
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมได้มีโอกาสในการทดสอบประสิทธิภาพของแรม FURY Beast DDR5 ตัวใหม่ล่าสุด และ FURY Renegade SSD จากแบรนด์Kingston ที่ชาวเกมเมอร์และผู้ใช้PCน่าจะคุ้นเคย ในกระทู้นี้เลยจะมารีวิวประสบการณ์ที่ได้ทดลองว่าใช้งานจริงเป็นอย่างไร จะแรงขนาดไหน มาเริ่มการรีวิวกันเลยดีกว่า!
อย่างแรกมาทำความรู้จักแรมDDR5 ก่อน ว่าดีกว่าแรมDDR4 อย่างไร
จากที่มีข่าวลือของแรมDDR5กันอย่างหนาหูมาตลอดหลายปี เมื่อปลายปี2021ได้มีการเปิดตัวของCPU Intel เจนเนอเรชั่นที่12 ที่มาพร้อมกับการรองรับแรมDDR5 ซึ่งจะมาเป็นแรมมาตรฐานใหม่ในปัจจุบัน โดยแรมDDR5จะมีจุดเด่นหลักๆดังนี้
• ความเร็วที่มากกว่า เนื่องจากได้มีการพัฒนาให้มีแบนด์วิดท์ และburst lengthที่สูงกว่าDDR4 ทำให้อ่าน/เขียนข้อมูลได้ไวขึ้น
• ใช้แรงดันไฟที่ต่ำ โดยDDR5ใช้แรงดันไฟเพียงแค่ 1.1Volt ในการทำงาน ในขณะที่DDR4ต้องการแรงดันไฟที่ 1.2Volt
• สามารถOverclock ได้เสถียรยิ่งขึ้น เพราะมีชิปPMIC (Power Management IC) ติดตั้งอยู่บนแรม จากเดิมที่จะติดตั้งอยู่บนเมนบอร์ด ทำให้มีสัญญาณรบกวนที่น้อยกว่า
• ความจุสูงสุดเยอะกว่าเดิม โดยมีความจุสูงสุดถึง128 GB ต่อหนึ่งแถวสล็อต ซึ่งช่วยให้ประมวลผลได้ไวขึ้น
เมื่อทราบว่าDDR5ดีอย่างไรแล้ว ทุกคนก็น่าจะเริ่มอยากเห็นตัวจริงกันแล้ว เรามาเริ่มจากแกะกล่องแรมKingston FURY Beast DDR5กันเลยดีกว่า



Specification
สำหรับสเปคของ PC Test Bench ที่ใช้ทดสอบในการรีวิวครั้งนี้ประกอบไปด้วย
• Kingston FURY Beast DDR5 Memory
• Kingston FURY Renegade SSD
• MSI MAG Z690 TOMAHAWK WIFI Motherboard
• Intel core i9-12900K
• Nvidia Geforce RTX3060
ตัวแรมทั้งคู่จะบรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกใส คาดด้วยฉลากสติกเกอร์คำว่าFURYอย่างชัดเจน
แกะออกมาจะพบกับแรมDDR5 ความจุ32GB บัส5200MHz พระเอกตัวแรกของเรา
ตามมาด้วยคู่มือการใช้งานและสติกเกอร์“FURY” สีดำตัดแดงไว้ติดที่เคส ว่าคอมเราเนี่ยใช้Kingston FURYนะ!
