🛑 คดีสยองที่ยังคงเป็นปริศนาจนถึงปัจจุบัน
🛑 การตายของเด็กชายลึกลับในคดีเป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้าหรือการฆ่าที่โหดร้ายโดยเจตนากันแน่?
🛑 ทำไมถึงไม่มีใครเลยที่มาแสดงตัวเป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็กผู้ตาย?
🛑 หนึ่งคดีที่ลึกลับที่สุดในแฟ้มอาชญากรรมในประเทศสหรัฐอเมริกา ในศตวรรษที่ยี่สิบ
"America's Unknown Child" หรือ "The Fox Chase Boy
เป็นคดีสยองลึกๆ ที่ยังคงเป็นปริศนาจนถึงปัจจุบัน
ด้วยคำถามที่ว่า การตายของเด็กชายลึกลับในคดีดังกล่าว
เป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้าหรือการฆ่าที่โหดร้ายโดยเจตนากันแน่?
ในปี 1957 ณ ถนน Susquehanna ถนนแคบๆ
ที่พบกระจัดกระจายทั่วไปในใน Fox Chase ทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ของฟิลาเดลเฟีย ในตอนนั้นถนนแห่งนี้ยังไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์
อย่างมากก็มีเสาไฟฟ้า ทำให้สองข้างทาง
เต็มไปด้วยป่ารกเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เล็กจำพวกกระต่าย
หรือหนูจึงจะเป็นที่นิยมของคนในแถบนั้นที่นิยมมาล่าสัตว์เป็นงานอดิเรก
นอกจากนั้นยังเป็นที่ทิ้งขยะอีกส่งผลทำให้บรรยากาศที่แห่งนี้
ค่อนข้างจะรกร้างและวังเวงจึงไม่แปลกอะไรที่จะมีใครสักคน
ที่จะเอาศพมนุษย์ไปทิ้งบริเวณพื้นที่แห่งนี้
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 1957 เวลา 15:15 น. เฟรเดอริก เจ. เบโนนิค
นักเรียนจากมหาลัยอายุ 26 ปี ได้ขับรถตามถนนทางทิศตะวันตก
เขาได้เห็นกระต่ายกระโดดออกจากพุ่มไม้เขาคิดว่าจะหยุดรถเพื่อไล่ล่ามัน
ในขณะที่ออกนอกรถเขาก็วางที่ดักหนูมัสคแร็ต(หนูขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง)
ในป่าแถบนั้น ในตอนนั้นเองเขาได้เห็นกล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่
และเขาก็สะดุดสิ่งที่อยู่ยื่นออกมานอกกล่อง..
ตอนแรกเขาคิดว่าอาจเป็นตุ๊กตายาง แต่หากมองดีๆ แล้วกับเป็นศพเด็กของจริง
แต่ชายหนุ่มคนนั้นกลับไม่แจ้งตำรวจเพราะว่าการหาหนูมัสคแร็ตนั้นผิดกฎหมาย
จนกระทั้งเช้าวันถัดมา เวลาสิบโมง
เฟรเดอริกตัดสินใจโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบศพเด็กชายในกล่อง
เนื่องจากเขาได้ยินข่าวเด็กหญิงถูกลักพาตัวในนิวเจอร์ซีย์
เลยคิดว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวคือเด็กที่เขาเห็น
เมื่อตำรวจรับแจ้งความ ก็รีบรุดมาที่เกิดเหตุ
มีการพบศพเด็กชายลึกลับไม่ทราบชื่อชาวคอเคเซียน(ฝรั่งขาว)
อายุประมาณ 4 ถึง 6 ปี อยู่ในสภาพเปลือยกายห่อด้วยผ้าห่มเก่า
ลายสก็อตราคาถูก นอนหงายหน้าอยู่ในกล่องกระดาษขนาดใหญ่
ที่มองคร่าวๆ คิดว่าจะเป็นตุ๊กตาถูกทิ้งมากกว่าศพคนจริง
เนื่องจากกล่องและผ้าห่มปิดมิดทำให้มองเห็นไม่ถนัด
อีกทั้งสถานที่ทิ้งเป็นที่รกร้างและเป็นที่ทิ้งขยะข้างทาง
ร่างกายของเด็กแห้งและสะอาด แขนของเด็กถูกพับอย่างระมัดระวัง
เล็บมือและทรงผมถูกตัดสั้นและเรียบร้อยแม้ผมนั้นขาดแหว่งหายๆ
คาดว่ามีคนตัดฝีมือการตัดไม่ดีนักและน่าจะตัดในช่วงที่เขาตายแล้ว
