สมกับการเป็นตอนที่ยอดเยี่ยมที่สุด สำหรับ Attack on Titan ตอนที่ 80 นี้ นอกจากจะเป็นการขยับเรื่องไปสู่องค์สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกขนลุกแล้วก็เซอร์ไพร์สสุดๆ คือการที่เนื้อหาในอดีตของยูมีร์ในตอนนี้ มันคือภาพของเพลงEnding 3 ของซีซั่น2 ที่เคยฉายก่อนหน้านี้ถึง 5 ปี (ตอนแรกของซีซั่นสองฉายเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2017) 

นี่คือการวางแผนเนื้อเรื่องที่เฉียบคมสุดๆ ซึ่งในเวลานั้นตัวมังงะเองก็ยังไม่เผยเรื่องราวในอดีตของยูมีร์ทั้งหมดด้วยซ้ำ ในตอนนี้เมื่อย้อนกลับไปดูทุกอย่างมันลงล็อคพอดิบพอดี สามารถเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว (ไม่แน่ว่าอ.อิซายามะอาจจะมีพลังแบบเอเรนจริงๆก็ได้ ฮ่าๆ)


ภาพนี้คือตอนต้นของตอนที่80 ที่จริงแล้วเหตุการณ์ที่ฟรีด้ามาเล่นกับคริสต้าตอนเด็กเคยถูกเล่ามาแล้วครั้งหนึ่ง ในตอนที่43 เป็นช่วงที่เอเรนถูกจับตัวไปให้คริสต้ากินเพื่อนำพลังไททันบรรพบุรุษกลับคืนมา (ส่วนตัวผมชอบคริสต้าลายเส้นของWit มากกว่านะ ดูสดใสน่ารักดี)


อดีตของยูมีร์ถูกเล่าโดยใช้สีซีเปียเป็นหลัก ซึ่งเผยทั้งชีวิตที่น่าเศร้าและต้นกำเนิดของไททันตัวแรก งานภาพก็สวยใช้ได้เลย มีการคุมโทนสีสม่ำเสมอ


ตอนที่ยูมีร์ตกลงไปในโพรงไม้ ตรงนี้ผมคิดว่ามันคล้ายกับการโดนไททันกินเลย ภาพซ้ายบนคล้ายกับการตกลงไปในหลอดอาหารแล้วก็น้ำก็คือน้ำย่อยในกระเพาะ


แม้จะได้รับพลังไททันมาแล้ว แต่ยูมีร์ก็ยังเป็นทาสอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง (ทั้งๆที่พลังที่เธอมีสามารถครองโลกนี้ได้ด้วยซ้ำ) ซึ่งมีคนเคยวิเคราะห์ตามหลักจิตวิทยาไว้ว่า ยูมีร์ถูกปลูกฝังความเป็นทาสตั้งแต่เด็ก ทำให้แม้มีพลังที่จะปลดปล่อยตัวเองได้ก็ไม่สามารถทำได้ เหมือนการทดลองในแม่ไก่ที่ถูกขังอยู่ในกรง เมื่อมันชินอยู่กับการถูกขัง แม้จะเปิดประตูกรงออกมันก็จะไม่เดินออกมาเอง (แต่หลายคนก็บอกว่าเพราะยูมีร์หลงรักกษัตริย์คาร์ล ตรงนี้ในอนิเมะไม่ได้บอกไว้) ยูมีร์จึงเลือกปลดปล่อยตัวเองโดยใช้ความตาย แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้อยู่ดี


ใบหน้าลูกสาวทั้งสามคนของยูมีร์ ที่เคยเห็นแต่ในภาพของเพลงปิดที่3 แล้วก็เป็นชื่อของกำแพงทั้งสามชั้นของเอลเดียด้วย (มาเรีย โรเซ่ ซีน่า) ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นตอนที่สะเทือนอารมณ์จริงๆ 


ในโลกแห่งสายธารก็คุมโทนสวย ใช้สีดำฟ้าขาว แม้จะสว่างแต่ก็ไม่สดใส ออกอารมณ์หม่นๆ เศร้าๆ ผมก็เพิ่งสังเกตว่าแสงด้านหลังคือสาแหลกที่แยกออกไปตามการสืบทอดพลังไททันของยูมีร์ ภาพแรกจะเห็นว่าแยกออกเป็นสามแฉก (ตอนลูกๆกิน) แต่พอนานวันเข้าก็แยกออกมามากมาย แล้วก็ดวงตาของยูมีร์ที่รอเวลานี้มาตลอด เวลาที่มีใครสักคนมาปลดปล่อยเธอ(มิคาสะมาเห็นคงไม่รอดแน่ ฮ่าๆ)


โทนสีช่วงหลังจากที่เอเรนทำ "พิภพคำราม" ก็สวยไม่แพ้กัน ดูสิ้นหวังแล้วก็มืดมน เหนือท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันจากการเหยียบย่ำของไททัน แล้วก็ความน่าสะพรึงกลัวของไททันบรรพบุรษที่กลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้วในเวลานี้


เป็นช่วงที่กลายเป็นมีมเยอะที่สุด แต่ก็น่าขนลุกนะ อยู่ดีๆมีคนพูดเข้ามาในหัว แล้วรูปสุดท้ายท่านอนของฟัลโก้นี่มันคุ้นๆแปลกๆ 


โฉมหน้าของเอเรน (ไม่ต้องเรียกว่าเอเรนแล้วมั้ง ไม่เหลือเค้าเดิมแล้ว ขนาดได้รางวัลยังได้รางวัลตัวร้ายยอดเยี่ยม เอาเข้าไป ฮ่าๆๆ)

  ต้องบอกว่าตอนนี้จุดพีคอยู่ตรงการที่มันไปเชื่อมกับตัวED3 ตามที่บอกไป มันน่าเหลือเชื่อแล้วก็น่าค้นหาเอามากๆ ตอนนั้นเรายังไม่มีข้อมูลอะไรมากมาย แต่ก็พอรู้แหละว่ามันต้องเป็นเรื่องราวในอดีตของการกำเนิดไททัน แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่ามันคือจุดใหญ่ของเรื่อง ไม่ใช่แค่อดีตห่างเหิน ตัวละครในตอนนั้นยังคงมีพลังจนถึงวันนี้(ยูมีร์) ผมคาราวะ อ.อิซายามะ จากใจเลย 
  แล้วก็เหตุการณ์ "พิภพคำราม" ผมว่ามันไม่ค่อยเซอร์ไพร์ส สาเหตุแรกเกิดจากการที่มันถูกนำมาใส่ในเพลงเปิดนั่นแหละ เห็นก็รู้แล้วว่ายังไงๆมันก็ต้องเกิดขึ้น สองหลายๆอย่างผมก็โดนสปอยมาเหมือนกัน เลยไม่ค่อยลุ้นเท่าไหร่ (ในTwitter นี่ตัวดีเลย)

ฝากเพจด้วยครับ Story Decoder ช่วงนี้อัพบ่อยแล้ว (จริงหรอ)