ถุงยางแตก ยาต้าน HIV ฉุกเฉิน ยา PEP

กระทู้นี้ผมตั้งเพื่อต้องการบอกเล่าเรื่องราวที่ผมไปเสี่ยงและไปรับยาต้านเชื้อฉุกเฉิน PEP เผื่อจะพอเป็นประโยชน์บ้างครับ

     ก่อนอื่นผมขอต้องขออภัยหากผมใช้คำที่ไม่ถูกต้องด้วยครับและผมต้องบอกก่อนว่าผมไม่เคยใช้บริการพวกนี้มาก่อนครับ ผมมีอะไรแค่กับแฟนเท่านั้น แต่ปัญหาคือผมมีความต้องการมากกว่าแฟนผมครับ(เขาให้อาทิตย์ละครั้งครับพอขอเกินอาทิตย์ละครั้งก็จะทะเลาะกันตลอด เขาบอกเขาไม่ชอบเรื่องแบบนี้) แต่ผมไม่ได้โทษเธอนะครับ ผมมันเลวเองเลยต้องรับผลของการกระทำของตัวเอง 

      เรื่องมีอยู่ว่าผมได้ไปใช้บริการแบบว่ามาครับ ก่อนที่ผมจะลองไป ผมก็คิดหลายรอบมากว่าจะไปดีไหม เพราะเคยอ่านเรื่องพวกนี้มาก็เจอบางคนเล่าว่าถุงยางแตกบ้างอะไรบ้างต่างๆนาๆ ถามว่ากลัวไหม ตอบเลยว่ากลัวครับ แต่อีกใจนึงก็คิดว่าเราไม่เคยเลยลองสักครั้งคงไม่เป็นไร คงไม่ซวยถุงแตกแบบนั้นหรอกเพราะตั้งแต่ใช้ถุงยางมาเป็น10ปีไม่เคยเจอเรื่องถุงแตกเลย แล้วก็ตามนั้นครับความซวยมาเยือน ถุงแตกกกกก หน้าชาเลยครับ พอกลับมาถึงบ้านผมก็รีบหาข้อมูลว่าจะมีทางรอดอย่างไรบ้างจนมาเจอยา PEP เช้ามาผมก็รีบไป โรงพยาบาลรัฐเพื่อขอยาทันที ซึ่งจุดลงทะเบียนประวัติคนเยอะมาก อายก็อาย แต่กลัวมากกว่าครับ พอไปถึงหมอเขาก็ถามว่าไปเสี่ยงอะไรมาตอนกี่โมง (ยา PEP ต้องทานภายใน 72 ชม.ถ้าเลยแล้วทานไปก็แทบไม่ช่วยครับจากที่อ่านมา)เราก็แจ้งเขาว่าถุงยางแตกตอนไปใช้บริการแบบว่ามา หมอก็ให้ไปตรวจ hiv ซิฟิลิส ตับ ไต ก่อนเริ่มยา PEP คือพูดง่ายๆเลือดคุณต้องลบ ถึงจะรับยา PEP ได้ครับ และแล้วความกลัว ความหลอนก็เกิดขึ้นจนรู้สึกเครียด ท้อแท้ ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรเลยครับ เอาแต่คิดฟุ้งซ่านว่าจะเป็นไหม จะบอกครอบครัวยังไง จะใช้ชีวิตยังไง โทษตัวเองว่าไม่น่าเลยๆ คิดซ้ำๆวนๆแต่เรื่องนี้ ประสาทจะกินครับ ยาที่ผมได้มาคือยา GPO VIR T ครับ ซึ่งผมเปิดหาข้อมูล มันดันไม่เหมือนที่คนอื่นได้ แถมไปเจอบางกระทู้บอกว่าเป็นยาสำหรับคนที่มีเชื้อแล้ว สตั้นไปเลยครับ จากนั้นชีวิตผมก็หมกมุ่นอยู่กับสูตรยา PEP นั่งอ่านนั่งค้นข้อมูลยา ข้อมูลของอาการติดเชื้อระยะแรก จนชีวิตแทบจะไม่ทำอะไรอย่างอื่นเลย นอนก็ไม่ค่อยหลับ พอหลับก็ตื่นไว พักผ่อนไม่เพียงพอมีแต่ทำให้แย่ลงไปอีก ส่วนการทานยา หมอให้ทานตรงเวลาทุกวันเป็นเวลา30วัน หลีกเลี่ยงการทานของมันเพราะจะทำให้อาการเวียนหัวจากฤทธิ์ยารุ่นแรงขึ้น หมอแนะนำให้ทานก่อนนอน และให้ดื่มน้ำเยอะๆเพราะยามีผลต่อตับ ไต ผมเลยถามหมอว่าถึงบ้านละทานเลยได้ไหม (ผมอ่านเจอจากงานวิจัยว่าทานภายใน 24ชม. หรือยิ่งเร็วยิ่งดีแต่ผมไม่ได้พูดนะ ว่าอ่านงานวิจัย แค่ถามว่าทานเลยได้ไหม) หมอบอกได้ แต่คุณจะไปไหนตอนกลางวันไม่ได้เลยเพราะว่าฤทธิ์ยาจะทำให้เวียนหัว ซึ่งผมคิดว่ามันคงไม่เท่าไรหรอกมั้ง หลังจากถึงบ้านผมทานยาได้ประมาณ 1ชม. อาการออกหนักมากครับ เดินยังเซ ทรมานมากครับระหว่างที่ทานยาแบบนับวันว่าเมื่อไหร่จะครบ30วัน มันมีแต่ความเครียดและวิตกครับ แค่ยุงกัดขึ้นผื่นแดงก็คิดมากแล้วครับและบางอาการมันก็เกิดจากการที่เราเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งหลังจากผมรับยาครบ 30วันผมก็ไปตรวจ anti hiv ผลออกมาเป็นลบครับ ผมถามหมอว่าผมต้องมาตรวจอีกไหม หมอบอกว่าไม่ต้องแล้ว แต่ถ้าไม่สบายใจก็มาตรวจตอน 3เดือน 6เดือน ก็ได้ ซึ่งผมก็จะไปตรวจครับ 3เดือนและ6เดือน

