เท่าที่เห็นการวางแผนการเล่นของแมนซิตี้ที่ทำประตูได้เยอะและส่วนใหญ่มาจากลูก open play ด้วย
ผมเห็นดังนี้ครับ
1.การโจมตีไม่ว่าจากด้านซ้ายหรือด้านขวาแมนซิตี้จะมี 2 คนเสมอ ซึ่งทั้งสองคนทำได้เหมือนกันคือสามารถเปิดเข้าในก็ได้หรือล็อกเข้ามายิงก็ได้
ฝั่งซ้ายมีสเตอริ่งกับโฟเด้น ฝั่งขวาขวาจะมีแบร์นาร์โด้ ซิลวากับมาเรช
2.เมื่อบุกจะใส่ตัวรุกเข้าไปตรงกลาง 2 คนเสมอ เมื่อรวมกับอีก 2 คนทางด้านตรงข้ามก็จะมี ตัวรุกอยู่ในกรอบ 18 หลาของคู่แข่งถึง 6 คน
ส่วนลิเวอร์พูลจะมีแค่ฝั่งละ 1 คน (ที่เปิดบอลและล็อกเข้ามายิงได้เอง) คือซ้ายมีมาเน่ ขวามีซาล่าห์ อีกคนคือซัพพอร์ตเท่านั้น(เอาไว้ช่วยเปิดแต่ไม่สามารถทำเหมือนกันได้คือล็อกเข้ามายิงแบบอีกคนนึง) ผมเลยเรียกว่า support
การได้ประตูของลิเวอร์พูล จึงได้มาจากลูกตั้งเตะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนลูก open play ที่ได้ก็มักจะเป็นลูกโต้กลับ เวลาที่เจอทีมอุดจึงไม่สามารถทำประตูคู่แข่งได้ดีเท่าแมนซิตี้
ลิเวอร์พูลเมื่อคืนที่ผมเห็น
1.ฝั่งซ้ายมีมาเน่กับโรเบิร์ตสันที่ทำเกมบุกได้ไหลลื่นกว่าฝั่งขวา (แต่ไม่ดีเท่าแมนซิตี้ จากเหตุผลที่บอกคือมีแค่ 1 กับ support)
2.ฝั่งขวาซาล่าห์ถูกประกบติด ช่วงแรกที่มีแอนเดอร์สันก็ยังพอมีตัว support แต่พอเปลี่ยนกัปตันออกก็อย่างที่เห็นซาล่าห์ถูกโดดเดี่ยว
3.เทร้นต์ไม่กล้าเติมสูงเพราะกลัวโดนเบิร์นลี่โต้กลับ เมื่อคืน 3 เหลี่ยมฝั่งขวา(เทร้นต์,กัปตัน,ซาล่าห์)ที่เคยเป็นจุดแข็งจึงลดประสิทธิภาพลงไป
4.เวลาเกมบุกตรงกลางไม่มีเติมเข้าไปในพื้นที่ 18 หลา คือจะยืนต่ำกว่าแมนซิตี้ เรียกว่าไม่กล้าเติมเข้าไปมาก จะรอเก็บบอลจังหวะ 2 เพื่อป้องกันการโต้กลับมากกว่า(เน้นครองบอลแต่ไม่เน้นเสี่ยงเข้าไปทำประตู)
5.จะเติมคนเข้าไปเยอะๆ เมื่อได้ลูกตั้งเตะเท่านั้น ด้วยแผนการเล่นที่รัดกุมเน้นโจมตีเร็ว จากปีก 2 ข้าง(มาเน่และซาล่าห์)
ปล.เมื่อคืนมาเน่ก็เล่นไม่เป็นธรรมชาติ(ของตัวเอง) เหมือนอยากจะปลอบใจเพื่อนโม ส่งให้บ่อยมากบางลูกเลี้ยงจี้เข้าไปก่อนก็ได้ แต่ดูเหมือนพยายามส่งให้โม(เพื่อสร้างความมั่นในหรืออย่างไร) ส่งไปก็โดนตัดได้ตลอด ผมเลยเห็นว่ามาเน่เล่นผิดฟอร์มของตัวเองไปหน่อย...555
ปล.2 แมนซิตี้ใช้แรงเยอะคือผู้เล่นเน้นขึ้นเร็วลงเร็ว เติมเยอะเมื่อบุกลงเยอะเมื่อรับ ใช้แรงเพรสบางจังหวะเท่านั้น
ส่วนลิเวอร์พูลใช้แรงเยอะเพื่อเพรสเอาบอลมาครองให้ได้ ส่วนเกมบุกไม่เติมสูงเพราะกลัวลงมารับไม่ทัน
ตรงนี้ก็คือจุดเน้นการใช้พลังงานที่แตกต่างกันอีกข้อนึงของทั้งสองทีมครับ
