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ากับบริษัทสิน...... ประกันซื้อวันระหว่างวันที่ 8-18 พ.ค. 64  และญาติพี่น้องของเราอีก 10 กว่าคน  ที่เราเลือกบริษัทอาคเนย์  ซึ่งเป็นบริษัทที่เรามั่นใจที่สุด  และเราคิดว่าเลือกบริษัทที่มั่นใจได้  มั่นใจว่าจะไม่เจ๊งก่อนประกันหมดอายุ

พวกเราก็ทน ๆ  ทนอยู่กับโควิดรักษาตัว ดูแลตัวเองมาอย่างดีไม่ให้ติดเชื้อบ้า ก็แค่ไข้หวัดธรรมดา  เอาตรง ๆ หากพวกเราทำประกันแล้วหวังประกันพวกเราก็คงจะกระโจนเข้าหาโควิดทุกรอบที่มีการระบาด  แต่ No  ไม่ใช่คร้า...ตรงไหนมีโควิดไม่มีทางเฉียดกราย  ทั้ง ๆ ที่ติดปุ๊บได้ห้าหมื่นปั๊บ....

จากวันเป็นเดือน  จากหกสี่ข้ามมาหกห้า  เราก็รอดกันทุกซีซั่น....รักษาเนื้อรักษาตัวอย่างยอดเยี่ยม ทั้ง ๆ ที่มีประกันเจอจ่ายจบ

จนกระทั่งข่าวร้ายบอกว่าบริษัทอาคเนย์ประกาศล้มบนฟูก....ในช่วงเดือนธันวาคม   และให้ผู้ซื้อประกันเรียกเงินคืนระหว่างวันที่ 1-7 ม.ค. 2565  แต่ข้าพเจ้าก็ได้สอบถามตัวแทนประกัน  ตัวแทนประกันก็บอกว่าหากใครไม่ขอรับคืนเขาก็คุ้มครองต่อ  โทรไปที่เบอร์ 1726  โอเปอเตอร์ระบบอัตโนมัติก็ยังบอกว่ามีเงินทุนสำรองจ่ายประกันโควิด   ทำให้เรามั่นใจไม่ขอเรียกเงินคืน......แต่สุดท้ายเหมือนฟ้าฟาดกลางใจ  ช่วงปลายเดือนมกราคม  2565  ประกาศจะยกเลิกความคุ้มครองและเปลี่ยนโอนย้ายประกันอื่นๆ ไปบริษัทที่รับต่อ  ยกเว้นประกันโควิด 

และในวันที่ 14 กุมภาพันธ์  2565 วันที่ 14 กุมภา ตรงกับวันจันทร์ แต่ไม่ใช่วันแห่งความรัก  เพราะมันคือวันโควิดแตก  ณ โรงเรียนของเรา  นักเรียนโรงเรียนของเราติดเชื้อ 2 คน รับเชื้อมาจากคนในหมู่บ้านที่ติดเชื้อโอไมครอน รีบสั่งปิดโรงเรียนให้ผู้ปกครองมารับกลับบ้านทันที พอวันที่ 16 ตัวเราก็ไม่รอด สองขีด อาการท้องไม่มีพ่อก็มา...หลังจากนั้นอีก 3 วัน ครูที่โรงเรียนติดจากเราอีก 2 คน  แม่เจ้า.....รอดมาทุกซีซั่น...มาพลาดได้ยังไง

ไม่พอจร้า....วันโกลาหลแห่งชาติ.....เพราะช่วงนี้ชาวบ้านมาช่วยสร้างห้องทำงานให้ผู้อำนวยการโรงเรียน  แต่เขาไม่เลือกโรงเรียนของเรา....ทำให้ทุกวันนี้  อาคารนี้ก็ร้างเพราะทุกคนกลัวโควิด  จะมาทำอีกทีตอนไหนก็ไม่รู้.....14  กุมภา  ผอ.ก็ไม่เลือกเรา ยังจะมาเจอโควิดอีก  เศร้าหลายตลบเลยจร้า....โชคยังดีที่แม่ยังรัก....

แต่หลังจากนั้น....เอาละซิ....งานงอก....ดังคำว่า...ประกันหมด ประกันล่ม ความโชคร้ายจะมาเยือนทันที  ก็เป็นดังคำเขากล่าวจริง ๆ  ทีนี้ก็ได้ติดต่อหมอขอตรวจ RT-RCT และขอใบรับรองแพทย์ก่อนวันที่ 23 กุมภาพันธ์  2565  เพราะบริษัทอาคเนย์จะทำการโอนย้ายความคุ้มครองไปยังบริษัทประกันภัยผู้รับโอน มีผลตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์  2565  

