กรรมที่หลายคนไม่เชื่อ
ศาสนาพุทธแตกต่างจากศาสนาอื่นหลายศาสนา ก็คือเราเชื่อว่าชีวิตนี้ของเราแต่ละคนมันขึ้นอยู่กับกรรม แปลว่าการกระทำของเรา ไม่มีพระเจ้าจะดลบันดาล และไม่มีสิ่งที่เรียกว่าพรหมลิขิต จะมีก็แต่กรรมลิขิต
แต่กรรมนี้ก็หมายถึงเจตนา เจตนาในการที่จะทำอะไรสักอย่าง อย่าไปเข้าใจว่าหมายถึงพลังลึกลับบางอย่างที่มันผลักดัน หรือดลบันดาลชีวิตเรา
กรรมนี้ก็หมายถึงการกระทำของเรา ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว ดีชั่วก็อยู่ที่เรานั่นแหละว่าเราทำตัวอย่างไร จะสูงจะต่ำก็อยู่ที่ว่าเราทำตัวอย่างไร ไม่เกี่ยวกับว่าชาติตระกูล ไม่เกี่ยวกับวรรณะ
คนไทยโดยเฉพาะชาวพุทธ เดี๋ยวนี้แยกไม่ออกระหว่างการทำดีกับการใช้กรรม
การใช้กรรมหมายความว่ามันจำเป็นจำใจต้องทำ เช่น ติดคุกติดตะรางอันนี้ไม่มีใครอยากติดหรอกไม่มีใครเลือก แต่ว่ามันจำเป็น อันนี้เรียกว่าใช้กรรม
เพราะว่าอาจจะไปลักขโมยเขา หรือว่าไปฆ่าคนตาย หรือว่าคนที่พิการเพราะว่าขับรถเมาชนต้นไม้ ความพิการนี้เรียกว่าไม่ได้สมัครใจเลย อันนี้เรียกว่าใช้กรรม
แต่การที่ใครสักคนช่วยเหลือ จะเป็นการช่วยดูแลแม่หรือว่าช่วยสามีภรรยาที่เจ็บป่วย แต่แทนที่จะทิ้งก็ดูแล มีสามีที่ดูแลภรรยาที่ป่วยเป็นมะเร็ง อุตส่าห์เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้ แล้วก็ทำหลายอย่าง งานการก็ทำก็ยังต้องมาดูแลภรรยา เพื่อนบ้านก็บอกว่าเขากำลังใช้กรรม เพราะว่าชาติที่แล้วคงทำไม่ดีกับภรรยาเอาไว้
แทนที่จะมองว่านี่เขากำลังทำดีเพราะว่าเขาสามารถจะเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ จะทิ้งก็ได้แต่เขาไม่ทิ้ง เขาเลือกได้ว่าเขาจะกลับไปทำงานก็ได้ แต่เขาไม่เลือก อย่างนี้เรียกว่าเขากำลังทำดี
เดี๋ยวนี้ชาวพุทธไทยเรามองว่าเวลาใครลำบากก็ฟันธงเลยว่าเป็นเพราะกำลังใช้กรรม ถ้าใครสบาย ๆ ก็สรุปว่าเป็นเพราะเขากำลังได้รับอานิสงส์ของกรรมดีที่ทำในชาติที่แล้ว
เดี๋ยวนี้เอะอะอะไรเวลาใครเหนื่อยใครยากหรือว่ามีความลำบาก หลายคนก็จะมองว่าเขากำลังใช้กรรม บางทีเจ้าตัวก็คิดแบบนั้นด้วยซ้ำ
การทำความดีคือ การประกอบเหตุ ส่วนการรับกรรมหรือการใช้กรรมคือ การรับผล
การประกอบเหตุกับการรับผลมันต่างกันเยอะเลย แต่ว่าเดี๋ยวนี้ชาวพุทธเรามองแยกแยะไม่ออก
แล้วที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือว่าแยกแยะไม่ออกระหว่างการทำดีกับการละเลยการทำดีหรือแยกไม่ออกระหว่างการทำดีกับการทำชั่ว
คนทำความดีก็หาว่าเขาใช้กรรมหรือว่ามีนัยยะว่ากำลังถูกลงโทษจากทำไม่ดีในชาติที่แล้ว ส่วนใครที่ละเลยหน้าที่ไม่กตัญญูพ่อแม่ก็กลับมองว่าเป็นเรื่องดี อันนี้มันเข้าข่ายมิจฉาทิฐิ
คนไทยเราเดี๋ยวนี้มีทัศนคติที่มองว่าความลำบากเป็นเรื่องไม่ดี แต่บางทีอาจจะเกิดจากความเพียรก็ได้ เกิดจากการทำความดีก็ได้ ใครที่สบายนั่งเล่นนอนเล่นมองว่าดี
อันนี้คงเป็นอิทธิพลของวัตถุนิยมบริโภคนิยมที่มันแพร่หลายมากขึ้น ใก็มองว่าเขาดี ใครที่ไม่รวยหรือจนก็อาจจะมองว่าเขากำลังทำกรรมไม่ดีเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่เขาอาจจะทำกรรมดีก็ได้
ก็น่าเป็นห่วงว่าความเข้าใจผิด เดี๋ยวนี้มันก็แทรกซึมในหมู่ชาวพุทธมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งการทำดีกลาย เป็นของไม่ดีไป การทำไม่ดีกลายเป็นของดีไป
.....