เด็กมีส่วนสูงประมาณ 40 ½ นิ้ว หนักประมาณ 30 ปอนด์
มีตาสีฟ้าผิวขาวซีดคาดว่าน่าจะเป็นโรคขาดสารอาหาร
เด็กมีผมสีน้ำตาลอ่อนหรือผมสีบลอนด์และมันพึ่งได้รับการตัดเมื่อเร็วๆ นี้
เหมือนกับว่าเจตนาพยายามปกปิดตัวตนของเด็ก แต่เจ้าหน้าที่ก็เชื่อว่า
เด็กผู้ตายน่าจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีในครั้งที่มีชีวิตอยู่พอสมควร
ศพเด็กผู้ตายมีบาดแผลทั่วร่างโดยเฉพาะบนหัวและใบหน้า
ที่ดูรุนแรงมากที่สุด ส่งผลทำให้ใบหน้าของเด็กบอบซ้ำและบวม
คาดว่าจะแผลรุนแรงนี้เด็กคงเป็นสาเหตุทำให้เด็กเสียชีวิต
แต่ที่น่าพิศวงคือร่างกายของเด็กคนนั้นแห้งและสะอาด
มีรอยย่นหยาบที่ฝ่าเท้าที่บ้านเราเรียกว่า หญิงรับจ้างซักผ้า
แสดงให้เห็นว่าเด็กชายถูกแช่น้ำในระยะยาวนานก่อนหรือเสียชีวิต
ส่วนการชันสูตรระยะเวลาเสียชีวิตของเด็กนั้น
ระบุได้ยากเพราะว่าสภาพอากาศที่พบศพนั้นเย็นสบาย
ทำให้การระบุระยะการตายของเด็กเป็นไปได้หลายทางคือ
เด็กอาจจะตายมาแล้วสองหรือสามวัน หรือ สองหรือสามสัปดาห์ก็ได้
ด้วยสภาพศพของเด็กชายนั้นดูรู้เลยว่าน่าพิศวงและน่าเวทนา
ทำให้ตำรวจบางคนได้บรรยายในวันนั้นไว้ว่า
ผมเคยมีประสบการณ์ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สองมาก่อน
ผมเห็นคนจำนวนมากที่ถูกทำร้ายร่างกาย
แต่กรณีนี้ผมได้สัมผัสอะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่ตำรวจบางนายคิดว่าคดีนี้คงจะเป็นคดีธรรมดาที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร
เด็กผู้ตายน่าจะเป็นคนแถวๆ นี้และคดีคงจบเพียงไม่กี่เดือน
ปรากฏว่าหนึ่งเดือน สองเดือนผ่านไป สามเดือนผ่านไป
คดีเด็กชายลึกลับก็ไม่สามารถไขกระจ่างได้
และมันได้กลายเป็นคดีลึกลับคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาในที่สุด
สาเหตุที่ทำให้คดี เด็กชายในกล่องนี้ลึกลับ
นอกเหนือจากหลักฐานกายภาพที่ตำรวจพบจะไม่สามารถสาวที่มาของเด็ก
หรือไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีแล้วในด้านหลักฐานสำคัญของคดี
สิ่งแรกเลยคือกล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่(15x19x35)ที่เด็กชายถูกยัดนั้น
เป็นกล่องบรรจุผลิตภัณฑ์เปลเด็กทารกจาก JC Penney
ผลิตเมื่อวันที่ 11/25/56 และน่าจะถูกขายระหว่าง12/03/56 และ 02/16/57
ตัวกล่องค่อนข้างเปราะปรางในตอนพบศพเด็กในกล่องนั้นกล่องยังอยู่ในสภาพดี
แต่ก็ไม่สามารถสาวตัวผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ได้เนื่องจากไม่มีการระบุผู้ซื้อ
ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว กล่องถูกนำไปห้องแล็บเอฟบีไอเพื่อวิเคราะห์
ผลปรากฏว่าไม่พบรอบนิ้วมือที่น่าสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนผ้าห่มที่ใช้คลุมตัวเด็กชายนั้น ตัวผ้าทำมาจากผ้ากำมะหยี่สีจาง
จากผ้าฝ้ายเกรดต่ำราคาถูก ออกแบบลายสก็อตลายเพชรมีทั้งสีเขียว
น้ำตาล และสีขาว ผ้าห่มถูกซักทำให้สะอาดสะอ้าน
แต่บางส่วนของตัวผ้าก็หายไปจากการตรวจสอบที่มาของผ้า
พบว่ามาจากโรงงานทอผ้าสักแห่งในแคนนาดา แต่กระนั้นผ้าห่มนี้ไม่สามารถ
เจาะจงผู้ซื้อได้เพราะว่าผ้าห่มดังกล่าวได้รับการผลิตและส่งขายไปทั่วประเทศ
