บทความรุ่น3ใน Side Stories

เครดิต
เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
ไม่ว่าเรื่องไหนหรือเมื่อไหร่
ก็มักจะมีความพิเศษบางอย่างให้นึกถึงตราตรึงเสมอ
ทั้งรักครั้งแรก, เพื่อนสนิทคนแรก, ขึ้นเวทีประกวดครั้งแรก
สัตว์เลี้ยงตัวแรก หรือรอเจอหน้าลูกคนแรก
และมันคงจะยิ่งพิเศษขึ้นไปอีก
ถ้าเป็นเหตุการณ์ที่เรา
รอคอยมานานแสนนานกว่าจะได้เจอ
อย่างการได้เห็นลูกหลานคนนั้นเค้าเติบโต
จนถึงวันที่ต้องตื่นเช้ามาแต่งตัว ประแป้ง ใส่ยูนิฟอร์ม
เตรียมก้าวออกจากรั้วบ้านเพื่อ “ไปโรงเรียนครั้งแรก”
ค่อยๆ เดินต๊อกแต๊กไปหาครู
แล้วหันกลับมาโบกมือให้เราก่อนจะขึ้นรถโรงเรียนไป
ณ โมเม้นต์นั้น คนเป็นพ่อแม่หรือญาติที่มองไป
คงตื้นตันใจไม่น้อยทีเดียว
เช่นกันกับวันที่พวกเราได้เจอ “กระต่ายตัวน้อย” กลุ่มนึง
ที่รวมตัวมาอยู่ด้วยกันในโพรงเล็กๆ อันอบอุ่น
ภายใต้การเลี้ยงดูฟูมฟักจากมัมหมีแมว
ที่ผ่านประสบการณ์บนทุ่งหญ้าหมายเลข 48 มาอย่างโชกโชน
และเปลี่ยนให้กระต่ายผู้ถูกล่าในห่วงโซ่อาหาร
ได้ฝึกฝนผ่านกระบวนการ
จนเติบโตมาเป็น "ผู้ล่า" คอยวิ่งตามความฝัน
จนถึงวันที่พร้อมออกจากโพรงมาเจอโลกอันกว้างไกล
“ก็เป็นอีกวันนึงที่เฌอ
อยากจะแนะนำเด็กๆ กลุ่มใหม่
ให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ
ขอเชิญ BNK48 3rd Generation ค่าาา”
.

.
สิ้นเสียงของกัปตันในวันเปิดเธียเตอร์
ประเดิมสเตจใหม่ของทีม NV และ BIII เมื่อวันที่ 9 ส.ค.63
ราวกับเป็นการลั่นระฆังส่งสัญญาณบอกทุกคนว่า
ตำนานบทใหม่ของวงกำลังจะเริ่มขับขานแล้ว
วันที่พวกเธอได้เข้ามาเติมขุมกำลังเสริมแกร่งให้วง
เพื่อเป็นตัวตายตัวแทนมาเติมเต็มพื้นที่ในเธียเตอร์
ยามที่รุ่นพี่ต้องไปออกงาน ติดธุระ หรือเจ็บไข้ได้ป่วย
โดยทุกคนต่างมีหมุดหมายเดียวกันว่า
ภายใน 1 ปีแรกที่ต้องอยู่แต่ในนี้
ชั้นจะต้องทำยังไงก็ได้ให้เฉิดฉายมากที่สุด
จากวันนั้นจนถึงวันที่ได้เดบิวต์อย่างเป็นทางการ
ก็นับเป็นเวลานานถึง 1 ปี 6 เดือน กับอีก 1 วันเลยทีเดียว
แม้รุ่น 3 จะได้เปรียบตรงที่
มีรุ่นพี่เป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วถึงสองรุ่น
มีคณะครูคอยดูแล มีตำรา แบบแผน มาตรฐานที่วางไว้
ปูเส้นทางให้ก้าวไปได้ตามนั้น
แต่อีกมุมคือพวกเธอต้องเจอกับความท้าทาย
และบททดสอบที่ต่างออกไปไม่น้อยเลย
บนข้อจำกัดที่เรียกว่า “เวลา” และ “การรอคอย”
เพราะนี่คือ BNK48 รุ่นเดียว
ที่ต้องจากการต้องห่างไกลอ้อมอกที่บ้าน
มาใช้ชีวิตอยู่ในหอพักร่วมกันเหมือน CGM48
เพื่อให้ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้น เข้าถึงกันง่าย
(ช่วงหลังคือเป็นที่สำหรับกักตัวจากโควิด
ให้เตรียมพร้อมขึ้นสเตจได้ทันทีด้วย)
ตื่นมาก็เห็นหน้ากัน ลงมากินข้าวด้วยกัน
ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วง
