“พระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแม้มีข้อแตกต่างกันบ้าง กล่าวคือวิทยาศาสตร์ไม่มีเงื่อนไขเรื่องความดีความชั่ว เป็นศาสตร์ที่วางตัวเป็นกลางเรื่องถูกผิด จึงอาจให้ทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ ส่วนคำสอนทางพระพุทธศาสนานั้น มุ่งอบรมเรื่องความดีความชั่ว หมายที่จะให้มนุษย์ในสังคมมีความสุขเป็นลำดับขึ้นไปจนถึงความสงบสุขอันสูงสุด อย่างไรก็ตาม พระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยังคงมีวัตถุประสงค์ร่วมกัน ได้แก่ การพิสูจน์ความเชื่อให้เห็นจริง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง อันนำไปสู่ความก้าวหน้าทางสติปัญญา
เมื่อเปรียบเทียบจุดร่วมจะพบว่า ตามกระบวนการทางพระพุทธศาสนา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้พิจารณาทุกข์อันเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ แล้วหาคำตอบจากแนวคิดต่างๆ พร้อมทั้งลอง ลงมือปฏิบัติ รวบรวมผลการปฏิบัติได้แล้ว หากผิดก็พึงเปลี่ยน หากถูกก็พึงเพียรดำเนินให้ถึงจุดหมาย เกิดผลเป็นมรรควิธีเพื่อเผยแผ่แก่ชาวโลก ในขณะที่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เริ่มต้นด้วยการตั้งปัญหาให้ชัด แล้วตั้งสมมติฐานเพื่อตอบการทดสอบ จนเข้าสู่การรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ครั้นได้คำตอบถูกถ้วนบ่อยครั้งก็ตั้งทฤษฎีไว้ ให้สามารถนำไปประยุกต์แก้ปัญหาได้...”
พระคติธรรม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ประทานในวันครบรอบ ๓๑ ปีแห่งการสถาปนา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วันเสาร์ที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๐
#ambarameditationcentre #พระคติธรรม #วันพระ
พระคติธรรม สมเด็จพระสังฆราช
“พระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแม้มีข้อแตกต่างกันบ้าง กล่าวคือวิทยาศาสตร์ไม่มีเงื่อนไขเรื่องความดีความชั่ว เป็นศาสตร์ที่วางตัวเป็นกลางเรื่องถูกผิด จึงอาจให้ทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ ส่วนคำสอนทางพระพุทธศาสนานั้น มุ่งอบรมเรื่องความดีความชั่ว หมายที่จะให้มนุษย์ในสังคมมีความสุขเป็นลำดับขึ้นไปจนถึงความสงบสุขอันสูงสุด อย่างไรก็ตาม พระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยังคงมีวัตถุประสงค์ร่วมกัน ได้แก่ การพิสูจน์ความเชื่อให้เห็นจริง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง อันนำไปสู่ความก้าวหน้าทางสติปัญญา
เมื่อเปรียบเทียบจุดร่วมจะพบว่า ตามกระบวนการทางพระพุทธศาสนา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้พิจารณาทุกข์อันเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ แล้วหาคำตอบจากแนวคิดต่างๆ พร้อมทั้งลอง ลงมือปฏิบัติ รวบรวมผลการปฏิบัติได้แล้ว หากผิดก็พึงเปลี่ยน หากถูกก็พึงเพียรดำเนินให้ถึงจุดหมาย เกิดผลเป็นมรรควิธีเพื่อเผยแผ่แก่ชาวโลก ในขณะที่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เริ่มต้นด้วยการตั้งปัญหาให้ชัด แล้วตั้งสมมติฐานเพื่อตอบการทดสอบ จนเข้าสู่การรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ครั้นได้คำตอบถูกถ้วนบ่อยครั้งก็ตั้งทฤษฎีไว้ ให้สามารถนำไปประยุกต์แก้ปัญหาได้...”
พระคติธรรม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ประทานในวันครบรอบ ๓๑ ปีแห่งการสถาปนา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วันเสาร์ที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๐
#ambarameditationcentre #พระคติธรรม #วันพระ