Design
ดีไซน์ในส่วนของแรมKingston FURY Beast DDR5 จะมาในลักษณะที่ใช้ซิ้งค์กระจายความร้อนที่มีการเล่นลวดลายอย่างมีมิติ พร้อมกับสกรีนคำว่าBeastอยู่ตรงกลางและDDR5ทางด้านขวาบนของแรมให้เห็นอย่างชัดเจน
ส่วนข้อความคำว่าFURYเป็นแบบนูนสีเงินปัดเงาตัดกับตัวบอดี้สีดำ ให้ความรู้สึกที่ดูดุดัน ทนทาน
ในอนาคตอาจจะมีการเพิ่มแถบไฟRGBด้านบนเพื่อความสวยงาม แบบเดียวกับในFURY Beast RGB DDR4 อันนี้ก็ต้องมารอชมกัน
Performance
ผมเลือกใช้โปรแกรมCPU-ZและAIDA64ควบคู่กันในการทดสอบประสิทธิภาพระหว่างDDR4และDDR5
เพื่อให้เห็นข้อแตกต่างกันอย่างชัดๆกันไปเลยว่า Kingston Fury Beast DDR5 จะแรงขนาดไหน
โดยแรมDDR4 ที่ใช้ในการทดสอบก็เป็นแบรนด์Kingstonเช่นเดียวกัน แต่มีความจุเพียง 16GB Bus 2,666 MHz

ผลก็เป็นดั่งภาพเลยครับ สังเกตได้ว่าที่ค่าเริ่มต้น Bus 5,200MHz CL40-40-40 แรงดันไฟ 1.25V (เปิดXMP)
ความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูล อยู่ที่ประมาณ 79,000/73,000 MB/s ซึ่งมากกว่าแรมDDR4เกินเท่าตัวเลย
แถมยังใช้ความจุไฟที่เท่ากับแรมDDR4อีกด้วย บอกได้เลยว่าทั้งแรงและประหยัดเอาเรื่อง
ซึ่งแค่นี้ก็เหลือๆแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นเกม หรืองานกราฟฟิกและเรนเดอร์3D
ในส่วนของการเล่นเกมจะทดสอบด้วยเกมยอดนิยมอย่าง PUBG: BATTLEGROUNDS และเกม F1 2021
โดยใช้โปรแกรมMSI Afterburner ในการดูผลFPSระหว่างเล่น
และจะทดลองการเรนเดอร์ภาพ 3มิติ ความละเอียดระดับ 4K ด้วยซอฟแวร์ Blender
ในการทดสอบผมจะยังไม่ทำการOverclock ใดๆเพื่อให้ได้เห็นถึงประสิทธิภาพแบบดิบๆกันไปเลย
การเล่นเกม PUBG: BATTLEGROUNDS โดยการปรับกราฟฟิกแบบ Ultra (1920x1080)
ไม่ว่าจะตอนโดดร่มหรือจังหวะที่มีการประทะกันเฟรมเรตนั้นนิ่งมาก ไม่มีอาการกภาพกระตุกหรือค้างใดๆ
ซึ่งเฟรมเรตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100FPS และไปได้สูงสุดถึง 130+ FPS ในบางจังหวะ
เกมเมอร์ที่ชื่นชอบเกมแนวFPS และBattle Royale ต้องถูกใจแน่นอน
มาดูกันที่เกม F1 2021 ซึ่งเป็นเกมที่ค่อนข้างกินทรัพยากรมาก หากปรับกราฟฟิก Ultra High (2560x1440)
แต่น่าทึ่งมากที่เฟรมเรตวิ่งอยู่ที่ประมาณ 110FPS และดันไปได้ถึง 140FPS ในบางสนาม
เล่นกันเพลินๆ ภาพสวย สมจริงเหมือนได้ขับเองสุดๆ ไม่มีอาการLag ให้กวนใจระหว่างเล่น
ต่อกันด้วยการทดสอบเวลาในการเรนเดอร์บนโปรแกรม Blender
โดยผมเรนเดอร์ภาพ3มิติ ไฟล์ขนาด 8 MB ความละเอียดระดับ4K
ใช้เวลาในการเรนเดอร์ไป4นาทีเท่านั้น! เร็วกว่าตอนใช้DDR4อีก ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย
และแรมยังมีส่วนช่วยในการประมวลผลข้อมูลต่างๆในขณะสร้างวัตถุ ให้ไวขึ้นและไม่ทำให้เกิดอาการค้างด้วย
เอาล่ะ มาถึงส่วนที่ต้องมาลุ้นกัน ว่าผมจะสามารถOverclockแรม FURY Beast DDR5ไปได้ถึงBus เท่าไหร่
เมนบอร์ดMSI MAG Z690 TOMAHAWK WIFI ที่ใช้ในครั้งนี้ก็มีทีเด็ดเหมือนกัน มาดูกันเลย
- การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็ว 2.5Gbps สำหรับการLAN และมาตรฐาน WiFi 6E
- Lightning Gen 5 PCI-E สำหรับการเชื่อมต่อของการ์ดจอ
- รองรับแรมDDR5 ที่Busสูงสุด 6400MHz (Overclock)
- ซิ้งค์ระบายความร้อน SHIELD FROZR สำหรับM.2 SSD ทั้ง4ช่อง
และไฮไลท์ของเมนบอร์ดตัวนี้คือ ฟีเจอร์สุดเจ๋งอย่าง “Memory Try It!” ที่ผมจะใช้ในการOverclock
ซึ่งจะทำการOverclock ปรับค่าProfileความหน่วง(CL) ของแรมให้อัตโนมัติ เพียงแค่เลือกBusที่ต้องการเท่านั้น
ลงมือเลย! เริ่มจากเปิดเครื่อง เข้าสู่หน้าBios เลือกเมนูOCทางด้านซ้ายและเลือกฟีเจอร์ “Memory Try It!”