ใกล้ๆ พุ่มไม้ที่พบหมวกของเด็กชาย เจ้าหน้าที่พบหมวกลูกฟูกสีฟ้า
กับสายหนังและหัวเข็มจัดด้านหลัง ซึ่งน่าจะเป็นของเด็กชาย
หมวกดังกล่าวถูกส่งไปยังห้องแล็บเอฟบีไอในการวิเคราะห์ แต่ไม่พบอะไรที่สำคัญ
ต่อมามีการเพิ่มตำรวจหลายนายเข้ามาในพื้นที่แห่งนั้น
เพื่อตรวจสอบค้นหาหลักฐานที่น่าจะสาวตัวไปถึงเด็กชายในกล่องอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ซึ่งกินพื้นที่อาณาเขตจากพื้นที่พบศพถึง 12 กิโล พวกเขาค้นหาป่ารกร้าง
ไปจนถึงอาคารร้างและพื้นที่อาศัยบริเวณนั้นเกือบทุกจุด
แต่ไม่พบอะไรที่น่าสนใจ หลักฐานที่พอเก็บได้คงจะเป็นหลักฐานที่ตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ
ไม่ว่าจะ ผ้าเช็ดหน้าสีขาว, รองเท้าเด็กสีดำ, ผ้าพันคอของเด็ก
และผ้ากำมะหยี่สีเหลืองที่เป็นเสื้อของเด็กชายคนหนึ่ง
ซึ่งขนาดของเสื้อพบว่ามีขนาดพอดีกับศพเด็กผู้ตาย
แต่กระนั้นผลจากการตรวจสอบห้องปฏิบัติการทางเคมีของตำรวจก็ไม่พบอะไรเลย
จากการชันสูตรศพอย่างถี่ถ้วน พบว่าเด็กชายกระดูกไม่หัก
แต่มีกากน้ำตาลเข้มภายในหลอดอาหารซึ่งคาดว่าเด็กมีการอาเจียนก่อนตาย
ไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายทางเพศ ร่างกายมีบาดแผลเป็นคือแผลหน้าอกด้านซ้าย
ข้อเท้าและขาหนีบที่น่าจะเกิดการผ่าตัด
นอกนั้นเป็นแผลเป็นซึ่งเป็นแผลปกติที่พบในเด็กที่ชอบเล่นซน
จากข้อสันนิษฐานของผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายได้ระบุว่า..
เด็กชายคนนี้ได้รับอาหารน้อยและอาจมีการเข้าเฝือกก่อนหรือตาย
อายุของเขาน่าจะประมาณ 4 หรือ 5 ปี และชาติกำเนิดของเขา
น่าจะมาจากประเทศในตะวันตกเฉียงเหนือหรือตะวันตกกลางยุโรป
อาจเป็นสแกนดิเนเวีย เยอรมันตะวันตก อังกฤษ หรือสกอตแลนด์
สิ่งที่พิศวงไม่แพ้กันคือการหาชื่อจริงของเด็กชายในกล่อง
ซึ่งเจ้าหน้าที่ในฟิลาเดลเฟียพยายามหาข้อมูลของเด็กจากหลายๆ แหล่ง
ตอนแรกคาดว่าน่าจะเป็นเด็กที่ถูกลักพาตัวแล้วถูกนำมาฆ่า
ไม่ก็เด็กเป็นคนแถวนั้น แต่ปรากฏว่าสืบไปสืบมาก็มือแปดด้าน
เพราะไม่มีรายงานเด็กหาย ไม่มีใครระบุตัวตนของเด็กชาย
ข้อมูลหลักฐานที่จะระบุตัวตนของเด็กชายก็ไม่มี
ผลสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบก็จนปัญญากับคดีนี้ในที่สุด
เมื่อคดี เด็กชายในกล่องมืดแปดด้าน หลายฝ่ายก็เริ่มให้ความสนใจ
ที่จะเข้ามาช่วยกันพยายามไขปริศนาว่าศพเด็กชายในกล่องผู้ลึกลับคนนี้คือใครกันแน่
ไม่ว่าจะเป็น เอฟบีไอสมาคมแพทย์อเมริกัน สื่อมวลชนทั้งในและนอกประเทศ
และรวมไปถึง Vidocq Society องค์กรที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมสาขาต่างๆ
เด็กชายในกล่องมี รอยนิ้วมือรอยนิ้วเท้า นอกจากนี้ยังรอยแผลเป็นของเด็ก
ซึ่งน่าจะมีประวัติการรักษาพยาบาลที่ไหนบ้าง
นอกจากนี้จากการใช้แสงอุลตร้าไวโอเลตส่องที่ตาซ้าย
พบว่าเด็กน่าจะมีการรักษาโรคตาเรื้อรัง ข้อมูลของเด็กชาย
ถูกส่งไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ แล้วยังขยายไปยังเม็กซิโก
แคนาดา และยุโรป
แต่น่าพิศวงเพราะจนบัดนี้ก็ไม่มีคำตอบเลยว่าเด็กชายในกล่องคนนี้เป็นใคร?
