174 รถไฟมรณะ ข่มขืน=ประหาร คดีน้องแก้ม l บันทึกลึกลับ

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
🛑 เด็กหญิงวัย 13 ปี ได้หายตัวไปอย่างปริศนา จากตู้นอนของรถไฟขบวนที่ 174 
🛑 “ ข่มขืน=ประหาร ” เกิดเป็นกระแสขึ้นมาในโลกออนไลน์ช่วงนั้น 
🛑 คดีการฆ่าข่มขืนบนรถไฟที่โหดร้ายที่สุดในรอบ 117 ปี 
🛑 ฆาตกรรายนี้ไม่ได้รับสารภาพเพราะสำนึกในความผิด แต่จำนนด้วยหลักฐานจึงจำเป็นต้องยอมรับสารภาพ !! 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เมื่อกลางปี 2557 เด็กหญิงวัย 13 ปี ได้หายตัวไปอย่างปริศนา จากตู้นอนของรถไฟขบวนที่ 174 
ภายหลังพบว่าเธอถูกฆ่าข่มขืนอย่างทารุณและโยนร่างของเธอขณะที่ยังมีลมหายใจทิ้งออกนอกหน้าต่างของรถไฟ

            ครอบครัวพิทักษ์จำนงใช้เวลาวันเสาร์อาทิตย์นี้ไปเยี่ยมคุณยายของพวกเขากันที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 
โดยมีพี่สาวคนโตอายุ 15 เพื่อนชายของพี่สาวคนโต น้องชายคนรองอายุ 13 และน้องสาวคนเล็กอายุ 10 ขวบ
            โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า...นั่นจะเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายในชีวิตของน้องสาวคนเล็ก 
ก่อนที่จะไม่ได้กลับถึงบ้านเหมือนกับคนอื่นๆ...
 
ด.ญ.กชกร พิทักษ์จำนง หรือ แก้ม นักเรียนชั้น ม.2/5 โรงเรียนสตรีนนทบุรี น้องสาวคนเล็กของครอบครัว 
เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2544 เธอเป็นคนที่อัธยาศัยดี มีเพื่อนสนิทเยอะอยู่พอสมควร 
ไปไหนก็จะชวนเพื่อนไปด้วยกันเสมอ เธอไม่รู้เลยว่า หลังจากนี้ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป...

ในวันเกิดเหตุ แก้มได้ไปเยี่ยมคุณยายที่ต่างจังหวัดกับพวกพี่ๆ น้องๆ ด้วย ซึ่งการไปเยี่ยมก็เป็นไปอย่างปกติเกือบทุกอย่าง...

จนกระทั่งเวลา 17.00 น.ของวันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม 2557 ทุกคนก็ออกเดินทางกลับไปอยู่บ้านที่นนทบุรี 
โดยขึ้นรถไฟขบวน 174 สายสุราษฎร์ธานี-กรุงเทพมหานคร ที่ อ.พุนพิน โดยรถไฟจะถึงกรุงเทพฯ 
ในตอนเช้าของวันที่ 6 กรกฎาคม ซึ่งนั่นหมายความว่า รถไฟขบวนนี้เป็นรถนอนนั่นเอง
 ครอบครัวของแก้มเลือกอยู่ในโบกี้ที่ 3 ของขบวนรถ รถไฟเป็นรถนอนพัดลมชั้น 2
เป็นการให้บริการลักษณะนั่งกลางวัน นอนกลางคืนตรงกลางจะเป็นทางเดินยาวไปตลอดแนว 
ส่วนเตียงนอนและที่นั่งนั้นจะอยู่ฝั่งซ้าย และขวาของทางเดินยาวไปตลอดแนว
 
เก้าอี้นั่งนั้น ในกลางวันจะมีลักษณะคล้ายชั้น 3 คือหันหน้าเข้าหากัน แต่ในเวลากลางคืนนั้น 
เก้าอี้ทั้ง 2 จะจับมาชนกันปรับนั่น ดึงนี่ ก็จะกลายเป็นฐานรองเตียงล่าง แค่ปูฟูก และผ้าปูที่นอน 
วางหมอนวางผ้าห่มก็จะกลายเป็นเตียงล่างอย่างสมบูรณ์

ส่วนเตียงบนนั้นจะไขออกมา และจัดเตียงให้เรียบร้อย ก็กลายเป็นเตียงบนให้นอนแล้ว
โดยแก้มได้เลือกนอนเตียงล่าง เพราะมันทั้งกว้าง สะดวกสบาย ได้ชมวิวผ่านหน้าต่าง 
ไม่อึดอัดจนหายไม่ออก อีกทั้งหากนอนดิ้นจนตกเตียง มันก็จะไม่บาดเจ็บอะไรมากด้วย 
แล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างปกติ ทุกคนนอนหลับกันบนเตียงของรถไฟ โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้น...

ซึ่งเหตุการณ์นั้นจะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล...