พระไพศาล วิสาโล
กรรม โดยพระไพศาล วิสาโล
ศาสนาพุทธแตกต่างจากศาสนาอื่นหลายศาสนา ก็คือเราเชื่อว่าชีวิตนี้ของเราแต่ละคนมันขึ้นอยู่กับกรรม แปลว่าการกระทำของเรา ไม่มีพระเจ้าจะดลบันดาล และไม่มีสิ่งที่เรียกว่าพรหมลิขิต จะมีก็แต่กรรมลิขิต
แต่กรรมนี้ก็หมายถึงเจตนา เจตนาในการที่จะทำอะไรสักอย่าง อย่าไปเข้าใจว่าหมายถึงพลังลึกลับบางอย่างที่มันผลักดัน หรือดลบันดาลชีวิตเรา
กรรมนี้ก็หมายถึงการกระทำของเรา ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว ดีชั่วก็อยู่ที่เรานั่นแหละว่าเราทำตัวอย่างไร จะสูงจะต่ำก็อยู่ที่ว่าเราทำตัวอย่างไร ไม่เกี่ยวกับว่าชาติตระกูล ไม่เกี่ยวกับวรรณะ
คนไทยโดยเฉพาะชาวพุทธ เดี๋ยวนี้แยกไม่ออกระหว่างการทำดีกับการใช้กรรม
การใช้กรรมหมายความว่ามันจำเป็นจำใจต้องทำ เช่น ติดคุกติดตะรางอันนี้ไม่มีใครอยากติดหรอกไม่มีใครเลือก แต่ว่ามันจำเป็น อันนี้เรียกว่าใช้กรรม
เพราะว่าอาจจะไปลักขโมยเขา หรือว่าไปฆ่าคนตาย หรือว่าคนที่พิการเพราะว่าขับรถเมาชนต้นไม้ ความพิการนี้เรียกว่าไม่ได้สมัครใจเลย อันนี้เรียกว่าใช้กรรม
แต่การที่ใครสักคนช่วยเหลือ จะเป็นการช่วยดูแลแม่หรือว่าช่วยสามีภรรยาที่เจ็บป่วย แต่แทนที่จะทิ้งก็ดูแล มีสามีที่ดูแลภรรยาที่ป่วยเป็นมะเร็ง อุตส่าห์เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้ แล้วก็ทำหลายอย่าง งานการก็ทำก็ยังต้องมาดูแลภรรยา เพื่อนบ้านก็บอกว่าเขากำลังใช้กรรม เพราะว่าชาติที่แล้วคงทำไม่ดีกับภรรยาเอาไว้
แทนที่จะมองว่านี่เขากำลังทำดีเพราะว่าเขาสามารถจะเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ จะทิ้งก็ได้แต่เขาไม่ทิ้ง เขาเลือกได้ว่าเขาจะกลับไปทำงานก็ได้ แต่เขาไม่เลือก อย่างนี้เรียกว่าเขากำลังทำดี
เดี๋ยวนี้ชาวพุทธไทยเรามองว่าเวลาใครลำบากก็ฟันธงเลยว่าเป็นเพราะกำลังใช้กรรม ถ้าใครสบาย ๆ ก็สรุปว่าเป็นเพราะเขากำลังได้รับอานิสงส์ของกรรมดีที่ทำในชาติที่แล้ว
เดี๋ยวนี้เอะอะอะไรเวลาใครเหนื่อยใครยากหรือว่ามีความลำบาก หลายคนก็จะมองว่าเขากำลังใช้กรรม บางทีเจ้าตัวก็คิดแบบนั้นด้วยซ้ำ
การทำความดีคือ การประกอบเหตุ ส่วนการรับกรรมหรือการใช้กรรมคือ การรับผล
การประกอบเหตุกับการรับผลมันต่างกันเยอะเลย แต่ว่าเดี๋ยวนี้ชาวพุทธเรามองแยกแยะไม่ออก
แล้วที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือว่าแยกแยะไม่ออกระหว่างการทำดีกับการละเลยการทำดีหรือแยกไม่ออกระหว่างการทำดีกับการทำชั่ว
คนทำความดีก็หาว่าเขาใช้กรรมหรือว่ามีนัยยะว่ากำลังถูกลงโทษจากทำไม่ดีในชาติที่แล้ว ส่วนใครที่ละเลยหน้าที่ไม่กตัญญูพ่อแม่ก็กลับมองว่าเป็นเรื่องดี อันนี้มันเข้าข่ายมิจฉาทิฐิ
คนไทยเราเดี๋ยวนี้มีทัศนคติที่มองว่าความลำบากเป็นเรื่องไม่ดี แต่บางทีอาจจะเกิดจากความเพียรก็ได้ เกิดจากการทำความดีก็ได้ ใครที่สบายนั่งเล่นนอนเล่นมองว่าดี
อันนี้คงเป็นอิทธิพลของวัตถุนิยมบริโภคนิยมที่มันแพร่หลายมากขึ้น ใก็มองว่าเขาดี ใครที่ไม่รวยหรือจนก็อาจจะมองว่าเขากำลังทำกรรมไม่ดีเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่เขาอาจจะทำกรรมดีก็ได้
ก็น่าเป็นห่วงว่าความเข้าใจผิด เดี๋ยวนี้มันก็แทรกซึมในหมู่ชาวพุทธมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งการทำดีกลาย เป็นของไม่ดีไป การทำไม่ดีกลายเป็นของดีไป
.....
พระไพศาล วิสาโล