ส่วนฝ่ายสื่อมวลชนก็มีการลงภาพเด็กผู้ตายลงสื่อต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรืออินเตอร์เน็ต โปสเตอร์ของเด็กชายในกล่อง
ที่ถูกถ่ายด้านหน้า ด้านซ้ายและด้านขวา รูปผ้าลายสก็อตและหมวกเด็ก
พร้อมปริ้นข้อมูลรายละเอียดต่างๆ แปะไปทั่วสถานที่ทุกแห่งในฟิลาเดลเฟีย
ไม่ว่าจะเป็นที่ทำการไปรษณีย์ ร้านเหล้า และหน่วยงานตำรวจทั่วประเทศ
แต่ก็ไม่มีใครที่แสดงตัวเป็นเด็กชายคนนี้เป็นใคร
จนมีบางคนถึงขนาดนำศพเด็กชายมาสวมใส่เสื้อผ้าเด็ก
และจัดวางท่านั่งเพื่อหวังว่ามันจะช่วยคนมีคนจำเด็กชายผู้ตายคนนี้ได้บ้าง
แต่ก็ยังคงดำมืดเหมือนเดิม…
และแน่นอนว่าคดีดังแบบนี้คงหนีไม่พ้นพวกอยากดัง หิวแสง
ที่ชอบมาอ้างว่าตนเป็นฆาตกร คดีนี้มีหลายคนที่พยายามจะให้ตำรวจเชื่อว่า
ตนเป็นฆาตกรฆ่าเด็กชาย หรือคนแสดงพ่อแม่ของเด็กก็มี
แต่ตำรวจมักปล่อยคนเหล่านี้ไปหลังจากตั้งคำถามไม่กี่คำถาม
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1955 บุตรชายของทหารอากาศ
ที่ประจำการอยู่ที่ มิทเชล แอร์ ฟอร์ซ เบส นิวยอร์ก ชื่อ สตีเวล เคร็ก ดัมมัน
อายุ 34 เดือน ได้หายตัวไปในขณะช็อปปิ้งกับแม่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต
ตอนแรกหลายฝ่ายเชื่อว่าเด็กชายในกล่องน่าจะเป็นคนเดียวกับสตีเฟ่น
เนื่องจากเขามีดวงตาสีฟ้าเหมือนกัน ทั้งสองมีรอยแผลเป็นเล็กๆ ใต้คางเหมือนกัน
และภาพเอ็กซ์เรย์พบรอยแตกหักเก่าที่แขนซ้ายเช่นเดียวกัน
ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้พวกเขาเชื่อว่าคดีนี้น่าจะปิดลงได้เสียที
แต่หลังจากที่เปรียบเทียบรอยเท้าของเด็กที่ตายแล้วไปให้กรมตำรวจที่นิวยอร์ก
ก็พบว่ามันไม่ตรงกับรอยเท้าของสตีเฟ่น ทำให้กรณีของสตีเฟ่นก็ไม่นำมาพูด
ในคดีเด็กชายในกล่องอีกเลย
จนกระทั้งในปี 2003 ก็มีการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับเด็กสองคนอีกครั้ง
ผลปรากฏว่าเด็กชายในกล่องไม่ใช้คนเดียวกับสตีเฟ่นแน่นอน
(ส่วนคดีการหายตัวของสตีเวล เคร็ก ดัมมันก็เป็นคดีที่ปิดไม่ได้เช่นกัน)
นอกจากยังมีการเชื่อมโยงหลายคดีที่หลายฝ่ายคาดว่าเกี่ยวข้องกับคดีเด็กชายในกล่อง
ไม่ว่าจะเป็น คดีเด็กหาย ฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าเฉพาะเด็ก คดีทารุณเด็ก
แต่ผลสุดท้ายก็ไม่มีคดีไหนเกี่ยวข้องกับคดีเด็กชายในกล่องแม้แต่น้อย
ศพของเด็กถูกฝังในสุสานพอตเตอร์ฟิลด์พร้อมกับโลงเล็กสีขาว
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 1957ซึ่งศพของเด็กอยู่ในชื่อของบุตรชาย
ของนักสืบเจ้าของคดีนี้ โดยที่หน้าป้ายจารึกหลุมศพมีคำจารึกว่า
"Heavenly Father, Bless This Unknown Boy."
ในช่วงปี 1967 มีการนำศพเด็กชายขึ้น หลายฝ่ายพยายามเอาเทคโนโลยี
การสืบสวนสมัยใหม่มาใช้ในการไขคดีนี้ให้กระจ่าง
โดยตรวจ ดีเอ็นเอ เพื่อเชื่อมโยงหาประวัติเด็กชายในฐานข้อมูล
แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด
ว่าเด็กชายคนนี้คือใครกันแน่ และทำไมเขาต้องถูกฆ่า??
เนื่องจากตอนตรวจสอบดีเอ็นเอของเด็กชายในกล่องนั้น
เนื้อเยื่อส่วนใหญ่เสื่อมสภาพไม่สามารถตรวจสอบได้
ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาคือการสกัดดีเอ็นเอจากฟันเช่นเดียวกับคดีฆาตกรรมอื่นๆ
หลายฝ่ายพยายามหาทฤษฏี ข้อสันนิษฐานต่างๆเพื่อเชื่อมโยงในการแก้คดีนี้
โดยคดีเด็กชายในกล่องได้ถูกตั้งข้อสันนิษฐานสองประการคือ...