ผมจะลองที่Bus 5,600MHz ไปเลย แล้วทำการsave and exit เพื่อทดสอบบูทเข้าWindowsดู
เกินคาด! สามารถOverclockไปBus 5,600 MHz CL42-42-42 แรงดันไฟ 1.25V ได้อย่างผ่านฉลุย ใช้งานได้ปกติ ไม่มีอาการจอฟ้าให้เห็น
ความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูล เพิ่มมาเป็น 82,000/76,000 MB/s กับค่าLatency เพียง 77.8 ns
แค่การ Overclock แบบง่ายๆ ก็สามารถรีดประสิทธิภาพของแรมตัวนี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
อย่างที่ได้เกริ่นไว้ เรายังเหลืออีก 1 เทพที่จะมาทดสอบกันต่อ นั่นก็คือ Kingston FURY Renegade SSD
เป็นSSD PCIe Gen 4.0 NVMe M.2 ขนาดความจุ 2TB ที่บรรจุมาในกล่องพลาสติกใสและฉลากกระดาษแข็ง
ที่มีคู่มือการใช้งานและการวิธีติดตั้งอยู่ด้านหลัง
Design
มีดีไซน์การออกแบบดำดุตามสไตล์ หากสังเกตดูดีๆจะไม่ใช่แค่การติดสติกเกอร์ FURY Renegade ธรรมดาๆ
แต่เป็นวัสดุกราฟีนอะลูมิเนียม ที่มีส่วนช่วยในการกระจายความร้อน ป้องกันจากความร้อนสะสมของSSD
Performance
Kingston FURY Renegade SSD ตัวนี้มีความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลสูงสุดถึง 7,300/7,000MB/s
โดยที่เมนบอร์ดต้องรองรับการเชื่อมต่อแบบความเร็วสูง PCIe 4.0 ขึ้นไปเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน
มีขนาดความจุให้เลือกด้วยกันถึง 4 ขนาด คือ 500GB, 1TB, 2,TB และสูงสุด 4TB
สามารถใช้ควบคู่กับซอฟแวร์ Kingston® SSD Manager ที่ช่วยให้ผู้ใช้ ตรวจความสมบูรณ์ สถานะ
อัพเดตเฟิร์มแวร์ เช็คสุขภาพ จัดการข้อมูล และดูข้อมูลSerial NumberประจำSSD
แอบบอกนิดนึงว่าSSDตัวนี้เนี่ยรองรับการติดตั้งบน Sony PlayStation 5 เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้ด้วยนะ
จากการทดสอบผ่านโปรแกรม CrystalDiskMark ในการหาประสิทธิภาพความเร็วในการอ่าน/เขียน
FURY Renegade SSD ตัวนี้สามารถทำได้ที่ประมาณ 7,000/6,800 MB/s ซึ่งใกล้เคียงกับสเป็คที่แบรนด์ระบุไว้
เร็วแรงไม่ผิดหวัง จะโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ก็สบายๆเลย (เร็วกว่าการใช้HDDแบบจานหมุนมากกว่า 40เท่า)
อุณหภูมิขณะIdleอยู่ที่เฉลี่ย 38°C องศา และอุณหภูมิขณะทดสอบขณะทำงาน100% อยู่ที่ 50-60°C องศา
การจัดการความร้อนก็ทำได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียว
สรุป
จากที่ได้ทดสอบKingston FURY Beast DDR5 + Kingston FURY Renegade SSD เป็นเวลา 2 สัปดาห์เต็มๆ
