คือเรื่องของเรื่องคือผมมีแฟนที่คบกันมา 8 ปีได้ครับ หลังจากเรียนจบทางบ้านผมทำการไปเจรจาเรื่องขอหมั้นหมายไว้ได้ไหมเพราะอยากให้แฟนผมมาทำงานอยู่กับผมครับ ทางด้านฝ่ายหญิงไม่เจรจาไดๆครับพร้อมปัดๆไป เปลี่ยนเรื่องอื่น เป็นแบบนี้ 4 ครั้งครับและหลังจากนั้นแฟนผมขอที่บ้านเขามาทำงานแถวบ้านผมครับเพื่อที่จะได้อยู่ไกล้กัน และก็เป็นผลครับทางบ้านเขายินยอม หลังจากมาบ้านผม แฟนผมต้องรองานถึง1เดือนครับงานถึงจะว่าง และได้ทำงาน และระหว่างก่อนที่จะทำงาน ทางบ้านฝ่ายหญิงได้โทรมาบอกว่าแฟนผมต้องกลับบ้านนะ และถ้าไม่มาส่งจะแจ้งตำรวจ ซึ่งสาเหตุหลักๆที่แฟนผมอยากออกจากบ้านมาคือ ครอบครัวเขาชอบทะเลาะกัน และตัวแฟนผมมักจะโดนต่อว่าและไม่ยอมให้แฟนผมออกไปไหนเลย ไปบ้านเพื่อนที่อยู่ติดกันก็ไม่ได้ และเมื่อแฟนผมหิวขอเงินทานอะไรก็ไม่ค่อยจะได้ครับ แฟนผมเลยอึดอัดทางบ้านผมสงสารเลยยินดีที่จะช่วย เพราะตอนเรียนอยู่ ทางบ้านผมก็คอยช่วยสนับสนุนอยู่ตลอดครับ ทั้งอาหารการกิน ตอนไปเรียน เปรียบเสมือนลูกคนนึงครับ หลังจากเขาโทรมา และแฟนผมตัดสินใจไม่อยากกลับบ้านทางที่บ้านผมเลยบอกบ้านแฟนผมว่าให้เด็กเขาตัดสินใจนะ และได้ทำการด่าทอต่อครอบครัวผมแต่ทั้งนั้นที่บ้านผมไม่ได้ติดใจอะไร จากนั้นแฟนผมก็ทำงานและเรื่องก็เกิดขึ้น คือแฟนผมท้องครับ ผมได้ออกมาทำงานต่างจังหวัด 3 เดือน และแฟนผมอยู่กับที่บ้านผมครับ จากนั้น1เดือนให้หลังแฟนผมจึงตามมา และผมก็สมัครงานต่างประเทศได้ครับ ผมจึงต้องจัดการเรื่องของทางบ้านแฟนให้ถูกต้องก่อนจะไปทำงานเพื่อส่งเสียลูก เมื่อแฟนผมบอกทางบ้านเขาเขาก็นัดเจรจาครับ และเรียกค่าสินสอด 2แสนบาท ทางบ้านผมค่อนฐานะไม่ได้ดีมากครับ จึงเสนอไป ณ ตอนนั้นมีแค่ 5หมื่นกับทอง1บาท ถ้า2แสนขอเวลาให้ผมทำงานก่อน ทางแม่แฟนผมไม่ยอมและบอกว่าสินสอดขอ2แสนเพราะบ้านเขามีหน้ามีตา เสร็จงานแล้วจะคืน ทางบ้านผมก็ตกลงยินดีครับ ซึ่งในภายหลังแฟนผมได้ถามคำถามสุดปวดใจกับผมว่า ทำไมตอนเขาบอก2แสนถึงไม่รับเมื่อบอกจะคืนถึงรับ ซึ่งผมก็บอกว่าบ้านผมไม่มีเงิน ผมต้องไปกู้เงินมาเพื่อขอเขา เพราะผมอยากรับผิดชอบและทำให้ถูกตามธรรมเนียม เมื่อเวลาล่วงเลยมา แฟนผมค่อยๆเปลี่ยนไป