กระทั่งเวลา 04.30 น. เมื่อรถไฟถึงสถานีนครปฐม พี่สาวคนโตได้ตื่นขึ้นมาเพื่อจะปลุกน้องทั้งสองให้ไปแปรงฟัน 
น้องชายลุกขึ้นไปแปรงฟันเรียบร้อยแล้ว จะเหลือก็เพียงแต่แก้มเท่านั้น...ที่พี่สาวพบแค่เตียงที่กระจุยกระจาย 
แต่กลับไม่เห็นเจ้าตัว...พี่สาวจึงออกตามหาน้องไปทั้งขบวนรถ...
แต่ก็ไม่มีวี่แววของแก้มเลยแม้แต่น้อย...และนั่นคือจุดเริ่มต้นของคดีนี้

เมื่อพี่สาวของแก้มไม่พบตัวน้อง จึงรีบโทรไปบอกแม่ทันที เมื่อไปถึงกรุงเทพฯ ก็รีบเข้าไปแจ้งความกับสถานีตำรวจ 
เพื่อช่วยกันค้นหาตัวน้องแก้มอย่างเร่งด่วนเบื้องต้นพบว่า ที่นอนของแก้มอยู่ในสภาพถูกใครบางคนรื้อค้น 
ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน กระเป๋าเป้ แท็บเล็ต และไอโฟน 5 ก็หายไปด้วย จึงสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะลักพาตัวแก้มไปพร้อมกับทรัพย์สิน

ต่อมาวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสมาเพิ่มว่า จุดสุดท้ายที่มีสัญาณโทรศัพท์มือถือของแก้มอยู่ 
ก่อนจะหายไป คือบริเวณค่ายพระรามหก อ.ชะอำ ตำรวจได้เข้ามาตรวจสอบที่ร้านอาหารตามสั่งแถวนั้น 
ชื่อร้านว่า ปั้นป้ายอาหารตามสั่ง อยู่ในซอยท่ารถทัวร์ ริมชายหาดชะอำ อ.ชะอำ

เจ้าของร้าน เมื่อเห็นรูปของแก้ม ก็ได้ยืนยันกับทางตำรวจว่า.. 
เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันอาทิตย์ที่6 กรกฎาคม พบแก้มเข้ามาที่ร้านอาหารพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่ง
ผู้ชายคนนั้นมีผิวดำ ผมยาว สูงราวๆ165 ซม. ทั้งสองได้เข้ามาสั่งอาหารตามปกติโดยไม่มีพิรุธอะไร
ไม่มีการทะเลาะหรือท่าทีหวาดกลัว ตลอดเวลาจนถึงเดินออกจากร้าน จึงคิดว่าเป็นลูกค้าปกติที่มาเที่ยวแล้วแวะทานอาหาร
เจ้าของร้านไม่ทราบว่า สองคนนั้นเดินไปทางไหนต่อ

เจ้าหน้าที่จึงเข้าค้นหาแก้มที่บ้านพักเกสท์เฮาส์ กับจุดท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงบริเวณแนวชายหาดชะอำ 
ซึ่งมีที่พักขนาดใหญ่เล็กจำนวนมาก ทำให้ต้องใช้เวลาสักหน่อย...

กลับมาทางด้านของรถไฟ เมื่อเกิดคดีเด็กหายบนรถไฟ แน่นอนว่า พนักงานรถไฟจะต้องถูกสงสัยและถูกสอบปากคำจากตำรวจ 
พนักงานประจำขบวนรถ 3-4 คนถูกควบคุมตัว ในจำนวนนั้น มีชายคนหนึ่ง ที่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา 
อ้างว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้...แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบพิรุธจากชายคนนี้...
พิรุธที่ว่า คือบาดแผลที่ดูเหมือนเป็นรอยขีดข่วนที่บริเวณแขน ซึ่งหากโดนสิ่งของหรือประตูหรือลวดเหล็กในรถไฟขีดข่วน 
ก็ไม่น่าจะเป็นแผลหลายรอยขนาดนี้...

นอกจากนี้ นางสาวกนลา ที่เป็นพี่สาวของแก้มยังบอกว่า ชายคนนี้ชอบมองหน้าแก้มอยู่แทบตลอดเวลา 
มีกลิ่นสุราออกมาจากตัว อีกทั้งเขายังแสร้งทำเป็นลืมหมวกไว้บนที่นอนของแก้มด้วย
เขาจึงตกเป็นชายผู้ต้องสงสัยในไม่ช้า

ชื่อของชายผู้ต้องสงสัยคนนี้คือ วันชัย แสงขาว...หรือ เกม พนักงานรถไฟอายุ 22 ปี
เพิ่งผ่านการสอบคัดเลือกเป็นพนักงานรถนอนที่มีหน้าที่ปูเตียงเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา
เป็นลูกจ้างเฉพาะงาน อยู่ในรายชื่อลำดับที่43 ไม่ใช่พนักงานจากบริษัทเอกชน
ทั้งนี้ เขาไม่ได้เป็นแค่พนักงานรถไฟธรรมดา...