ผลการทดสอบทั้งหมดเป็นที่ประทับใจอย่างมาก บอกได้เลยว่า “สวยงาม ทนทาน คุ้มค่า ประสิทธิภาพสูง”
ผมคิดว่าเป็นชุดที่สามารถตอบโจทย์ในการใช้งานทุกด้านเลย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหนักๆ
หรือว่าจะเป็นการทำงานที่ต้องมีการประมวลผล ตัดต่อ ก็พร้อมที่จะลุยเสมอ เร็ว แรง ไม่มีตกแน่นอน
สำหรับคนที่มีแผนที่จะอัพเกรดคอมพิวเตอร์ ผมแนะนำเป็นKingston FURY Beast DDR5 ไปเลย
เพราะDDR5 ก็จะมาเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์แทนที่แรมDDR4
ส่วนในเรื่องของบริการหลังการขายก็สามารถวางใจได้เลยครับ
แบรนด์ Kingston มีความสำเร็จอันน่าทึ่งมาจากผลิตภัณฑ์หน่วยความจำด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในตลาดเกม
พร้อมที่จะรับประกันแบบLifetime กันไปยาวๆ สำหรับแรม Kingston FURY Beast DDR5
และรับประกันสูงสุดถึง 5 ปีพร้อมกับบริการทางเทคนิคฟรีสำหรับ Kingston FURY Renegade SSD
ใครที่มีความสนใจและต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ สามารถชมได้ที่นี่
• แรม Kingston FURY Beast DDR5 :
https://www.kingston.com/th/memory/gaming/kingston-fury-beast-ddr5-memory
• Kingston FURY Renegade SSD :
https://www.kingston.com/th/ssd/gaming/kingston-fury-renegade-nvme-m2-ssd
• เมนบอร์ด MSI MAG Z690 TOMAHAWK WIFI :
https://th.msi.com/Motherboard/MAG-Z690-TOMAHAWK-WIFI
#KingstonFURY #ศึกชิงคู่เทพByKingston
[SR] รีวิวคู่เทพ Kingston FURY Beast DDR5 & Kingston FURY Renegade SSD ขุมพลังแห่งความเร็วรุ่นใหม่!!
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมได้มีโอกาสในการทดสอบประสิทธิภาพของแรม FURY Beast DDR5 ตัวใหม่ล่าสุด และ FURY Renegade SSD จากแบรนด์Kingston ที่ชาวเกมเมอร์และผู้ใช้PCน่าจะคุ้นเคย ในกระทู้นี้เลยจะมารีวิวประสบการณ์ที่ได้ทดลองว่าใช้งานจริงเป็นอย่างไร จะแรงขนาดไหน มาเริ่มการรีวิวกันเลยดีกว่า!
อย่างแรกมาทำความรู้จักแรมDDR5 ก่อน ว่าดีกว่าแรมDDR4 อย่างไร
จากที่มีข่าวลือของแรมDDR5กันอย่างหนาหูมาตลอดหลายปี เมื่อปลายปี2021ได้มีการเปิดตัวของCPU Intel เจนเนอเรชั่นที่12 ที่มาพร้อมกับการรองรับแรมDDR5 ซึ่งจะมาเป็นแรมมาตรฐานใหม่ในปัจจุบัน โดยแรมDDR5จะมีจุดเด่นหลักๆดังนี้
• ความเร็วที่มากกว่า เนื่องจากได้มีการพัฒนาให้มีแบนด์วิดท์ และburst lengthที่สูงกว่าDDR4 ทำให้อ่าน/เขียนข้อมูลได้ไวขึ้น
• ใช้แรงดันไฟที่ต่ำ โดยDDR5ใช้แรงดันไฟเพียงแค่ 1.1Volt ในการทำงาน ในขณะที่DDR4ต้องการแรงดันไฟที่ 1.2Volt
• สามารถOverclock ได้เสถียรยิ่งขึ้น เพราะมีชิปPMIC (Power Management IC) ติดตั้งอยู่บนแรม จากเดิมที่จะติดตั้งอยู่บนเมนบอร์ด ทำให้มีสัญญาณรบกวนที่น้อยกว่า
• ความจุสูงสุดเยอะกว่าเดิม โดยมีความจุสูงสุดถึง128 GB ต่อหนึ่งแถวสล็อต ซึ่งช่วยให้ประมวลผลได้ไวขึ้น
เมื่อทราบว่าDDR5ดีอย่างไรแล้ว ทุกคนก็น่าจะเริ่มอยากเห็นตัวจริงกันแล้ว เรามาเริ่มจากแกะกล่องแรมKingston FURY Beast DDR5กันเลยดีกว่า
Specification
สำหรับสเปคของ PC Test Bench ที่ใช้ทดสอบในการรีวิวครั้งนี้ประกอบไปด้วย
• Kingston FURY Beast DDR5 Memory
• Kingston FURY Renegade SSD
• MSI MAG Z690 TOMAHAWK WIFI Motherboard
• Intel core i9-12900K
• Nvidia Geforce RTX3060
ตัวแรมทั้งคู่จะบรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกใส คาดด้วยฉลากสติกเกอร์คำว่าFURYอย่างชัดเจน
แกะออกมาจะพบกับแรมDDR5 ความจุ32GB บัส5200MHz พระเอกตัวแรกของเรา
ตามมาด้วยคู่มือการใช้งานและสติกเกอร์“FURY” สีดำตัดแดงไว้ติดที่เคส ว่าคอมเราเนี่ยใช้Kingston FURYนะ!
Design
ดีไซน์ในส่วนของแรมKingston FURY Beast DDR5 จะมาในลักษณะที่ใช้ซิ้งค์กระจายความร้อนที่มีการเล่นลวดลายอย่างมีมิติ พร้อมกับสกรีนคำว่าBeastอยู่ตรงกลางและDDR5ทางด้านขวาบนของแรมให้เห็นอย่างชัดเจน
ส่วนข้อความคำว่าFURYเป็นแบบนูนสีเงินปัดเงาตัดกับตัวบอดี้สีดำ ให้ความรู้สึกที่ดูดุดัน ทนทาน
ในอนาคตอาจจะมีการเพิ่มแถบไฟRGBด้านบนเพื่อความสวยงาม แบบเดียวกับในFURY Beast RGB DDR4 อันนี้ก็ต้องมารอชมกัน
Performance
ผมเลือกใช้โปรแกรมCPU-ZและAIDA64ควบคู่กันในการทดสอบประสิทธิภาพระหว่างDDR4และDDR5
เพื่อให้เห็นข้อแตกต่างกันอย่างชัดๆกันไปเลยว่า Kingston Fury Beast DDR5 จะแรงขนาดไหน
โดยแรมDDR4 ที่ใช้ในการทดสอบก็เป็นแบรนด์Kingstonเช่นเดียวกัน แต่มีความจุเพียง 16GB Bus 2,666 MHz
ผลก็เป็นดั่งภาพเลยครับ สังเกตได้ว่าที่ค่าเริ่มต้น Bus 5,200MHz CL40-40-40 แรงดันไฟ 1.25V (เปิดXMP)
ความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูล อยู่ที่ประมาณ 79,000/73,000 MB/s ซึ่งมากกว่าแรมDDR4เกินเท่าตัวเลย
แถมยังใช้ความจุไฟที่เท่ากับแรมDDR4อีกด้วย บอกได้เลยว่าทั้งแรงและประหยัดเอาเรื่อง