    จากที่ผมอ่านมา ผมเคยอ่านกระทู้ของหมอท่านนึงจำไม่ได้ว่าเว็ปไหน บอกว่า คนส่วนมากที่มารับยา PEP ถ้าทานยาตรงเวลาไม่เสี่ยงเพิ่มผลที่ออกมาจะเชื่อถือได้ เพราะคนที่มารับยากับหมอ หมอบอกยังไม่เจอใครติดเชื้อเลย ส่วนที่ตรวจ3เดือน6เดือนแค่คอนเฟิร์มและเพื่อความสบายใจของคนที่มาตรวจ

    จากที่อ่านงานวิจัยต่างๆมาเปอร์เซ็นในการติดเชื้อ hiv ของฝ่ายรับจะมากกว่าฝ่ายรุก

1.การรับเลือด (1 ยูนิต) 92.5 %

2.การใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วมกัน 0.67-0.80 %

3.ฝ่ายรับทางทวารหนัก 1-30%

4.ฝ่ายรุกทางทวารหนัก 0.1-10%

5.ฝ่ายรับทางช่องคลอด 0.1-10%

6.ฝ่ายรุกทางช่องคลอด 0.1-1%

7.ฝ่ายรับทางปาก (การทำออรัลกับอวัยวะเพศชาย) 0-0.04%

8.ฝ่ายรุกทางปาก (การถูกออรัลอวัยวะเพศชาย) 0-0.005%

9.การใช้ปากกับอวัยวะเพศหญิง มีโอกาสแต่น้อยมากๆๆ

10.เข็มที่มีเลือดติด ตำเข้าผิวหนัง 0.3%

11.เยื่อบุ 0.09%

*มีการประมาณว่าโอกาสถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก สูงกว่าการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดถึง 18 เท่า
ข้อมูลจาก คลีนิคนิรนาม

     สูตรยา PEP จากที่ผมได้อ่านมาจะประกอบด้วยยา3ตัวขึ้นอยู่กับหมอจะเป็นคนจ่ายยาครับ มีทั้งแบบรวมเม็ดและแบบแยกเม็ดครับ ยา PEP ก็คือตัวยาเดียวกันกับที่ให้คนมีเชื้อกินครับ แต่ PEP ทานแค่28-30วัน ช่วยให้ไวรัสไม่ขยายตัวและถูกร่างกายกำจัดออกไป

สูตรยา อ่านเจอจาก Rama

TDF+3TC+RPV

TDF+3TC+ATV/r

TDF+3TC+LPV/r

TDF+FTC+RPV

TDF+FTC+ATV/r

TDF+FTC+LPV/r

TDF+3TC+RAL

TDF+3TC+EFV

TDF+FTC+RAL

TDF+FTC+EFV (ของผมได้เป็นสูตรนี้)

คนที่ไตมีปัญหาจะให้เป็น AZT แทน TDF ส่วนวิธีการทานแต่ละตัวไม่เหมือนกันครับ ทานตามหมอสั่งครับ หากจะท่านยาอื่นคู่ไปด้วยแนะนำให้ปรึกษาหมอก่อนครับ เพราะยาบางตัวมันใช้ร่วมกันกับยา PEP ไม่ได้

     ส่วนเรื่องการทานพวกนม ควรกินก่อนกินยาอย่างน้อย2ชม.หรือกินหลังทานยาอย่างน้อย2ชม. เพื่อไม่ให้แคลเซี่ยมจากนมไปเจอกับยาครับ เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพยาลดลง จากที่อ่านมาครับ

     คือนอกจาก hiv แล้วยังมีโรคติดต่อทางเพศอีกหลายอย่างซึ่งน่ากลัวทั้งนั้นและผมก็ไม่ได้หมายถึงคนที่ทำงานบริการจะเป็นโรคหรืออะไรทั้งนั้นนะครับ แต่มันคือความเสี่ยง!!! ส่วนตัวผมขอบอกเลยว่าจากนี้ไปผมไม่เอาแล้วครับเข็ด รอตรวจ3เดือน6เดือน แค่ครั้งเดียวแท้ๆเครียดไปอีกนาน

    ส่วนใครที่เสี่ยงมาผมแนะนำว่าอย่าลังเลหรืออย่าอายเลยครับอย่าเสียโอกาสทอง 72 ชม.ไปเลย รีบไปรับยาเถอะครับดีกว่ากินยาไปทั้งชีวิต และใครที่กำลังทานยา PEP อยู่ ผมขอให้ทุกท่านปลอดภัยครับ

    ผมหวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่เข้ามาอ่านบ้างไม่มากก็น้อย

หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ

ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่