แผนการเล่นที่แตกต่างกันระหว่างแมนซิตี้กับลิเวอร์พูล
ผมเห็นดังนี้ครับ
1.การโจมตีไม่ว่าจากด้านซ้ายหรือด้านขวาแมนซิตี้จะมี 2 คนเสมอ ซึ่งทั้งสองคนทำได้เหมือนกันคือสามารถเปิดเข้าในก็ได้หรือล็อกเข้ามายิงก็ได้
ฝั่งซ้ายมีสเตอริ่งกับโฟเด้น ฝั่งขวาขวาจะมีแบร์นาร์โด้ ซิลวากับมาเรช
2.เมื่อบุกจะใส่ตัวรุกเข้าไปตรงกลาง 2 คนเสมอ เมื่อรวมกับอีก 2 คนทางด้านตรงข้ามก็จะมี ตัวรุกอยู่ในกรอบ 18 หลาของคู่แข่งถึง 6 คน
ส่วนลิเวอร์พูลจะมีแค่ฝั่งละ 1 คน (ที่เปิดบอลและล็อกเข้ามายิงได้เอง) คือซ้ายมีมาเน่ ขวามีซาล่าห์ อีกคนคือซัพพอร์ตเท่านั้น(เอาไว้ช่วยเปิดแต่ไม่สามารถทำเหมือนกันได้คือล็อกเข้ามายิงแบบอีกคนนึง) ผมเลยเรียกว่า support
การได้ประตูของลิเวอร์พูล จึงได้มาจากลูกตั้งเตะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนลูก open play ที่ได้ก็มักจะเป็นลูกโต้กลับ เวลาที่เจอทีมอุดจึงไม่สามารถทำประตูคู่แข่งได้ดีเท่าแมนซิตี้
ลิเวอร์พูลเมื่อคืนที่ผมเห็น
1.ฝั่งซ้ายมีมาเน่กับโรเบิร์ตสันที่ทำเกมบุกได้ไหลลื่นกว่าฝั่งขวา (แต่ไม่ดีเท่าแมนซิตี้ จากเหตุผลที่บอกคือมีแค่ 1 กับ support)
2.ฝั่งขวาซาล่าห์ถูกประกบติด ช่วงแรกที่มีแอนเดอร์สันก็ยังพอมีตัว support แต่พอเปลี่ยนกัปตันออกก็อย่างที่เห็นซาล่าห์ถูกโดดเดี่ยว
3.เทร้นต์ไม่กล้าเติมสูงเพราะกลัวโดนเบิร์นลี่โต้กลับ เมื่อคืน 3 เหลี่ยมฝั่งขวา(เทร้นต์,กัปตัน,ซาล่าห์)ที่เคยเป็นจุดแข็งจึงลดประสิทธิภาพลงไป
4.เวลาเกมบุกตรงกลางไม่มีเติมเข้าไปในพื้นที่ 18 หลา คือจะยืนต่ำกว่าแมนซิตี้ เรียกว่าไม่กล้าเติมเข้าไปมาก จะรอเก็บบอลจังหวะ 2 เพื่อป้องกันการโต้กลับมากกว่า(เน้นครองบอลแต่ไม่เน้นเสี่ยงเข้าไปทำประตู)
5.จะเติมคนเข้าไปเยอะๆ เมื่อได้ลูกตั้งเตะเท่านั้น ด้วยแผนการเล่นที่รัดกุมเน้นโจมตีเร็ว จากปีก 2 ข้าง(มาเน่และซาล่าห์)
ปล.เมื่อคืนมาเน่ก็เล่นไม่เป็นธรรมชาติ(ของตัวเอง) เหมือนอยากจะปลอบใจเพื่อนโม ส่งให้บ่อยมากบางลูกเลี้ยงจี้เข้าไปก่อนก็ได้ แต่ดูเหมือนพยายามส่งให้โม(เพื่อสร้างความมั่นในหรืออย่างไร) ส่งไปก็โดนตัดได้ตลอด ผมเลยเห็นว่ามาเน่เล่นผิดฟอร์มของตัวเองไปหน่อย...555
ปล.2 แมนซิตี้ใช้แรงเยอะคือผู้เล่นเน้นขึ้นเร็วลงเร็ว เติมเยอะเมื่อบุกลงเยอะเมื่อรับ ใช้แรงเพรสบางจังหวะเท่านั้น
ส่วนลิเวอร์พูลใช้แรงเยอะเพื่อเพรสเอาบอลมาครองให้ได้ ส่วนเกมบุกไม่เติมสูงเพราะกลัวลงมารับไม่ทัน
ตรงนี้ก็คือจุดเน้นการใช้พลังงานที่แตกต่างกันอีกข้อนึงของทั้งสองทีมครับ