คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ผมเปิดร้านกาแฟ ขายกาแฟ ชา เครื่องดื่มเป็นหลัก ขนมมี 2-3 เมนู ขายดิลิเวอรี่ประมาณ 90% หน้าร้าน 10% ยอดขายเฉลี่ย 85,000-100,000 บาทต่อเดือน (จดบริษัทแล้ว เตรียมขยายธุรกิจและช่องทางการขายต่อไป) ตอบคำถามว่าดีหรือไม่ดี? ต้องระวังอะไรบ้าง?
คงไม่ตอบว่าไม่ดีนะครับ เพราะทำไปแล้ว แต่จะดีในมุมมองคนอื่นหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ต้องพิจารณาดูครับ ผมตั้งเงินเดือนตัวเอง 20,000 บาท/เดือน บางคนอาจจะคิดว่าน้อยไป แต่สิ่งที่แลกมาคือความอิสระในการบริหารจัดการ ร้านผมเปิดทุกวันไม่มีวันหยุด ยกเว้นไปธุระ ตอนนี้จ้างพนักงานเพิ่มแล้วครับ (เพื่อจะได้มีเวลาพัฒนาธุรกิจ)
ข้อควรระวัง มันก็ไม่เชิงเป็นข้อควรระวัง แต่ควรตระหนักว่าตลาดที่เราเข้ามาได้ง่าย คนอื่นก็เข้ามาได้ง่ายเช่นกัน ยกตัวอย่างสูตรการเบลนด์กาแฟที่นำมาใช้ชงเอสเปรสโซ่ ลาเต้ อเมริกาโน่ มอคค่า โดยทั่วไปร้านที่เรียนการชงจากร้านที่ขายเครื่องให้ ก็จะได้สมุดมาเล่มหนึ่งซึ่งจะมีสูตรการชงแบบมาตรฐาน และสูตรเบลนด์กาแฟที่ร้านที่ขายเครื่อง (ส่วนมากจะขายเมล็ดด้วย) บอกมา 1-2 สูตร ใครๆ ก็เริ่มเปิดร้านกันแบบนี้
แต่สูตรการเบลนด์ของร้านผมที่ขายอยู่ปัจจุบันมีอยู่ 8 เบลนด์ที่มีลูกค้าสั่งทุกวัน มากบ้างน้อยบ้าง อนาคตผมสามารถปรับเปลี่ยน เพิ่มหรือลดเบลนด์ตามจังหวะของธุรกิจ ถ้ามองในมุมกลับ การมีเบลนด์ให้ลูกค้าเลือก 1-2 เบลนด์จะสามารถแข่งขันได้หรือไม่ จะแข่งขันจากอะไร ราคา การบริการ ความสะอาด โปรโมชั่น ฯลฯ นี่คือด้านที่เป็นข้อควรระวังว่า "ความไม่แตกต่าง" จะเป็นจุดอ่อนของธุรกิจตั้งแต่ต้น
แบคกราวด์การเปิดร้านกาแฟของผมคร่าวๆ นะ เปิดขายทุกวันอาทิตย์ตอนทำงานประจำ เป็นเวลา 1 ปี ขายเป็น Kiosk ข้างทาง จากนั้นเปิดร้านริมทางเหมือนกัน 1 ปี โดนขโมยเครื่องชง กลับไปทำงานประจำ 2 ปี กลับมาเปิดที่บ้านแบบไม่มีหน้าร้านตั้งแต่ต้นปี 63 กลางปี 64 ทำบาร์หน้าบ้านสำหรับดิลิเวอรี่ (ยังคงไม่มีหน้าร้านให้นั่งทานในร้านนะครับ) ประสบการณ์ทำงานบริษัทกาแฟตั้งแต่ปี 2557
