คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าสิ่งเหล่านี้ มันกวนใจคุณ ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร น่ะครับ คือ ก็เข้าใจความรู้สึกนะ .... มันก็มีอยู่ 2 ทาง ที่จะจัดการสิ่งกวนใจนี้ได้คือ
1 สนองตอบต่อความรู้สึก >> ลาออกทันที ครับ แสดงความต่อต้านและไม่เห็นด้วย กับสิ่งที่เกิดขึ้น รับไม่ได้ที่ตนถูกลดเงินเดือน แต่เจ้าของกลับเสวยสุขออกรถใหม่รัวๆ
2 ปล่อยวาง หรือ ทำความเข้าใจ และแยกแยะ >>> ปล่อยวาง บางคนบอกว่า นี่คือ การยอมแพ้ ยอมจำนน ยอมคน ขี้แพ้ โน้นนี่นั่น .... แต่ความหมายของความปล่อยวางนี้ ไม่ใช่แบบนั้นครับ คือ ปล่อยให้ว่างไปเลย ไม่คิดไม่อะไรทั้งสิ้น ซื้อก็ซื้อไป เงินของเธอ เธอมีหน้าที่จ่ายเงินเดือนฉันเป็นพอ ... อาจจะเพิ่มความเข้าใจใหม่ เพื่อให้การปล่อยวางทำได้ดีขึ้น เงินนั่น อาจจะเป็นเงินคนละส่วนของ "ผลประกอบการ" ก็ได้ .... คนที่ทำธุรกิจ จะมีครับ กระป่องเงิน เค้าไม่ได้มีกระป๋องเดียว เงินสำหรับลงทุนก็ส่วนหนึ่ง เงินส่วนตัวก็ส่วนหนึ่ง เงินสำรองก็ส่วนหนึ่ง นั่นเอง
นำไปสู่ การแยกแยะ .... เงินเดือนของเราอยู่ในกระป๋องในส่วนของ "เงินลงทุน" และได้รับจาก "ผลประกอบการ" เงินเดือนเราอยู่ในบัญชีกระป๋องนี้ ต่างหาก มั้ย ?
ถ้าเข้าใจนะ ..... คุณจะไม่ลำบากใจอะไรเลย แต่ถ้าไม่ ... ก็แล้วแต่ความคิดของคุณ จะ "นำพาไป" ตามแต่จะไปไหน อย่างไร ก็ตามนั้นครับ
ไม่มีผิดไม่มีถูก ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับคุณ ว่าคุณจะปรับแต่ง ให้เป็นอย่างไร ...
สถานการณ์ดีขึ้น คือ มันไม่ใช่จะดีขึ้นเลย "ทันทีทันใด" หรอกครับ มันต้องใช้เวลาไต่ขึ้น ( เวลาลงมันลงเร็ว เวลาขึ้นมันช้า ครับ ) ต้องให้เวลาในส่วนนี้บ้าง .... ดีขึ้นตอนไหน อย่างไร คุณทำงาน คุณย่อมรู้อยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวครับ ถ้าวันนั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ค่อยคิดหาทางอีกทีหนึ่ง
1 สนองตอบต่อความรู้สึก >> ลาออกทันที ครับ แสดงความต่อต้านและไม่เห็นด้วย กับสิ่งที่เกิดขึ้น รับไม่ได้ที่ตนถูกลดเงินเดือน แต่เจ้าของกลับเสวยสุขออกรถใหม่รัวๆ
2 ปล่อยวาง หรือ ทำความเข้าใจ และแยกแยะ >>> ปล่อยวาง บางคนบอกว่า นี่คือ การยอมแพ้ ยอมจำนน ยอมคน ขี้แพ้ โน้นนี่นั่น .... แต่ความหมายของความปล่อยวางนี้ ไม่ใช่แบบนั้นครับ คือ ปล่อยให้ว่างไปเลย ไม่คิดไม่อะไรทั้งสิ้น ซื้อก็ซื้อไป เงินของเธอ เธอมีหน้าที่จ่ายเงินเดือนฉันเป็นพอ ... อาจจะเพิ่มความเข้าใจใหม่ เพื่อให้การปล่อยวางทำได้ดีขึ้น เงินนั่น อาจจะเป็นเงินคนละส่วนของ "ผลประกอบการ" ก็ได้ .... คนที่ทำธุรกิจ จะมีครับ กระป่องเงิน เค้าไม่ได้มีกระป๋องเดียว เงินสำหรับลงทุนก็ส่วนหนึ่ง เงินส่วนตัวก็ส่วนหนึ่ง เงินสำรองก็ส่วนหนึ่ง นั่นเอง
นำไปสู่ การแยกแยะ .... เงินเดือนของเราอยู่ในกระป๋องในส่วนของ "เงินลงทุน" และได้รับจาก "ผลประกอบการ" เงินเดือนเราอยู่ในบัญชีกระป๋องนี้ ต่างหาก มั้ย ?
ถ้าเข้าใจนะ ..... คุณจะไม่ลำบากใจอะไรเลย แต่ถ้าไม่ ... ก็แล้วแต่ความคิดของคุณ จะ "นำพาไป" ตามแต่จะไปไหน อย่างไร ก็ตามนั้นครับ
ไม่มีผิดไม่มีถูก ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับคุณ ว่าคุณจะปรับแต่ง ให้เป็นอย่างไร ...
สถานการณ์ดีขึ้น คือ มันไม่ใช่จะดีขึ้นเลย "ทันทีทันใด" หรอกครับ มันต้องใช้เวลาไต่ขึ้น ( เวลาลงมันลงเร็ว เวลาขึ้นมันช้า ครับ ) ต้องให้เวลาในส่วนนี้บ้าง .... ดีขึ้นตอนไหน อย่างไร คุณทำงาน คุณย่อมรู้อยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวครับ ถ้าวันนั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ค่อยคิดหาทางอีกทีหนึ่ง
สมาชิกหมายเลข 1956261 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6763716 ถูกใจ, บ้านสวนริมกรุง ถูกใจ, ความเหงาล้อมเราไว้หมดแล้ว ถูกใจ, jojoja ถูกใจ, น้องขนมน่ากิน ถูกใจ, REDBULLRUN ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2881936 ถูกใจ, MELON PRINCESS ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6560917 ถูกใจรวมถึงอีก 1 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เงินที่เค้าเอาไปดาวน์และผ่อนรถทุกเดือน
อาจจะเป็นเงินของพนักงานทุกคนที่หักไปคนละ 60% ก็เป็นได้
(ซึ่งคหสต.เราก็ว่าใช่แหละ 555555555)
ถ้าไม่มีวี่แววว่าจะอัพเงินกลับมาปกติ ก็หาลู่ทางเริ่มงานใหม่เถอะค่ะ
มันมีจริงๆนายจ้างที่ฉวยโอกาสจากวิกฤติที่เกิดขึ้น
อาจจะเป็นเงินของพนักงานทุกคนที่หักไปคนละ 60% ก็เป็นได้
(ซึ่งคหสต.เราก็ว่าใช่แหละ 555555555)
ถ้าไม่มีวี่แววว่าจะอัพเงินกลับมาปกติ ก็หาลู่ทางเริ่มงานใหม่เถอะค่ะ
มันมีจริงๆนายจ้างที่ฉวยโอกาสจากวิกฤติที่เกิดขึ้น
HiFine ถูกใจ, MookzieszZ ถูกใจ, ความเหงาล้อมเราไว้หมดแล้ว ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6676212 ถูกใจ, น้องขนมน่ากิน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2511269 ถูกใจ, เกาะแน่นแน่นนะน้องนะ ถูกใจ, artsaurus ถูกใจ, voo_worm ถูกใจ, Snow on Christmas ถูกใจรวมถึงอีก 14 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
โควิดเริ่มดีขึ้น งานเริ่มมาแต่เงินเดือนที่ถูกลดไม่เพิ่มแถมเจ้าของออกรถใหม่ เราผิดไหมถ้าเริ่มรู้สึกไม่ดี