มีต่อในคอมเม้นคะ..^^
ศพเด็กปริศนาในกล่อง ลึกลับกว่า 4ทศวรรษ l บันทึกลึกลับ
🛑 การตายของเด็กชายลึกลับในคดีเป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้าหรือการฆ่าที่โหดร้ายโดยเจตนากันแน่?
🛑 ทำไมถึงไม่มีใครเลยที่มาแสดงตัวเป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็กผู้ตาย?
🛑 หนึ่งคดีที่ลึกลับที่สุดในแฟ้มอาชญากรรมในประเทศสหรัฐอเมริกา ในศตวรรษที่ยี่สิบ
"America's Unknown Child" หรือ "The Fox Chase Boy
เป็นคดีสยองลึกๆ ที่ยังคงเป็นปริศนาจนถึงปัจจุบัน
ด้วยคำถามที่ว่า การตายของเด็กชายลึกลับในคดีดังกล่าว
เป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้าหรือการฆ่าที่โหดร้ายโดยเจตนากันแน่?
ในปี 1957 ณ ถนน Susquehanna ถนนแคบๆ
ที่พบกระจัดกระจายทั่วไปในใน Fox Chase ทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ของฟิลาเดลเฟีย ในตอนนั้นถนนแห่งนี้ยังไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์
อย่างมากก็มีเสาไฟฟ้า ทำให้สองข้างทาง
เต็มไปด้วยป่ารกเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เล็กจำพวกกระต่าย
หรือหนูจึงจะเป็นที่นิยมของคนในแถบนั้นที่นิยมมาล่าสัตว์เป็นงานอดิเรก
นอกจากนั้นยังเป็นที่ทิ้งขยะอีกส่งผลทำให้บรรยากาศที่แห่งนี้
ค่อนข้างจะรกร้างและวังเวงจึงไม่แปลกอะไรที่จะมีใครสักคน
ที่จะเอาศพมนุษย์ไปทิ้งบริเวณพื้นที่แห่งนี้
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 1957 เวลา 15:15 น. เฟรเดอริก เจ. เบโนนิค
นักเรียนจากมหาลัยอายุ 26 ปี ได้ขับรถตามถนนทางทิศตะวันตก
เขาได้เห็นกระต่ายกระโดดออกจากพุ่มไม้เขาคิดว่าจะหยุดรถเพื่อไล่ล่ามัน
ในขณะที่ออกนอกรถเขาก็วางที่ดักหนูมัสคแร็ต(หนูขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง)
ในป่าแถบนั้น ในตอนนั้นเองเขาได้เห็นกล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่
และเขาก็สะดุดสิ่งที่อยู่ยื่นออกมานอกกล่อง..
ตอนแรกเขาคิดว่าอาจเป็นตุ๊กตายาง แต่หากมองดีๆ แล้วกับเป็นศพเด็กของจริง
แต่ชายหนุ่มคนนั้นกลับไม่แจ้งตำรวจเพราะว่าการหาหนูมัสคแร็ตนั้นผิดกฎหมาย
จนกระทั้งเช้าวันถัดมา เวลาสิบโมง
เฟรเดอริกตัดสินใจโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบศพเด็กชายในกล่อง
เนื่องจากเขาได้ยินข่าวเด็กหญิงถูกลักพาตัวในนิวเจอร์ซีย์
เลยคิดว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวคือเด็กที่เขาเห็น
เมื่อตำรวจรับแจ้งความ ก็รีบรุดมาที่เกิดเหตุ
มีการพบศพเด็กชายลึกลับไม่ทราบชื่อชาวคอเคเซียน(ฝรั่งขาว)
อายุประมาณ 4 ถึง 6 ปี อยู่ในสภาพเปลือยกายห่อด้วยผ้าห่มเก่า
ลายสก็อตราคาถูก นอนหงายหน้าอยู่ในกล่องกระดาษขนาดใหญ่
ที่มองคร่าวๆ คิดว่าจะเป็นตุ๊กตาถูกทิ้งมากกว่าศพคนจริง
เนื่องจากกล่องและผ้าห่มปิดมิดทำให้มองเห็นไม่ถนัด
อีกทั้งสถานที่ทิ้งเป็นที่รกร้างและเป็นที่ทิ้งขยะข้างทาง
ร่างกายของเด็กแห้งและสะอาด แขนของเด็กถูกพับอย่างระมัดระวัง
เล็บมือและทรงผมถูกตัดสั้นและเรียบร้อยแม้ผมนั้นขาดแหว่งหายๆ
คาดว่ามีคนตัดฝีมือการตัดไม่ดีนักและน่าจะตัดในช่วงที่เขาตายแล้ว
