ผงะ! เสียชีวิตโควิดนิวไฮ 32 ราย ติดเชื้อใหม่ 18,883 ราย รวมเอทีเคพุ่ง 33,893 ราย
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_3193856
ผงะ! เสียชีวิตโควิดนิวไฮ 32 ราย ติดเชื้อใหม่ 18,883 ราย รวมเอทีเคพุ่ง 33,893 ราย
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวม 18,883 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 18,721 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 162 ราย ผู้ป่วยสะสม 507,763 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 14,914 ราย หายป่วยสะสม 373,651 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 166,397 ราย เสียชีวิต 32 ราย
ขณะที่ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากผลแอนติเจน เทสต์ คิท (เอทีเค) อีก 15,010 ราย อาการหนักใช้ท่อช่วยหายใจ 202 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 202 ราย
สศช. ยัน เงินกู้ 5 แสนล้าน ยังเหลือพอใช้ ถ้า โควิดอาละวาดไม่รุนแรง
https://www.nationtv.tv/news/378864394
สศช. ยัน เงินกู้ 5 แสนล้าน ยังเหลือเพียงพอ ถ้าการระบาดของโควิด-19 ไม่รุนแรง ระบุ ขณะนี้จึงยังไม่มีความจำเป็นออกพ.ร.ก.เงินกู้ฉบับใหม่
21 กุมภาพันธ์ 2565 นาย
ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท เปิดเผยว่า ปัจจุบันวงเงินภายใต้พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท ยังเหลือเพียงพอกับสถานการณ์ในขณะนี้ จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องออกพ.ร.ก.กู้เงินก้อนใหม่
สำหรับวงเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม ยังมีวงเงินคงเหลือ 97,134.77 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)รับทราบแล้ว และเท่าที่คุยกันกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสำนักงบประมาณ มีความเห็นตรงกันว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นมาเรื่อย ๆ และถ้าการระบาดของโควิด-19ไม่รุนแรง ไม่มีปิดเมือง หรือปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญ การกู้เงินมาอีกก้อนก็ยังไม่มีความจำเป็น
เลขาธิการ สศช. ยอมรับว่า แม้ว่าวงเงินภายใต้พ.ร.ก.ดังกล่าว จะเหลืออยู่ค่อนข้างจำกัด ในส่วนของการบริหารเงินที่เหลือภายใต้กฎหมายนี้ จะใช้สำหรับการประคับประคองสถานการณ์เป็นส่วนใหญ่ และต้องใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง โดยจะต้องใช้ในโครงการที่จำเป็นในการฟื้นเศรษฐกิจ อีกส่วนหนึ่งก็คงต้องกันเอาไว้ เพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย
ส่วนมาตรการทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ในระยะสั้นด้วยมาตรการที่มีอยู่ตอนนี้ยังคงช่วยดูแลเศรษฐกิจ และลดค่าครองชีพไปได้ ส่วนระยะต่อไป คงเน้นไปที่การฟื้นฟูเป็นหลัก โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับการส่งเสริมการลงทุน ด้วยการดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้ามาย ควบคู่การลงทุนของหน่วยงานรัฐและการลงทุนรัฐวิสาหกิจ เพื่อช่วยให้ช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้ต่อไป
ทั้งนี้การใช้เงินกู้ภายใต้กรอบวงเงิน 5 แสนล้านบาทนั้น จากการประชุมครม.ล่าสุดเมื่อ วันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติให้ใช้วงเงินดังกล่าว ในโครงการเพิ่มเติม เช่น โครงการในส่วนของจัดหาครุภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการรองรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง(ผู้ป่วยสีเหลือง สีแดง) ที่เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลเป็นหลักจำนวน 17 โครงการ กรอบวงเงินรวม 5,731 ล้านบาท
รวมทั้งโครงการบริหารจัดการนำส่งผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพื่อเป็นค่าชดเชยปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ ระดับพื้นฐานของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) จำนวน 5 เดือน กรอบวงเงิน 37.5 ล้านบาท
หอการค้าย้ำช้อปดีมีคืนควรขยายเวลาอีก
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_294428/
ปธ.หอการค้าย้ำช้อปดีมีคืนจังหวะเริ่มโครงการไม่ดีควรขยายเวลามากขึ้น เพิ่มเงินคนละครึ่งขึ้นอยู่กับงบประมาณ
นาย
สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ความคืบหน้าของการเสนอขอขยายระยะเวลาโครงการช้อปดีมีคืนและการเพิ่มวงเงินคนละครึ่งต่อรัฐบาลนั้น ภาคเอกชนได้มีการสะท้อนสถานการณ์ของผู้ประกอบการณ์ และนำเสนอข้อมูลต่างๆ ของโครงการช้อปดีมีคืนว่าช่วงเวลาที่ออกมานั้นเป็นจังหวะเวลาที่ไม่ดีนัก เพราะเกิดการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ทำให้การจับจ่ายใช้สอยไม่คึกคักเท่าที่ควร หากขยายเวลาเพิ่ม ซึ่งก็ไม่ได้กระทบกับวงเงินที่รัฐบาลตั้งใจจะให้อยู่แล้ว จึงควรขยายเวลาออกไป แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล
และสำหรับโครงการคนละครึ่งนั้น ต้องดูว่าภาครัฐจะตอบรับข้อเสนอได้หรือไม่ในการเพิ่มวงเงินให้กับประชาชน ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะดูภาพรวมของงบประมาณที่มีอยู่ ว่าเพียงพอหรือไม่สำหรับการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน
JJNY : ผงะ!เสียชีวิตนิวไฮ32 ติดเชื้อ18,883│ยันเงินกู้เหลือพอใช้│หอค้าย้ำช้อปดีมีคืนควรขยายเวลา│สุทินเชื่อถกกม.ลูกราบรื่น
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_3193856
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวม 18,883 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 18,721 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 162 ราย ผู้ป่วยสะสม 507,763 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 14,914 ราย หายป่วยสะสม 373,651 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 166,397 ราย เสียชีวิต 32 ราย
ขณะที่ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากผลแอนติเจน เทสต์ คิท (เอทีเค) อีก 15,010 ราย อาการหนักใช้ท่อช่วยหายใจ 202 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 202 ราย
สศช. ยัน เงินกู้ 5 แสนล้าน ยังเหลือพอใช้ ถ้า โควิดอาละวาดไม่รุนแรง
https://www.nationtv.tv/news/378864394
สศช. ยัน เงินกู้ 5 แสนล้าน ยังเหลือเพียงพอ ถ้าการระบาดของโควิด-19 ไม่รุนแรง ระบุ ขณะนี้จึงยังไม่มีความจำเป็นออกพ.ร.ก.เงินกู้ฉบับใหม่
21 กุมภาพันธ์ 2565 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท เปิดเผยว่า ปัจจุบันวงเงินภายใต้พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท ยังเหลือเพียงพอกับสถานการณ์ในขณะนี้ จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องออกพ.ร.ก.กู้เงินก้อนใหม่
สำหรับวงเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม ยังมีวงเงินคงเหลือ 97,134.77 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)รับทราบแล้ว และเท่าที่คุยกันกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสำนักงบประมาณ มีความเห็นตรงกันว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นมาเรื่อย ๆ และถ้าการระบาดของโควิด-19ไม่รุนแรง ไม่มีปิดเมือง หรือปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญ การกู้เงินมาอีกก้อนก็ยังไม่มีความจำเป็น
เลขาธิการ สศช. ยอมรับว่า แม้ว่าวงเงินภายใต้พ.ร.ก.ดังกล่าว จะเหลืออยู่ค่อนข้างจำกัด ในส่วนของการบริหารเงินที่เหลือภายใต้กฎหมายนี้ จะใช้สำหรับการประคับประคองสถานการณ์เป็นส่วนใหญ่ และต้องใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง โดยจะต้องใช้ในโครงการที่จำเป็นในการฟื้นเศรษฐกิจ อีกส่วนหนึ่งก็คงต้องกันเอาไว้ เพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย
ส่วนมาตรการทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ในระยะสั้นด้วยมาตรการที่มีอยู่ตอนนี้ยังคงช่วยดูแลเศรษฐกิจ และลดค่าครองชีพไปได้ ส่วนระยะต่อไป คงเน้นไปที่การฟื้นฟูเป็นหลัก โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับการส่งเสริมการลงทุน ด้วยการดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้ามาย ควบคู่การลงทุนของหน่วยงานรัฐและการลงทุนรัฐวิสาหกิจ เพื่อช่วยให้ช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้ต่อไป
ทั้งนี้การใช้เงินกู้ภายใต้กรอบวงเงิน 5 แสนล้านบาทนั้น จากการประชุมครม.ล่าสุดเมื่อ วันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติให้ใช้วงเงินดังกล่าว ในโครงการเพิ่มเติม เช่น โครงการในส่วนของจัดหาครุภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการรองรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง(ผู้ป่วยสีเหลือง สีแดง) ที่เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลเป็นหลักจำนวน 17 โครงการ กรอบวงเงินรวม 5,731 ล้านบาท
รวมทั้งโครงการบริหารจัดการนำส่งผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพื่อเป็นค่าชดเชยปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ ระดับพื้นฐานของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) จำนวน 5 เดือน กรอบวงเงิน 37.5 ล้านบาท
หอการค้าย้ำช้อปดีมีคืนควรขยายเวลาอีก
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_294428/
ปธ.หอการค้าย้ำช้อปดีมีคืนจังหวะเริ่มโครงการไม่ดีควรขยายเวลามากขึ้น เพิ่มเงินคนละครึ่งขึ้นอยู่กับงบประมาณ
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ความคืบหน้าของการเสนอขอขยายระยะเวลาโครงการช้อปดีมีคืนและการเพิ่มวงเงินคนละครึ่งต่อรัฐบาลนั้น ภาคเอกชนได้มีการสะท้อนสถานการณ์ของผู้ประกอบการณ์ และนำเสนอข้อมูลต่างๆ ของโครงการช้อปดีมีคืนว่าช่วงเวลาที่ออกมานั้นเป็นจังหวะเวลาที่ไม่ดีนัก เพราะเกิดการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ทำให้การจับจ่ายใช้สอยไม่คึกคักเท่าที่ควร หากขยายเวลาเพิ่ม ซึ่งก็ไม่ได้กระทบกับวงเงินที่รัฐบาลตั้งใจจะให้อยู่แล้ว จึงควรขยายเวลาออกไป แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล
และสำหรับโครงการคนละครึ่งนั้น ต้องดูว่าภาครัฐจะตอบรับข้อเสนอได้หรือไม่ในการเพิ่มวงเงินให้กับประชาชน ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะดูภาพรวมของงบประมาณที่มีอยู่ ว่าเพียงพอหรือไม่สำหรับการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน