JJNY : เอกชนวิจารณ์แก้ของแพง│นพ.ธีระแนะโอมิครอนยังขาขึ้น│ร้านต้นไม้โดนลัก10ครั้ง ยังจับไม่ได้│ยกเลิก"วิ่งพล่านทั่วกรุง"

เอกชนวิจารณ์ รัฐแก้ปัญหาของแพงแค่ปลายทาง แม่ค้ารายเล็กแบกต้นทุนไม่ไหว สุดท้ายต้องปิด
https://ch3plus.com/news/category/277881
  
 
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาราคาสินค้าแพง รัฐบาลต้องแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทาง ไม่ใช่แค่ล็อกห้ามขึ้นราคาแค่ปลายทาง
 
เพราะต้นทางซึ่งเป็นต้นทุนการผลิต ปรับขึ้นราคาหมดแล้ว เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ซึ่งเป็นต้นทุนเกษตรกรต้นทาง ขึ้นราคามาแล้ว 10-20% กระป๋องขึ้นราคามาแล้ว 40-50% ถ้าปล่อยให้ปัญหาต้นทางราคาแพง แต่สั่งปลายทางห้ามขึ้นราคา ผู้ประกอบการรายเล็กอยู่ไม่ได้ก็ต้องปิดกิจการ
 
นอกจากนี้ ควรลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เพื่อทำให้ราคาน้ำมันลดลง ราคาสินค้าต่างๆ ก็จะลดลงด้วย เพราะน้ำมันเป็นต้นทุนหลักของการผลิตสินค้า คาดการณ์ว่าปี 65 ค่าใช้จ่ายการบริโภคอาหารจะสูงขึ้น 8-10% “ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารได้รับผลกระทบ ต้นทุนเพิ่มแต่การปรับราคาขายเป็นเรื่องยาก ต้นทุนที่สูงขึ้นทั้งวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง ส่งผลต่อการเงินของผู้ประกอบการที่แบกรับต้นทุนรอบด้านไม่ไหว จนปิดกิจการ
 
การที่ต้นทุนผลิตสินค้าที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบทั้งห่วงโซ่ ส่งผลต่อการแข่งขันสินค้าอาหารในตลาดโลก สุดท้ายกระทบต่อผู้บริโภค หากไม่มีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน จะส่งกระทบต่อผู้บริโภคจากการขึ้นราคาอาหารแน่นอน
 
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/JcLvoROKkHQ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

  
นพ.ธีระ แนะ สถานการณ์โอมิครอนในไทย ยังอยู่ช่วงขาขึ้น การผ่อนคลาย ต้องมีสติ
https://www.nationtv.tv/news/378863024

นพ.ธีระ เผย สถานการณ์ โอมิครอน ทวีปเอเชียหนัก 20 กว่าประเทศอยู่ระหว่างขาขึ้น ชี้ บทเรียนที่ไทยต้องระวังคือ "การใช้กิเลสนำทาง" การตัดสินใจของแต่ละประเทศในการผ่อนคลายมาตรการ ขึ้นอยู่กับความพร้อมในทุกด้าน ไทยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น การออกนโยบายจึงต้องใช้สติและปัญญา

7 กุมภาพันธ์ 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” ระบุ 
 
สถานการณ์ “โอมิครอน” ทวีปเอเชีย หนักสุด โดยระบุว่า  
  
ทะลุ 395 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,836,019 คน ตายเพิ่ม 6,221 คน รวมแล้วติดไปรวม 395,781,646 คน เสียชีวิตรวม 5,758,262 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ รัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์
 
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 90.11 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 80.64 ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 52.43 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 29.43 เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 9 ใน 20 อันดับแรกของโลก
 
...ระลอก Omicron
  
ภาพรวมขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นขาลง เหลือบางประเทศในแถบอเมริกาใต้ และโอเชียเนีย ที่ยังเป็นช่วงขาขึ้นหรือช่วงพีค
  
แต่ในทวีปเอเชียดูจะเป็นทวีปยังหนักกว่าเพื่อน โดยยังมีจำนวนประเทศอีกราว 20 ประเทศที่กำลังอยู่ในขาขึ้นหากดูอัตราการเปลี่ยนแปลงรายสัปดาห์ รวมถึงประเทศไทย
  