นายวันชัยเคยก่อเหตุข่มขืนพนักงานสาวของการรถไฟมาแล้วถึงสองครั้ง โดยที่ไม่ได้ฆ่า 
ผู้เสียหายสาวทั้งสองอับอาย ไม่กล้าไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ...
นั่นทำให้เขาได้ใจ เพราะไม่มีใครที่จะทำอะไรเขาได้...

นอกจากนี้ ยังมีคดีค้าสารเสพติดมาแล้วเมื่อปี 2552 อีกด้วย และไม่ได้มีคดีแค่ครั้งเดียว แต่มีถึงสองครั้งด้วยกัน !!!
เรียกได้ว่า เขาไม่ได้เป็นคนชั่วธรรมดาเลยจริงๆ ทำอะไรไว้มันก็ไม่เคยถือเป็นเรื่องแย่เลยสำหรับวันชัย 
มีคนค้นพบบัญชีเฟสบุ๊คของนายวันชัยด้วย โดยมีชื่อเฟสว่า “ บังเกมส์จิก โก๋บางซื่อ ( พูดไม่ออกเจ็บปวดละ อ่อนแอ ) ” 
ในเฟส พบว่า นายวันชัยได้กดถูกใจเพจที่เป็นสื่อลามกอยู่หลายเพจ และพบสเตตัสตัดพ้อน้อยใจแฟนที่ไปมีคนใหม่ 
พร้อมโพสเพลงเศร้าระบายความในใจไว้มากมาย...บางที นี่อาจเป็นสิ่งที่กระทบกับสภาพจิตใจของเขาก็ได้...

หลังจากเกิดเหตุแก้มหายตัวไป นายเกมหรือนายวันชัยพยายามปฏิเสธทำเป็นไม่เกี่ยวข้องกับคดี 
ซึ่งมันอาจจะทำให้เขาหลุดพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัยได้...
ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบบาดแผลและหลักฐานต่างๆ ที่มัดตัว...
และนั่นทำให้เขาต้องจนมุมในที่สุด

ต่อมาในวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 ทางญาติของน้องแก้มที่อาศัยอยู่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 
ก็พบหลักฐานเป็นเสื้อสีฟ้า มีคราบเลือดเปื้อนติดอยู่ พร้อมกับข้าวของเครื่องใช้บางส่วน
ของน้องแก้มที่นำติดตัวกลับมาจากบ้านญาติ จ.สุราษฎร์ธานี ตกอยู่ข้างทางรถไฟ
เมื่อพี่สาวเห็นรูปหลักฐาน ก็ยืนยันชัดเจนแล้วว่า เสื้อสีฟ้าตัวนั้นเป็นเสื้อของแก้มที่ใส่เป็นตัวสุดท้าย
ก่อนจะหายตัวไป ทำให้ญาติๆ เริ่มกังวลถึงแก้มกันแล้ว ว่าจะถูกใครทำร้ายรึเปล่า แต่ไม่ใช่แค่ญาติๆ เท่านั้นที่กังวล 

เนื่องจากข่าวแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่ในโรงเรียนที่แก้มและพี่สาวอยู่ จนถึงนอกโรงเรียนและไปยังทั่วประเทศ 
ทำให้นักเรียนในโรงเรียนเดียวกัน โดยเฉพาะเพื่อนๆ ในห้อง 2/5 และประชาชนอีกค่อนประเทศต่างก็กังวลไปด้วยเช่นกัน 
พวกเขาได้แต่หวังว่า แก้มจะไม่เป็นอะไร และจะกลับมาเรียนต่อได้ตามปกติ

บางส่วนก็บอกว่า แก้มนั้นหนีตามผู้ชายไปที่ชะอำจริง แต่บางส่วนก็บอกว่า แก้มน่าจะโดนลักพาตัวไปมากกว่า 
และบางส่วนก็บอกว่า แก้มคงจะเสียชีวิตไปแล้ว จากหลักฐานที่เปื้อนคราบเลือด เพื่อนๆ หรือญาติๆ ที่รู้จักกับแก้ม 
แม้กระทั่งคนอื่นๆ ที่ติดตามข่าว ต่างก็พากันโพสสเตตัสในเฟสบุ๊คเพื่อให้แก้มกลับมาโดยเร็วที่สุด
และแล้ว บทสรุปจริงๆ ที่ว่าทำไมแก้มจึงหายตัวไป ก็ได้ปรากฏ...

เมื่อเวลา 4.00 น. ของวันพุธที่ 9 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พบร่างๆ หนึ่ง
ในสภาพนอนเปลือยเปล่าขดตัวอยู่ในพงหญ้าที่ห่างจากทางรถไฟ 2 เมตร ในเขตอุทยานปากน้ำปราณ
 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากสถานีรถไฟเขาเต่า ประมาณ 4 กิโลเมตร 
บริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักมีบาดแผล...
ทางญาติได้ตรวจสอบและยืนยันแล้วว่า ศพนั้นคือศพของแก้มจริง...
นั่นทำให้ผู้คนค่อนประเทศที่ติดตามข่าวอยู่น้ำตาหลั่งไหลออกมาไม่ขาดสายทันที..

มีต่อในคอมเม้นนะคะ ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่