เขาบอกจะไปดูชุดถ่ายพรีเว้ดดิ้ง ซึ่งทางบ้านผมไม่มีเงินครับจึงบอกไปว่าทางบ้านผมไม่จัดงานอะไรนะแต่ไปทำตามธรรมเนียมสู่ขอแบบที่ทางบ้านแฟนผมต้องการ แต่ที่บ้านแฟนผมจัดงานครับ ซึ่งลำบากใจผมมากเลยแหนผมพยามบอกผมว่าต้องทำแบบนี้ๆ ให้ยิ่งใหญ่ โดยที่แฟนผมรู้อยู่แก่ใจว่าบ้านผมไม่ได้รวยขนาดนั้น เขายินดีที่จะออกค่าชุดเองและ พิมท้ายประโยคว่า จริงๆแล้วฝ่ายชายต้องออกให้นะค่าพรีเวดดิ้งชุดเจ้าสาวอะไรพวกนี้ยิ่งทำให้ผมเศร้าใจไปอีก แค่เงิน2แสนนั้น ครอบครัวผมแทบไม่เหลืออะไรแล้วครับ และจริงๆแล้วบ้านผมจะให้เงิน2แสนนั้นเลยโดยไม่เอากลับเพราะจะได้ช่วยค่างาน ค่าอะไรต่างๆ แฟนผมไม่พอใจมากๆครับ อารมแบบจริงๆสินสอดควรแยกจากจัดงาน แม่เขาต้องได้เงินตรงนั้นเต็มๆตัวเขามีค่ามากกว่านั้น และจากนั้นผมไม่คิดอะไร ปล่อยไปจนถึงวันงาน ทางบ้านเขาก็ได้ถามผมว่าทางบ้านผมได้ด่าทอลูกเขาไหมแฟนผมถึงได้น้อยใจ คือก่อนท้องเค้าดูแลแฟนผมอย่างดีมาตลอดครับ พอรู้ว่าท้องคือไม่ให้ทำอะไรเลยให้นอนพักกับอยากทานอะไรก็หามาให้ครับ คือผมน้อยใจในคำถามนี้มากเลยครับ หลังจากนั้นแฟนผมก็กดดันผมเรื่องงานแต่งทุกๆวัน ผมจึงพูดไปทำนองว่าเมื่อก่อนเขาก็ช่วยเราอยู่ตลอดนะทำไมเธอไม่ช่วยคุยกับทางบ้านเธอบ้างเลย ว่าบ้านเราไม่มีเงินนะอะไรไม่จำเป็นก็ลดละบ้าง แฟนผมไม่พอใจผมอย่างหนักพร้อมกับบอกว่าคนที่บ้านผมทวงบุญคุณเก่งทั้งบ้าน ซึ่งผมเครียดมากเลยครับไม่คิดว่าแฟนผมจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ หรือเรื่องนี้ผมเป็นคนผิด ตอนแม่เขาพาแฟนผมไปหาหมอเพื่อฝากครรภ์ เสียเงินประมาณ 1 หมื่นครับ เขาก็เอามาว่าบ้านผมรู้เรื่องบ้างรึยัง ซึ่งแม่ผมให้เขาจ่ายตอนมาอยู่กับผมเรื่องต่างๆที่จะไม่ทำให้เขาลำบากมากกว่านั้นเยอะเลยครับแต่แม่ผมได้แต่เงียบไม่เคยบ่นอะไรเลยผมสงสารแม่มากครับ แต่นั้นก็ลูกของผมซึ่งพอผมพูดอะไรทำนองนี้อยากให้แฟนเข้าใจผมครับ อยากให้เขามองดูบ้านผมที่ลำบากอยู่บ้าง ซึ่งกลับกลายเป็นทวงบุญคุณ ยิ่งตอนนี้แฟนผมบอกว่าบ้านผมเอาเปรียบบ้านเขาอยู่มาก ทั้งๆที่แม่ผมให้หมดตัวที่จะทำได้แล้วครับ หรือเรื่องนี้ผมเป็นคนผิด จะจัดการกับความรู้สึกตอนนี้ยังไงดีครับ ผมอยากนะบายผมเครียดมากๆ
การแต่งงาน