...บทเรียนที่ต้องระวังคือ การใช้กิเลสนำทาง
 
หากโพล่งออกมาว่า ประเทศอื่นทั่วโลกเค้าเน้นผ่อนคลายมาตรการป้องกันควบคุมโรค ดังนั้นเราจะทำตามเขา สิ่งที่ต้องตระหนักคือ สถานการณ์ที่ต่างกันย่อมต้องส่งผลต่อการตัดสินใจเชิงนโยบายที่ต่างกัน
 
หากคนอื่นเขาเป็นขาลง คุมได้ดีขึ้น วัคซีนประสิทธิภาพสูงและคนได้รับอย่างครอบคลุมทุกช่วงอายุ โครงสร้างพื้นฐานและระบบสนับสนุนต่างๆ เข้มแข็ง ประชาชนเข้าถึงบริการที่ต้องการจำเป็นได้อย่างไม่มีปัญหา ก็ย่อมตัดสินใจไปทางนึง
 
แต่ในขณะที่หากเรายังเป็นขาขึ้น ผลลัพธ์การป้องกันควบคุมโรคสะท้อนออกมาให้เห็นกันชัดเจนในแต่ละวัน ทั้งที่ตัวเลขรายงานก็ยังไม่รวม ATK ที่ประชาชนดิ้นรนหาซื้อเพื่อตรวจกันเองอีกจำนวนไม่น้อย การเข้าถึงบริการในหลายพื้นที่ก็ยังมีความจำกัด การตัดสินใจเชิงนโยบายด้านการควบคุมป้องกันโรคย่อมจำเป็นต้องใช้สติ และปัญญา ตามข้อมูลเชิงประจักษ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสีย ดังที่เห็นมาในระลอกสองและระลอกสาม
 
การยกเหตุผลว่าติดง่ายก็จริง แต่ไม่รุนแรง ตัวเลขป่วยนอนไอซียูหรือใส่ท่อช่วยหายใจน้อย ตายไม่มากเมื่อเทียบกับเดลตานั้น เป็นการนำเสนอข้อมูลที่ยังไม่ครบถ้วนเพื่อใช้ตัดสินใจนโยบายระดับชาติ
  
เรื่องที่ควรนำเข้าสู่การพิจารณาสุดท้ายอีกเรื่องที่สำคัญยิ่งคือ โอกาสที่จะเกิดปัญหาระยะยาว ภาวะอาการคงค้างหรือ Long COVID ที่ทั่วโลกต่างประสบปัญหาและต่างเร่งรีบหาทางป้องกัน และเตรียมรับมือ
  
ทั้งนี้ หากยังระบาดรุนแรง แต่ป้องกันควบคุมโรคไม่ดี ผ่อนคลายใช้ชีวิตเสรี การติดเชื้อย่อมมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และจำนวนผู้ที่จะได้รับผลกระทบจาก Long COVID ย่อมสูงขึ้น ส่งผลกระทบระยะยาวทั้งต่อบุคคล ครอบครัว ระบบสาธารณสุข และประเทศ
  
...สำหรับประชาชน สิ่งที่เราควรทำในสถานการณ์เช่นนี้คือ การพึ่งตนเอง ดูแลตนเองและสมาชิกในครอบครัวให้ดี ป้องกันตัวอย่างเป็นกิจวัตร ดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท

https://www.facebook.com/thiraw/posts/10223856784720016
 

  
เกินจะทน ร้านต้นไม้เมืองคอน โดนโจรลักไม้มงคลรวม 10 ครั้ง ยังจับไม่ได้
https://www.thairath.co.th/news/local/central/2308573

สุดอึ้งโจรบุกร้านต้นไม้มงคลลักต้นไม้ราคาแพง รอบที่ 10 เผยยังก่อเหตุต่อเนื่อง หลายร้านจำต้องขึ้นป้าย “ขอร้องคุณโจร” แต่ตำรวจเมืองคอนก็ขอให้เอาลงแต่ก็จับไม่หมดสักที ยังไม่รู้จะไปพึ่งพาใคร
 