เด็กมีส่วนสูงประมาณ 40 ½ นิ้ว หนักประมาณ 30 ปอนด์
มีตาสีฟ้าผิวขาวซีดคาดว่าน่าจะเป็นโรคขาดสารอาหาร
เด็กมีผมสีน้ำตาลอ่อนหรือผมสีบลอนด์และมันพึ่งได้รับการตัดเมื่อเร็วๆ นี้
เหมือนกับว่าเจตนาพยายามปกปิดตัวตนของเด็ก แต่เจ้าหน้าที่ก็เชื่อว่า
เด็กผู้ตายน่าจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีในครั้งที่มีชีวิตอยู่พอสมควร
ศพเด็กผู้ตายมีบาดแผลทั่วร่างโดยเฉพาะบนหัวและใบหน้า
ที่ดูรุนแรงมากที่สุด ส่งผลทำให้ใบหน้าของเด็กบอบซ้ำและบวม
คาดว่าจะแผลรุนแรงนี้เด็กคงเป็นสาเหตุทำให้เด็กเสียชีวิต
แต่ที่น่าพิศวงคือร่างกายของเด็กคนนั้นแห้งและสะอาด
มีรอยย่นหยาบที่ฝ่าเท้าที่บ้านเราเรียกว่า หญิงรับจ้างซักผ้า
แสดงให้เห็นว่าเด็กชายถูกแช่น้ำในระยะยาวนานก่อนหรือเสียชีวิต
ส่วนการชันสูตรระยะเวลาเสียชีวิตของเด็กนั้น
ระบุได้ยากเพราะว่าสภาพอากาศที่พบศพนั้นเย็นสบาย
ทำให้การระบุระยะการตายของเด็กเป็นไปได้หลายทางคือ
เด็กอาจจะตายมาแล้วสองหรือสามวัน หรือ สองหรือสามสัปดาห์ก็ได้
ด้วยสภาพศพของเด็กชายนั้นดูรู้เลยว่าน่าพิศวงและน่าเวทนา
ทำให้ตำรวจบางคนได้บรรยายในวันนั้นไว้ว่า
ผมเคยมีประสบการณ์ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สองมาก่อน
ผมเห็นคนจำนวนมากที่ถูกทำร้ายร่างกาย
แต่กรณีนี้ผมได้สัมผัสอะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่ตำรวจบางนายคิดว่าคดีนี้คงจะเป็นคดีธรรมดาที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร
เด็กผู้ตายน่าจะเป็นคนแถวๆ นี้และคดีคงจบเพียงไม่กี่เดือน
ปรากฏว่าหนึ่งเดือน สองเดือนผ่านไป สามเดือนผ่านไป
คดีเด็กชายลึกลับก็ไม่สามารถไขกระจ่างได้
และมันได้กลายเป็นคดีลึกลับคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาในที่สุด
สาเหตุที่ทำให้คดี เด็กชายในกล่องนี้ลึกลับ
นอกเหนือจากหลักฐานกายภาพที่ตำรวจพบจะไม่สามารถสาวที่มาของเด็ก
หรือไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีแล้วในด้านหลักฐานสำคัญของคดี
สิ่งแรกเลยคือกล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่(15x19x35)ที่เด็กชายถูกยัดนั้น
เป็นกล่องบรรจุผลิตภัณฑ์เปลเด็กทารกจาก JC Penney
ผลิตเมื่อวันที่ 11/25/56 และน่าจะถูกขายระหว่าง12/03/56 และ 02/16/57
ตัวกล่องค่อนข้างเปราะปรางในตอนพบศพเด็กในกล่องนั้นกล่องยังอยู่ในสภาพดี
แต่ก็ไม่สามารถสาวตัวผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ได้เนื่องจากไม่มีการระบุผู้ซื้อ
ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว กล่องถูกนำไปห้องแล็บเอฟบีไอเพื่อวิเคราะห์
ผลปรากฏว่าไม่พบรอบนิ้วมือที่น่าสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนผ้าห่มที่ใช้คลุมตัวเด็กชายนั้น ตัวผ้าทำมาจากผ้ากำมะหยี่สีจาง
จากผ้าฝ้ายเกรดต่ำราคาถูก ออกแบบลายสก็อตลายเพชรมีทั้งสีเขียว
น้ำตาล และสีขาว ผ้าห่มถูกซักทำให้สะอาดสะอ้าน
แต่บางส่วนของตัวผ้าก็หายไปจากการตรวจสอบที่มาของผ้า
พบว่ามาจากโรงงานทอผ้าสักแห่งในแคนนาดา แต่กระนั้นผ้าห่มนี้ไม่สามารถ
เจาะจงผู้ซื้อได้เพราะว่าผ้าห่มดังกล่าวได้รับการผลิตและส่งขายไปทั่วประเทศ