ซึ่งแค่นี้ก็เหลือๆแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นเกม หรืองานกราฟฟิกและเรนเดอร์3D
ในส่วนของการเล่นเกมจะทดสอบด้วยเกมยอดนิยมอย่าง PUBG: BATTLEGROUNDS และเกม F1 2021
โดยใช้โปรแกรมMSI Afterburner ในการดูผลFPSระหว่างเล่น
และจะทดลองการเรนเดอร์ภาพ 3มิติ ความละเอียดระดับ 4K ด้วยซอฟแวร์ Blender
ในการทดสอบผมจะยังไม่ทำการOverclock ใดๆเพื่อให้ได้เห็นถึงประสิทธิภาพแบบดิบๆกันไปเลย
การเล่นเกม PUBG: BATTLEGROUNDS โดยการปรับกราฟฟิกแบบ Ultra (1920x1080)
ไม่ว่าจะตอนโดดร่มหรือจังหวะที่มีการประทะกันเฟรมเรตนั้นนิ่งมาก ไม่มีอาการกภาพกระตุกหรือค้างใดๆ
ซึ่งเฟรมเรตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100FPS และไปได้สูงสุดถึง 130+ FPS ในบางจังหวะ
เกมเมอร์ที่ชื่นชอบเกมแนวFPS และBattle Royale ต้องถูกใจแน่นอน
มาดูกันที่เกม F1 2021 ซึ่งเป็นเกมที่ค่อนข้างกินทรัพยากรมาก หากปรับกราฟฟิก Ultra High (2560x1440)
แต่น่าทึ่งมากที่เฟรมเรตวิ่งอยู่ที่ประมาณ 110FPS และดันไปได้ถึง 140FPS ในบางสนาม
เล่นกันเพลินๆ ภาพสวย สมจริงเหมือนได้ขับเองสุดๆ ไม่มีอาการLag ให้กวนใจระหว่างเล่น
ต่อกันด้วยการทดสอบเวลาในการเรนเดอร์บนโปรแกรม Blender
โดยผมเรนเดอร์ภาพ3มิติ ไฟล์ขนาด 8 MB ความละเอียดระดับ4K
ใช้เวลาในการเรนเดอร์ไป4นาทีเท่านั้น! เร็วกว่าตอนใช้DDR4อีก ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย
และแรมยังมีส่วนช่วยในการประมวลผลข้อมูลต่างๆในขณะสร้างวัตถุ ให้ไวขึ้นและไม่ทำให้เกิดอาการค้างด้วย
เอาล่ะ มาถึงส่วนที่ต้องมาลุ้นกัน ว่าผมจะสามารถOverclockแรม FURY Beast DDR5ไปได้ถึงBus เท่าไหร่
เมนบอร์ดMSI MAG Z690 TOMAHAWK WIFI ที่ใช้ในครั้งนี้ก็มีทีเด็ดเหมือนกัน มาดูกันเลย
- การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็ว 2.5Gbps สำหรับการLAN และมาตรฐาน WiFi 6E
- Lightning Gen 5 PCI-E สำหรับการเชื่อมต่อของการ์ดจอ
- รองรับแรมDDR5 ที่Busสูงสุด 6400MHz (Overclock)
- ซิ้งค์ระบายความร้อน SHIELD FROZR สำหรับM.2 SSD ทั้ง4ช่อง
และไฮไลท์ของเมนบอร์ดตัวนี้คือ ฟีเจอร์สุดเจ๋งอย่าง “Memory Try It!” ที่ผมจะใช้ในการOverclock
ซึ่งจะทำการOverclock ปรับค่าProfileความหน่วง(CL) ของแรมให้อัตโนมัติ เพียงแค่เลือกBusที่ต้องการเท่านั้น
ลงมือเลย! เริ่มจากเปิดเครื่อง เข้าสู่หน้าBios เลือกเมนูOCทางด้านซ้ายและเลือกฟีเจอร์ “Memory Try It!”
