คำสอนทางศาสนาพุทธที่คนรุ่นใหม่ควรรู้ไว้เกี่ยวกับพ่อแม่ลูก

กระทู้สนทนา
แม่ชีศันสนีย์ เตือนผู้เป็นพ่อแม่
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
"เราให้กำเนิดเขาแต่เขาไม่ใช่ของเรา กรุณาฟัง พ่อแม่ที่พยายามที่จะให้ลูกเป็นดั่งใจไม่ยุติธรรมแล้วคุณก็ทุกข์เพราะเขาไม่เป็นอย่างใจคุณได้ และมันก็คนละ GEN กันด้วย เพราะฉะนั้น จงมีลูกอย่างที่ลูกไม่ใช่ของเรา เขาจะเป็นอย่างที่เขาเป็น และถ้าเขาเป็นได้อย่างไม่ทุกข์ เราควรจะยกย่องลูกเรา อย่าทำให้เขากลับมาตั้งคำถามว่า เขาไม่ได้อยากเกิดมานะ พ่อแม่อยากให้เขาเกิด แล้วเขาต้องมาตอบสนองความต้องการของพ่อแม่ สถิติเด็กฆ่าตัวตายอายุต่ำลงจนน่าใจหาย เพราะแรงบีบคั้นที่ไม่รู้เรื่องนี่แหละ เพราะฉะนั้น จงรักเขาอย่างที่เขาเป็น ให้โอกาสเขาอย่างเต็มที่ในฐานะที่เราเป็นผู้ให้ชีวิตเขา แต่ชีวิตเป็นของเขาค่ะ ไม่ใช่ของเรา"
ผมก็ขอเสริมหน่อยว่าจริงๆชีวิตเขาก็ไม่ใช่ของเขาจริงๆ ตามกฏไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เขาไม่อยากทุกข์ก็ต้องเจอทุกข์ เขาไม่อยากแก่ เจ็บ ตาย ก็ต้องแก่ เจ็บ ตาย เขาอยากหรือไม่อยากอะไร เขาก็ได้บ้างไม่ได้บ้างตามที่อยากหรือไม่อยากนั้น
อยากพ้นทุกข์จริงๆก็ต้องศึกษาและปฏิบัติธรรม

คำสอนเกี่ยวกับพ่อแม่ลูกอันต่อมา เกี่ยวกับสิ่งที่ควรพึงมีต่อกัน คือจะได้ยินเยอะว่าลูกต้องตอบแทนพ่อแม่อย่างโน้นอย่างนี้อย่างนั้น ซึ่งจริงๆทางธรรมก็มีสอนว่าพ่อแม่ควรทำอะไรให้ลูกบ้าง พระพุทธเจ้าสอนเรื่องทิศ 6 ซึ่งมีคำสอนที่ว่า
มารดาบิดาอนุเคราะห์บุตรธิดา ดังนี้
๑. ห้ามปรามจากความชั่ว
๒. ให้ตั้งอยู่ในความดี
๓. ให้ศึกษาศิลปวิทยา
๔. หาคู่ครองที่สมควรให้
๕. มอบทรัพย์สมบัติให้ในโอกาสอันสมควร
บุตรธิดาพึงบำรุงมารดาบิดา ดังนี้
๑. ท่านเลี้ยงเรามาแล้วเลี้ยงท่านตอบ
๒. ช่วยทำกิจของท่าน
๓. ดำรงวงศ์สกุล
๔. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท (สมควรรับทรัพย์มรดก)
๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วทำบุญอุทิศให้ท่าน
จาก http://www.learntripitaka.com/scruple/thit6.htm
ไตรปิฏก https://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=11&A=3923&Z=4206  (ตั้งแต่ข้อ198)

ต่อมาการตอบแทนบุญคุณพ่อแม่อย่างแท้จริง คือก็จะเห็นแชร์รูป เช่น กราบพ่อแม่ที่เท้า เอาน้ำล้างเท้า ให้เงิน ให้วัตถุสิ่งของต่างๆ
ก็ขอแชร์คำสอนของพระพุทธเจ้าว่าการตอบแทนคุณมารดาบิดาโดยแท้จริงควรทำอย่างไร 
................
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวการกระทำตอบแทนไม่ได้ง่ายแก่ท่านทั้ง ๒ ท่าน
ทั้ง ๒ คือใคร คือ มารดา ๑ บิดา ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุตรพึงประคับประคองมารดา ด้วยบ่าข้างหนึ่ง พึงประคับประคองบิดาด้วยบ่าข้างหนึ่งเขามีอายุ มีชีวิตอยู่ตลอดร้อยปี และเขาพึงปฏิบัติท่านทั้ง ๒ นั้นด้วยการอบกลิ่น การนวด การให้อาบน้ำ และการดัด และท่านทั้ง ๒ นั้น พึงถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่าทั้งสองของเขานั่นแหละ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย การกระทำ อย่างนั้นยังไม่ชื่อว่าอันบุตรทำแล้วหรือทำตอบแทนแล้วแก่มารดาบิดาเลย 
ดูกรภิกษุทั้งหลายอนึ่ง บุตรพึงสถาปนามารดาบิดาในราชสมบัติ อันเป็นอิสราธิปัตย์ ในแผ่นดินใหญ่อันมีรตนะ ๗ ประการมากหลายนี้ การกระทำกิจอย่างนั้น ยังไม่ชื่อว่าอันบุตรทำแล้วหรือทำตอบแทนแล้ว แก่มารดาบิดาเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะมารดาบิดามีอุปการะมาก บำรุงเลี้ยง แสดง โลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย 
ส่วนบุตรคนใดยังมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธา ให้สมาทานตั้งมั่นในศรัทธาสัมปทา(ความถึงพร้อมด้วยศรัทธา) 
ยังมารดาบิดาผู้ทุศีล ให้สมาทานตั้งมั่นในศีลสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยศีล)
ยังมารดาบิดาผู้มีความตระหนี่ให้สมาทานตั้งมั่นในจาคสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยการบริจาค)
ยังมารดาบิดาทรามปัญญา ให้สมาทานตั้งมั่นในปัญญาสัมปทา(ความถึงพร้อมด้วยปัญญา)
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล การกระทำอย่างนั้นย่อมชื่อว่าอันบุตรนั้นทำแล้วและทำตอบแทนแล้ว แก่มารดาบิดา ฯ
+++++++++ย่อๆก็คือให้พ่อแม่เข้าใจและเข้าถึงธรรมะ
และรู้สึกอนาถใจกับลูกที่ได้เงินมาจากการทำไม่ดี เช่น ขายตัว ไม่แน่ใจว่าพ่อแม่รู้หรือเปล่า หรือทำเป็นไม่รู้ คือบางคนที่ทำอาชีพนี้ถ่ายรูปโชว์พาพ่อแม่เลี้ยงข้าวอย่างมีความสุข แต่ก็ดูเหมือนเป็นเรื่องไม่ผิดอะไรของสังคมสมัยนี้ คือปรกติก็จะอวยพรขอให้ร่ำรวยอยู่แล้ว ส่วนจะได้เงินมายังไง ไม่สน ก็ขอให้รวยแค่นั้นนี่นะ เป็นพอ

ก็ขอแชร์คำสอนเหล่านี้เพื่อจะได้เข้าใจศาสนาพุทธได้ถูกต้องขึ้น
ธรรมะมีหลายระดับ ก็เลือกปฏิบัติตามที่เหมาะสม
และถ้านึกอะไรออกจะมาเสริมต่อครับ เกี่ยวกับเรื่องพ่อแม่ลูก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่