ค่าตรวจหากเราจะนำไปเคลมประกัน  ต้องจ่าย 2,500 บาท  นักเรียนของเราสองคนยอมจ่าย  แต่สุดท้ายไม่เป็นอย่างที่คาดหมาย  เพราะใบรับรองแพทย์และผลตรวจจะได้รับก็ต่อเมื่อครบกำหนดวันรักษา  ซึ่งก็คือวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565  ซึ่งก็คือวันนี้นี่แหละ....วันที่เรามานั่งรำพึงรำพันถึงอาคเนย์

วันที่ 23 กุมภาพันธ์  2565  ผู้ปกครองโทรไปถามหมอเรื่องใบตรวจ RT-PCR แต่ความเสี่ยงคือ หากนักเรียนไปขอรับผลตรวจและใบรับรองแพทย์ต้องจ่ายเงิน 2,500 บาท และต้องรับเมื่อครบกำหนดรักษาตัวเท่านั้น  ถ้ารับ ณ วันที่ 23 ก.พ. 65 ไม่สามารถออกใบรับรองแพทย์ให้ได้เพราะยังรักษาตัวไม่ครบตามกำหนด 10 วัน  สุดท้ายเราก็ไม่กล้าเสี่ยงให้ผู้ปกครองไปรับผลตรวจ  เพราะกลัวเสียเงินแล้วเคลมประกันไม่ได้  ผู้ปกครองไม่ได้ร่ำรวยและไม่มีเงินมากพอที่จะยอมเสี่ยง.....สุดท้าย..แต่ไม่ท้ายสุด..นักเรียนที่ตรวจ RT-PCR สองคนแรกครบกำหนดรักษาตัวในวันนี้  ส่วนอีก 2 คน เราไม่กล้าบอกให้เขาไปตรวจ  เพราะความเห็นแก่ตัวของนายทุน  ที่ล้มบนฟูกบนความทุกข์ของชาวบ้าน  ตอนอยากขายประกันขายแบบไม่มีลิมิต   พอตอนต้องจ่ายกลับทำโยกโย้  จนสุดท้ายต้องให้พวกพ้องช่วยกันทำให้บริษัทอาคเนย์ล้มบนฟูก  ล้มแรงแค่ไหนก้ไม่เจ็บ  แต่คนที่เจ็บคือคนที่คิดว่าซื้อประกันความเสี่ยง  ยอมเสียเงิน สุดท้ายค่าโง่ของเราก็คือ 260  บาท ที่เข้ากระเป๋าพวกโจรชุดสูท........

อย่าด่านะว่า  ตอนเขาให้รับเงินคืนทำไมไม่ขอรับ   ก็เราสอบถามตัวแทนประกัน  เขาก็บอกว่าไม่มีปัญหาเขายังคุ้มครอง.... แม้แต่ 1726  ยิ้มยังหลอกลวง.... ไอ่ที่เรายอมเสีย 260 บาท เราแค่ประกันความเสี่ยงตอนติดเชื้อ  ไม่ได้อยากซื้อประกันแล้วหาทางติดเชื้อไวรัสให้ได้....

ล่าสุดวันนี้  หลานติดเชื้อจร้า  แต่คงจะเคลมไม่ได้  เพราะหลังวันที่ 28 ก็คงจะติดป้ายประกาศล้มบนฟูก ประมาณนั้นแหละ..... 

ถามหน่อยนะ  ว่าพวกท่านเจ้าสัวทั้งหลายท่านมีความสุขนักใช่ไหมกับการหลอกชาวบ้าน.......
จนถึงตอนนี้เราก็ยังสับสน  ว่ายังเคลมได้หรือเคลมไม่ได้กันแน่  สับสนจริง ๆ นะ ไม่ได้สับสนเล่น ๆ



ช่วยแถลงให้มั่นใจได้ไหมว่ายังคงคุ้มครองประกันโควิด เจอ จ่าย จบ ถึงวันที่อะไร  เพราะจะได้แจ้งให้ผู้ปกครองนักเรียนรับทราบ  .......

ขอบคุณจากใจ...แม้บริษัทอาคเนย์จะทอดทิ้งเราไว้กลางทาง 

แต่เราก็ยังมีสินมั่นคงอยู่เคียงข้าง  ( จริงหรือเปล่าไม่รู้ ) ทุกบริษัทพร้อมใจกันเทประชาชนซะเหลือเกิน 

ท่านรวยพันล้าน หมื่นล้าน  แต่มาเล่นกับความรู้สึกของพวกเรา....คนจนคนยาก.....ท่านคงนอนหลับสบายตลอดคืน....เรื่องแค่นี้ไม่กระเทือนตับท่านหรอก...ข้ารวยข้าต้องรอด  ส่วนชาวประชาช่างหัวมัน.....นโยบายบริษัทประกัน......

ไม่รู้จะพูดอะไรละ.....จบแบบเจ็บ ๆ  แต่ถ้าเคลมได้....เราจะขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูง.......เครียดหลายกับโควิดแล้วยังต้องมาปวดหัวกับอาคเนย์อีก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่