ใกล้ๆ พุ่มไม้ที่พบหมวกของเด็กชาย เจ้าหน้าที่พบหมวกลูกฟูกสีฟ้า
กับสายหนังและหัวเข็มจัดด้านหลัง ซึ่งน่าจะเป็นของเด็กชาย
หมวกดังกล่าวถูกส่งไปยังห้องแล็บเอฟบีไอในการวิเคราะห์ แต่ไม่พบอะไรที่สำคัญ
ต่อมามีการเพิ่มตำรวจหลายนายเข้ามาในพื้นที่แห่งนั้น
เพื่อตรวจสอบค้นหาหลักฐานที่น่าจะสาวตัวไปถึงเด็กชายในกล่องอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ซึ่งกินพื้นที่อาณาเขตจากพื้นที่พบศพถึง 12 กิโล พวกเขาค้นหาป่ารกร้าง
ไปจนถึงอาคารร้างและพื้นที่อาศัยบริเวณนั้นเกือบทุกจุด
แต่ไม่พบอะไรที่น่าสนใจ หลักฐานที่พอเก็บได้คงจะเป็นหลักฐานที่ตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ
ไม่ว่าจะ ผ้าเช็ดหน้าสีขาว, รองเท้าเด็กสีดำ, ผ้าพันคอของเด็ก
และผ้ากำมะหยี่สีเหลืองที่เป็นเสื้อของเด็กชายคนหนึ่ง
ซึ่งขนาดของเสื้อพบว่ามีขนาดพอดีกับศพเด็กผู้ตาย
แต่กระนั้นผลจากการตรวจสอบห้องปฏิบัติการทางเคมีของตำรวจก็ไม่พบอะไรเลย
จากการชันสูตรศพอย่างถี่ถ้วน พบว่าเด็กชายกระดูกไม่หัก
แต่มีกากน้ำตาลเข้มภายในหลอดอาหารซึ่งคาดว่าเด็กมีการอาเจียนก่อนตาย
ไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายทางเพศ ร่างกายมีบาดแผลเป็นคือแผลหน้าอกด้านซ้าย
ข้อเท้าและขาหนีบที่น่าจะเกิดการผ่าตัด
นอกนั้นเป็นแผลเป็นซึ่งเป็นแผลปกติที่พบในเด็กที่ชอบเล่นซน
จากข้อสันนิษฐานของผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายได้ระบุว่า..
เด็กชายคนนี้ได้รับอาหารน้อยและอาจมีการเข้าเฝือกก่อนหรือตาย
อายุของเขาน่าจะประมาณ 4 หรือ 5 ปี และชาติกำเนิดของเขา
น่าจะมาจากประเทศในตะวันตกเฉียงเหนือหรือตะวันตกกลางยุโรป
อาจเป็นสแกนดิเนเวีย เยอรมันตะวันตก อังกฤษ หรือสกอตแลนด์
สิ่งที่พิศวงไม่แพ้กันคือการหาชื่อจริงของเด็กชายในกล่อง
ซึ่งเจ้าหน้าที่ในฟิลาเดลเฟียพยายามหาข้อมูลของเด็กจากหลายๆ แหล่ง
ตอนแรกคาดว่าน่าจะเป็นเด็กที่ถูกลักพาตัวแล้วถูกนำมาฆ่า
ไม่ก็เด็กเป็นคนแถวนั้น แต่ปรากฏว่าสืบไปสืบมาก็มือแปดด้าน
เพราะไม่มีรายงานเด็กหาย ไม่มีใครระบุตัวตนของเด็กชาย
ข้อมูลหลักฐานที่จะระบุตัวตนของเด็กชายก็ไม่มี
ผลสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบก็จนปัญญากับคดีนี้ในที่สุด
เมื่อคดี เด็กชายในกล่องมืดแปดด้าน หลายฝ่ายก็เริ่มให้ความสนใจ
ที่จะเข้ามาช่วยกันพยายามไขปริศนาว่าศพเด็กชายในกล่องผู้ลึกลับคนนี้คือใครกันแน่
ไม่ว่าจะเป็น เอฟบีไอสมาคมแพทย์อเมริกัน สื่อมวลชนทั้งในและนอกประเทศ
และรวมไปถึง Vidocq Society องค์กรที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมสาขาต่างๆ
เด็กชายในกล่องมี รอยนิ้วมือรอยนิ้วเท้า นอกจากนี้ยังรอยแผลเป็นของเด็ก
ซึ่งน่าจะมีประวัติการรักษาพยาบาลที่ไหนบ้าง
นอกจากนี้จากการใช้แสงอุลตร้าไวโอเลตส่องที่ตาซ้าย
พบว่าเด็กน่าจะมีการรักษาโรคตาเรื้อรัง ข้อมูลของเด็กชาย
ถูกส่งไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ แล้วยังขยายไปยังเม็กซิโก
แคนาดา และยุโรป
แต่น่าพิศวงเพราะจนบัดนี้ก็ไม่มีคำตอบเลยว่าเด็กชายในกล่องคนนี้เป็นใคร?