เสียหยาดเหงื่อและน้ำตาไปด้วยกันมากมาย
โดยมีความคาดหวังอันหนักอึ้งที่โถมใส่บนสองบ่า
ว่าต้องฝึกให้พร้อมใช้งาน โชว์ฟอร์มได้ไม่น้อยกว่ารุ่นพี่
ไม่ว่าจะเป็นการร้อง เต้น หรือส่งอารมณ์
จนคนดูไม่รู้สึกถึงความแตกต่างหรือขาดหายใดๆ
คือลำพังแค่การแข่งกับตัวเองให้ดีขึ้นว่าท้าทายแล้ว
การต้องแข่งกับเพื่อนๆ พี่น้องตัวเอง
เพื่อแย่งชิงพื้นที่อันน้อยนิดบนเธียเตอร์
ดูจะท้าทายยิ่งกว่าเป็นสิบเท่า
แต่สิ่งที่พวกเธอทำนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่า
การก้มหน้าก้มตาฝึกฝนต่อไป
ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยโหดร้ายแค่ไหน
ก็ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมที่สุด
รอจนกว่าจังหวะและเวลาจะมาถึง
เริ่มจากการที่สองต่าย “ฮูพ-มีน”
ได้ออกจากโพรงมาประเดิมสเตจ BIII
กลายเป็นการทลาย “โบว์ลิ่งพินแรก”
ที่ช่วยสร้างแรงส่งต่อไปเรื่อยๆ
จนเราได้เห็นพวกเธอทยอยตบเท้า
ขึ้นโชว์ศักยภาพบนสเตจทั้งสองทีม
จะเพลงเร็วก็ดี เพลงช้าก็น่าฟัง
ได้ประเดิมเวทีใหญ่ครั้งแรกในงานจังเก้น
ตามมาด้วยสเตจของตัวเอง “Ganbare! Kengkyuusei!”
ที่ได้ระเบิดความร้อนแรง ชนิดที่ไฟดับไปช่วงนึง
ก็ยังคงโชว์สปิริตร้องเต้นกันต่อไปจนจบเพลง
รวมถึงการได้ไลฟ์ในแอปฯ iAM48
ได้มางานจับมือ / 2-shot
ให้แฟนคลับได้รู้จักตัวตนกันมากขึ้น
ทุกอย่างช่างดูจะเข้าทางขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั่งมาเจอวายร้ายตัวฉกาจอย่างโควิด
ที่ยังพ่นพิษไม่หยุดมาถึง 5 ซีซั่น
ทำเอาต้องกลับเข้าโพรงไปตั้งต้น
วิ่งเล่น ฝึกซ้อม กินนอนกันอยู่ในนั้นต่อ
โดยที่ไม่รู้ว่าโอกาสจะมาอีกครั้งเมื่อใหม่
รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ
และเมื่อ อฟช. ประกาศว่าจะมี #GE2022
คัดเลือกเซ็มในซิง 12 ก็เหมือนได้สะกิดใจเรา
ถึงกับต้อง“เอ๋!! เป็นเสียงรินะ รุ่น 3 ยังไม่ได้เปิดตัวเลยนี่หว่า!
(ก่อนจะประกาศตามกันมาทีหลัง)
เอาจริงๆ ก่อนนี้ก็หลายครั้งก็แอบห่วงรุ่น 3
ว่าจะหมดไฟไปก่อนมั้ย หรือทักษะฝีมือจะหายมั้ย
พอร้างสนามกันไปนานแบบนี้
แต่เปล่าเลย ภาพของ First Performance ที่ CTW นั้น
ได้ลบความคาใจทั้งหมดของผมออกไปในพริบตา
เมื่อได้เห็นว่าพวกเธอพัฒนาขึ้นมากแค่ไหน
เต้นพร้อมเพรียงกันมากขึ้น
ไลน์เต้นแข็งแรงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ
มีความพลิ้วไหว อ่อนช้อยตามมา
คนที่ร้องเพลงเก่งอยู่แล้วก็ยังเก่งและมีลูกเล่นกว่าเดิม
คนที่เคยไม่ถนัดการร้อง ก็ถีบตัวเองให้กล้าฉายแสงออกมา
ร้องได้ตรงคีย์และมีเสียงเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
ห้วงเวลานั้น ก็เหมือนมีน้ำใสๆ เอ่อล้นมาจากสองตา
โคตรจะภูมิใจเลยจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่