จากกรณีมีคนร้ายบุกเข้าโจรกรรมต้นไม้มงคลที่มีราคาสูง จากร้านค้าต้นไม้ ที่ย่านบ้านศาลาบางปู ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จ.นครศรีธรรมราช ยังเป็นปัญหาใหญ่ แม้ว่าก่อนหน้านี้หลายร้านจะติดป้ายข้อความส่งสารถึง “คุณโจร” แต่ก็ถูกขอร้องให้ปลดป้ายจากเจ้าหน้าที่ หลังจากที่จับกุมได้ 3 ราย และเรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ยังหาทางออกและแก้ไขไม่ได้
   
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 65 มีรายงานว่า ผู้ประกอบการได้นำป้ายที่เพิ่งปลดออกไปเพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ กลับมาติดตั้งหน้าร้านอีกครั้งด้วยความคับแค้นใจ เช่น ที่ร้านกร-กันต์พันธุ์ไม้ ย่านศาลาบางปู ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้ติดตั้งป้ายข้อความ “ขอร้องคุณโจร” บริเวณหน้าร้านเป็นที่สะดุดตาผู้พบเห็น หลังจากที่โจรได้เข้าก่อเหตุโจรกรรมต้นไม้ราคาแพงในร้านอีกครั้งเป็นครั้งที่ 10 โดยไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ โดยหลังจากได้เข้าแจ้งความเป็นครั้งที่ 5 จากเหตุการณ์ทั้งหมด 10 ครั้ง ตำรวจงานสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกภาพและรับว่าจะติดตามคนร้ายอย่างเร่งด่วน
   
ส่วนในที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายได้เข้าไปก่อเหตุโจรกรรมต้นไม้จำพวกไม้กระถาง ที่เป็นไม้มงคล บริเวณโรงเรือนเลี้ยงต้นไม้ก่อนส่งขายด้านหลังสุดของร้าน คนร้ายใช้วิธีการถอนต้นไม้และทิ้งดินทิ้งกระถางไว้เกลื่อนพื้น โดยรอบนี้เป็นรอบที่ 10 ของการก่อเหตุเฉพาะร้านนี้ มีต้นไม้ที่หายไปเฉพาะรอบนี้จำนวน 70 ต้นมูลค่าประมาณ 35,000 บาท ยังไม่นับร้านอื่นๆ ที่ถูกก่อเหตุอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน น่าเชื่อว่าคนร้ายก่อเหตุเป็นขบวนการมีผู้รับหน้าที่โจรกรรมและมีผู้รับซื้อ จากพฤติกรรมการเลือกต้นไม้ที่ขึ้นชื่อและมีราคา การถอนไปนั้นจะต้องมีโรงเรือนเพาะอนุบาลให้ฟื้นตัวก่อนส่งขาย
   
นายสุทธินันท์ ทองทรัพย์ เจ้าของร้าน กล่าวว่า กับปัญหาโจรไม้ประดับไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรแล้ว ก็ต้องขึ้นป้ายขอร้องคุณโจรอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 แล้วความเสียหายกว่า 3 แสนกว่า รอบนี้ต้องติดป้ายอีกครั้ง ไปขอแจ้งความครั้งนี้ แล้วเขาได้ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ให้ บอกว่าจะต้องไปต่อกับ 3 ครั้งที่แล้วที่ไปแจ้ง ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว คิดไม่ออกขอร้องตำรวจว่าช่วยหน่อย โดนไปเยอะเสียหายไปเยอะแล้ว
   
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การก่อเหตุของคนร้ายกลายเป็นวิกฤตการณ์ของผู้ประกอบการย่านนี้ ทุกร้านได้พยายามติดตั้งวงจรปิดแต่คนร้ายได้เตรียมตัวมาดีใช้วิธีเลือกมุมที่กล้องจับภาพไม่ได้ หรือถ้าจับได้ก็ไม่ชัดเนื่องจากจะก่อเหตุกลางคืนและใช้ผ้าคลุมหน้า คลุมศีรษะเป็นไอ้โม่งตรวจสอบได้อย่างยากลำบาก ก่อนหน้านี้มีการจับกุมได้ 3 ราย เท่านั้นขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ขอร้องให้ผู้ประกอบการปลดป้ายลงซึ่งผู้ประกอบการก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ยังคงมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ความเสียหายทุกร้านรวมกันไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาทแล้ว จนต้องขึ้นป้ายข้อความกลับไปอีกครั้ง.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่