คงไม่ตอบว่าไม่ดีนะครับ เพราะทำไปแล้ว แต่จะดีในมุมมองคนอื่นหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ต้องพิจารณาดูครับ ผมตั้งเงินเดือนตัวเอง 20,000 บาท/เดือน บางคนอาจจะคิดว่าน้อยไป แต่สิ่งที่แลกมาคือความอิสระในการบริหารจัดการ ร้านผมเปิดทุกวันไม่มีวันหยุด ยกเว้นไปธุระ ตอนนี้จ้างพนักงานเพิ่มแล้วครับ (เพื่อจะได้มีเวลาพัฒนาธุรกิจ)
ข้อควรระวัง มันก็ไม่เชิงเป็นข้อควรระวัง แต่ควรตระหนักว่าตลาดที่เราเข้ามาได้ง่าย คนอื่นก็เข้ามาได้ง่ายเช่นกัน ยกตัวอย่างสูตรการเบลนด์กาแฟที่นำมาใช้ชงเอสเปรสโซ่ ลาเต้ อเมริกาโน่ มอคค่า โดยทั่วไปร้านที่เรียนการชงจากร้านที่ขายเครื่องให้ ก็จะได้สมุดมาเล่มหนึ่งซึ่งจะมีสูตรการชงแบบมาตรฐาน และสูตรเบลนด์กาแฟที่ร้านที่ขายเครื่อง (ส่วนมากจะขายเมล็ดด้วย) บอกมา 1-2 สูตร ใครๆ ก็เริ่มเปิดร้านกันแบบนี้
แต่สูตรการเบลนด์ของร้านผมที่ขายอยู่ปัจจุบันมีอยู่ 8 เบลนด์ที่มีลูกค้าสั่งทุกวัน มากบ้างน้อยบ้าง อนาคตผมสามารถปรับเปลี่ยน เพิ่มหรือลดเบลนด์ตามจังหวะของธุรกิจ ถ้ามองในมุมกลับ การมีเบลนด์ให้ลูกค้าเลือก 1-2 เบลนด์จะสามารถแข่งขันได้หรือไม่ จะแข่งขันจากอะไร ราคา การบริการ ความสะอาด โปรโมชั่น ฯลฯ นี่คือด้านที่เป็นข้อควรระวังว่า "ความไม่แตกต่าง" จะเป็นจุดอ่อนของธุรกิจตั้งแต่ต้น
แบคกราวด์การเปิดร้านกาแฟของผมคร่าวๆ นะ เปิดขายทุกวันอาทิตย์ตอนทำงานประจำ เป็นเวลา 1 ปี ขายเป็น Kiosk ข้างทาง จากนั้นเปิดร้านริมทางเหมือนกัน 1 ปี โดนขโมยเครื่องชง กลับไปทำงานประจำ 2 ปี กลับมาเปิดที่บ้านแบบไม่มีหน้าร้านตั้งแต่ต้นปี 63 กลางปี 64 ทำบาร์หน้าบ้านสำหรับดิลิเวอรี่ (ยังคงไม่มีหน้าร้านให้นั่งทานในร้านนะครับ) ประสบการณ์ทำงานบริษัทกาแฟตั้งแต่ปี 2557
แสดงความคิดเห็น
เปิดร้านกาแฟในบ้านไม่มีหน้าร้าน หลังเลิกงาน
หลังเจอโควิด งานเสริมที่เราทำก็ล้มลงไป แต่ยังมีรายจ่ายเท่าเดิม ซึ่งรายได้จากงานประจำพอจ่ายแล้ว ไม่เหลือเงินเก็บสร้างความมั่นคงใดใดเลยค่ะ
จึงคิดว่าอยากเปิดขายน้ำหวาน ขนม กาแฟ ใน่ชวงวันหยุด และหลังเลิกงาน
เป็นแบบไม่มีหน้าร้าน ขายผ่าน Application อย่างเดียว (หากลูกค้าอยากมารับเองก็ได้นะคะ)
ใช้เงินลงทุนซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มเติมประมาณ 5,000 -6,000 บาท
จึงอยากมาสอบถามเพิ่มเติม ว่ามีท่านใดเคยมีประสบการณ์เปิดร้านในรูปแบบนี้บ้างมั้ยคะ
ว่าจะดีหรือไม่ ต้องระวังอะไรบ้าง
ขอบคุณค่ะ