ส่วนฝ่ายสื่อมวลชนก็มีการลงภาพเด็กผู้ตายลงสื่อต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรืออินเตอร์เน็ต โปสเตอร์ของเด็กชายในกล่อง
ที่ถูกถ่ายด้านหน้า ด้านซ้ายและด้านขวา รูปผ้าลายสก็อตและหมวกเด็ก
พร้อมปริ้นข้อมูลรายละเอียดต่างๆ แปะไปทั่วสถานที่ทุกแห่งในฟิลาเดลเฟีย
ไม่ว่าจะเป็นที่ทำการไปรษณีย์ ร้านเหล้า และหน่วยงานตำรวจทั่วประเทศ
แต่ก็ไม่มีใครที่แสดงตัวเป็นเด็กชายคนนี้เป็นใคร
จนมีบางคนถึงขนาดนำศพเด็กชายมาสวมใส่เสื้อผ้าเด็ก
และจัดวางท่านั่งเพื่อหวังว่ามันจะช่วยคนมีคนจำเด็กชายผู้ตายคนนี้ได้บ้าง
แต่ก็ยังคงดำมืดเหมือนเดิม…
และแน่นอนว่าคดีดังแบบนี้คงหนีไม่พ้นพวกอยากดัง หิวแสง
ที่ชอบมาอ้างว่าตนเป็นฆาตกร คดีนี้มีหลายคนที่พยายามจะให้ตำรวจเชื่อว่า
ตนเป็นฆาตกรฆ่าเด็กชาย หรือคนแสดงพ่อแม่ของเด็กก็มี
แต่ตำรวจมักปล่อยคนเหล่านี้ไปหลังจากตั้งคำถามไม่กี่คำถาม
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1955 บุตรชายของทหารอากาศ
ที่ประจำการอยู่ที่ มิทเชล แอร์ ฟอร์ซ เบส นิวยอร์ก ชื่อ สตีเวล เคร็ก ดัมมัน
อายุ 34 เดือน ได้หายตัวไปในขณะช็อปปิ้งกับแม่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต
ตอนแรกหลายฝ่ายเชื่อว่าเด็กชายในกล่องน่าจะเป็นคนเดียวกับสตีเฟ่น
เนื่องจากเขามีดวงตาสีฟ้าเหมือนกัน ทั้งสองมีรอยแผลเป็นเล็กๆ ใต้คางเหมือนกัน
และภาพเอ็กซ์เรย์พบรอยแตกหักเก่าที่แขนซ้ายเช่นเดียวกัน
ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้พวกเขาเชื่อว่าคดีนี้น่าจะปิดลงได้เสียที
แต่หลังจากที่เปรียบเทียบรอยเท้าของเด็กที่ตายแล้วไปให้กรมตำรวจที่นิวยอร์ก
ก็พบว่ามันไม่ตรงกับรอยเท้าของสตีเฟ่น ทำให้กรณีของสตีเฟ่นก็ไม่นำมาพูด
ในคดีเด็กชายในกล่องอีกเลย
จนกระทั้งในปี 2003 ก็มีการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับเด็กสองคนอีกครั้ง
ผลปรากฏว่าเด็กชายในกล่องไม่ใช้คนเดียวกับสตีเฟ่นแน่นอน
(ส่วนคดีการหายตัวของสตีเวล เคร็ก ดัมมันก็เป็นคดีที่ปิดไม่ได้เช่นกัน)
นอกจากยังมีการเชื่อมโยงหลายคดีที่หลายฝ่ายคาดว่าเกี่ยวข้องกับคดีเด็กชายในกล่อง
ไม่ว่าจะเป็น คดีเด็กหาย ฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าเฉพาะเด็ก คดีทารุณเด็ก
แต่ผลสุดท้ายก็ไม่มีคดีไหนเกี่ยวข้องกับคดีเด็กชายในกล่องแม้แต่น้อย
ศพของเด็กถูกฝังในสุสานพอตเตอร์ฟิลด์พร้อมกับโลงเล็กสีขาว
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 1957ซึ่งศพของเด็กอยู่ในชื่อของบุตรชาย
ของนักสืบเจ้าของคดีนี้ โดยที่หน้าป้ายจารึกหลุมศพมีคำจารึกว่า
"Heavenly Father, Bless This Unknown Boy."
ในช่วงปี 1967 มีการนำศพเด็กชายขึ้น หลายฝ่ายพยายามเอาเทคโนโลยี
การสืบสวนสมัยใหม่มาใช้ในการไขคดีนี้ให้กระจ่าง
โดยตรวจ ดีเอ็นเอ เพื่อเชื่อมโยงหาประวัติเด็กชายในฐานข้อมูล
แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด
ว่าเด็กชายคนนี้คือใครกันแน่ และทำไมเขาต้องถูกฆ่า??
เนื่องจากตอนตรวจสอบดีเอ็นเอของเด็กชายในกล่องนั้น
เนื้อเยื่อส่วนใหญ่เสื่อมสภาพไม่สามารถตรวจสอบได้
ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาคือการสกัดดีเอ็นเอจากฟันเช่นเดียวกับคดีฆาตกรรมอื่นๆ
หลายฝ่ายพยายามหาทฤษฏี ข้อสันนิษฐานต่างๆเพื่อเชื่อมโยงในการแก้คดีนี้
โดยคดีเด็กชายในกล่องได้ถูกตั้งข้อสันนิษฐานสองประการคือ...
มีต่อในคอมเม้นคะ..^^