ผมจะลองที่Bus 5,600MHz ไปเลย แล้วทำการsave and exit เพื่อทดสอบบูทเข้าWindowsดู
เกินคาด! สามารถOverclockไปBus 5,600 MHz CL42-42-42 แรงดันไฟ 1.25V ได้อย่างผ่านฉลุย ใช้งานได้ปกติ ไม่มีอาการจอฟ้าให้เห็น
ความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูล เพิ่มมาเป็น 82,000/76,000 MB/s กับค่าLatency เพียง 77.8 ns
แค่การ Overclock แบบง่ายๆ ก็สามารถรีดประสิทธิภาพของแรมตัวนี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
อย่างที่ได้เกริ่นไว้ เรายังเหลืออีก 1 เทพที่จะมาทดสอบกันต่อ นั่นก็คือ Kingston FURY Renegade SSD
เป็นSSD PCIe Gen 4.0 NVMe M.2 ขนาดความจุ 2TB ที่บรรจุมาในกล่องพลาสติกใสและฉลากกระดาษแข็ง
ที่มีคู่มือการใช้งานและการวิธีติดตั้งอยู่ด้านหลัง
Design
มีดีไซน์การออกแบบดำดุตามสไตล์ หากสังเกตดูดีๆจะไม่ใช่แค่การติดสติกเกอร์ FURY Renegade ธรรมดาๆ
แต่เป็นวัสดุกราฟีนอะลูมิเนียม ที่มีส่วนช่วยในการกระจายความร้อน ป้องกันจากความร้อนสะสมของSSD
Performance
Kingston FURY Renegade SSD ตัวนี้มีความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลสูงสุดถึง 7,300/7,000MB/s
โดยที่เมนบอร์ดต้องรองรับการเชื่อมต่อแบบความเร็วสูง PCIe 4.0 ขึ้นไปเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน
มีขนาดความจุให้เลือกด้วยกันถึง 4 ขนาด คือ 500GB, 1TB, 2,TB และสูงสุด 4TB
สามารถใช้ควบคู่กับซอฟแวร์ Kingston® SSD Manager ที่ช่วยให้ผู้ใช้ ตรวจความสมบูรณ์ สถานะ
อัพเดตเฟิร์มแวร์ เช็คสุขภาพ จัดการข้อมูล และดูข้อมูลSerial NumberประจำSSD
แอบบอกนิดนึงว่าSSDตัวนี้เนี่ยรองรับการติดตั้งบน Sony PlayStation 5 เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้ด้วยนะ
จากการทดสอบผ่านโปรแกรม CrystalDiskMark ในการหาประสิทธิภาพความเร็วในการอ่าน/เขียน
FURY Renegade SSD ตัวนี้สามารถทำได้ที่ประมาณ 7,000/6,800 MB/s ซึ่งใกล้เคียงกับสเป็คที่แบรนด์ระบุไว้
เร็วแรงไม่ผิดหวัง จะโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ก็สบายๆเลย (เร็วกว่าการใช้HDDแบบจานหมุนมากกว่า 40เท่า)
อุณหภูมิขณะIdleอยู่ที่เฉลี่ย 38°C องศา และอุณหภูมิขณะทดสอบขณะทำงาน100% อยู่ที่ 50-60°C องศา
การจัดการความร้อนก็ทำได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียว
สรุป
จากที่ได้ทดสอบKingston FURY Beast DDR5 + Kingston FURY Renegade SSD เป็นเวลา 2 สัปดาห์เต็มๆ
ผลการทดสอบทั้งหมดเป็นที่ประทับใจอย่างมาก บอกได้เลยว่า “สวยงาม ทนทาน คุ้มค่า ประสิทธิภาพสูง”
ผมคิดว่าเป็นชุดที่สามารถตอบโจทย์ในการใช้งานทุกด้านเลย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหนักๆ
หรือว่าจะเป็นการทำงานที่ต้องมีการประมวลผล ตัดต่อ ก็พร้อมที่จะลุยเสมอ เร็ว แรง ไม่มีตกแน่นอน
สำหรับคนที่มีแผนที่จะอัพเกรดคอมพิวเตอร์ ผมแนะนำเป็นKingston FURY Beast DDR5 ไปเลย
เพราะDDR5 ก็จะมาเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์แทนที่แรมDDR4
ส่วนในเรื่องของบริการหลังการขายก็สามารถวางใจได้เลยครับ
แบรนด์ Kingston มีความสำเร็จอันน่าทึ่งมาจากผลิตภัณฑ์หน่วยความจำด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในตลาดเกม
พร้อมที่จะรับประกันแบบLifetime กันไปยาวๆ สำหรับแรม Kingston FURY Beast DDR5
และรับประกันสูงสุดถึง 5 ปีพร้อมกับบริการทางเทคนิคฟรีสำหรับ Kingston FURY Renegade SSD
ใครที่มีความสนใจและต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ สามารถชมได้ที่นี่
• แรม Kingston FURY Beast DDR5 :
https://www.kingston.com/th/memory/gaming/kingston-fury-beast-ddr5-memory
• Kingston FURY Renegade SSD :
https://www.kingston.com/th/ssd/gaming/kingston-fury-renegade-nvme-m2-ssd
• เมนบอร์ด MSI MAG Z690 TOMAHAWK WIFI :
https://th.msi.com/Motherboard/MAG-Z690-TOMAHAWK-WIFI
#KingstonFURY #ศึกชิงคู่เทพByKingston
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้