***ขอความเห็น พ่อแม่ที่ส่งลูกเรียน EP, Inter และต่างประเทศหน่อยค่ะ***

พอดีอยากขอความเห็นของ พ่อแม่ ที่ส่งลูกเรียน ไม่ว่าจะรร. Ep รร.อินเตอร์ และ ตปท.หน่อยค่ะ พอดีว่า เรากำลังคิด ตัดสินใจอยู่ค่ะ ว่าในอนาคตจะให้เขาเรียนอะไรดีค่ะ

ในแพลนของเราคือ

1. เรียน EP ตั้งแต่ ป.1-ม.3 และ ม.ปลาย เราวางแผนว่าจะส่งน้องไปเรียนที่แคนาดาค่ะ เพราะงบไม่แพงมากเกินไป และ ได้ใช้ภาษาอังกฤษแน่นอนในชีวิตประจำวันค่ะ แต่ก็กังวลเรื่อง ลูกจะอยู่ได้ไหม ต้องไกลบ้านหลายปีเลยค่ะ ถ้าลูกชอบก็โอเคค่ะ พร้อมส่งเต็มที่ค่ะ

2. ให้ลูกเรียน EP จบ ม.3 แล้วย้ายไปเรียน Inter ค่ะ ที่เล็งๆไว้คือ St. Andrews ค่ะ กับ รร.นานาชาติฝรั่งเศส ค่ะ แต่ค่าเทอมพอๆกับส่งไปแคนาดาเลยค่ะ หรืออาจจะมากกว่าด้วย เพราะยังไม่รวมค่าใช้จ่ายยิบย่อยต่างๆ และคงจะพูดอังกฤษแค่ที่ รร.เท่านั้นค่ะ เพราะที่บ้านไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลยค่ะ แต่ข้อดีคือ ยังได้อยู่ด้วยกัน อยู่ในประเทศยังไงก็อุ่นใจกว่า เพราะมีครอบครัวให้ปรึกษาค่ะ

เหตุผลที่ตั้งใจส่งไป อินเตอร์ หรือ ตปท. ตอนม.ปลาย ยอมรับตรงๆ เพราะว่า ณ ตอนนี้เรายังงบไม่พอสำหรับส่งเขาเรียนอินเตอร์ตั้งแต่ อนุบาลยัน จบม.ปลายค่ะ แต่ในอนาคตมีงบพอที่จะส่งแน่นอนค่ะ แต่ก็ลังเลอยู่ว่า จะเอาไงดี ถ้าเป็นคุณพ่อ คุณแม่ จะตัดสินใจยังไงกันคะ ขอความเห็นหน่อยค่ะ

ป.ล. ตัวเราเองอยากให้น้องได้ภาษาอังกฤษมากๆค่ะ เพราะ คนที่บ้านไม่เก่งภาษากันเลย พอมาทำงาน รู้เลยว่า ถ้าได้ภาษามันได้เปรียบมากแค่ไหน และเขาจะมีความก้าวหน้ากว่า แม่เขาแน่ๆ ถ้าเขาได้ เราเลย อยากสนับสนุนค่ะ

ป.ล.2 ตอนนี้น้องอยู่อนุบาล 2 ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
จขกท. ครับ
ลองดูแนวทาง ที่ผมส่งลูกไป ไม่ได้เวอร์ พื้นๆ มีการเตรียมลูกแค่นิดหน่อย
         ผมตอบไว้ใน คห. 1 ของ คห. นี้ ==> https://pantip.com/topic/38903342
  ผมทำงานด้านวิชาการ แต่ไม่ชอบเรื่องขุนลูก เร่งลูกเรื่องการเรียน ดังนั้น ที่บ้านผม จะไม่มีการเรียนพิเศษ ตามข้อตกลง คือ หากผลการเรียนมีปัญหา
และมีข้อแนะนำจากครู-อาจารย์ ก็เรียนเสริม
          วันหยุดของลูกๆ คือ วันพักผ่อน แต่วันเรียน พวกเขาไม่มีขาดเรียน คือ เน้น ความรับผิดชอบ

ลูกคนเล็กผมไปอย่างไม่เก่งภาษา พื้นฐานไม่ดี เรียนโรงเรียนเอกชน เป็น Mini English  แล้วย้ายไปรัฐบาล ใน ป.2 ให้สอบ EP ก็ไม่เอา
    ครูฝรั่งมาจะสัมภาษณ์ เขาก็บอกครูเลย ว่าพูดไม่ได้ ไม่ชอบ ผมก็ OK ไม่ว่าไร เรียนที่ชอบ แล้วมีความสุข
    เรียนหลักสูตรปกติ ผลการเรียน วิชาภาษาอังกฤษ ได้ 1 คือ D ในสมุดรายงาน เขียนว่า วิชาที่ไม่ชอบ ==> ภาษาอังกฤษ  
    มีอยู่ปีหนึ่ง เด็กต้องหยุดหลายเดือน เพราะมีกีฬาเอเชียนเกมส์ ผมส่งไปพร้อมแม่เขากับพี่ชาย ไปเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์ แค่ 3 เดือน
         กลับมา ดูรายงานของครูฝรั่ง บอกว่า ให้ความร่วมมือมาก นั่งหน้าห้องร่วมกิจกรรม ผลการประเมินดีเยี่ยม
         พอกลับเข้าเรียน ป.3 ครูที่โรงเรียน ประเมินผลการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ได้ เกรด 4  หรือ A  วิชาที่ชอบ ==> ภาษาอังกฤษ        
                พอถามลูกว่า ทำไม่ถึงเปลี่ยนใจ ขนาดนี้ เขาบอกว่า ครูฝรั่งสอนสนุก เข้าใจ ไม่ยาก
       ปีต่อมา ป. 4 ย้ายไปห้องเด็กเรียนเฉยเลย แต่ก็มีเตุ ย้านมาเรียน นานาชาติ แบบไป-กลับ คือย้ายพร้อมพี่ชายเขา
       โดยเรียนซ้ำ G. 4 อีก 1 ปี ผลการเรียน ใน รร. นานาชาติก็ไม่ดีนัก เพราะเขาใช้ภาษาพูดเป็นภาษาเขียน และไม่เข้าใจเรื่อง Tense
       เรียน G.5 ก็ไม่ดีมาก แต่ปรับตัวได้
                จากนั้น ย้ายไปเรียน นิวซีแลนด์ คนเล็กนี้ พาสชั้นหลายชั้นมาก คือ ไปเรียน Y9 ครึ่งปีหลังเลย
                พูดง่ายๆ คือ จบ ป. 5 ไปเรียนต่อ ม. 3 ครึ่งปีหลัง ประมาณนั้นเลย ตัวเล็กสุด  ........ จบ Y12 อายุ 15 ปี
                ปัจจุบันพูดอังกฤษรัวเลย เขาฟังข่าว ดูคลิปก็เป็นภาษาอังกฤษทุกวัน
ลูกคนโตผมก็เรียนมัธยม รร.รัฐบาล พอ ม.2 เขามาขอไปเรียนสิงคโปร์ แต่ให้ลองย้ายมานานาชาติแบบไปกลับก่อน พอ G.10 เขาขอไปโครงการแลกเปลี่ยน เดิมผมจะให้ไปแคนาดา เพราะผมเคยอยู่ที่นั้น แล้วชอบมาก
         แต่แม่เขาขอว่าให้ไป NZ เพราะเขามีเพื่อนอยู่ที่นั้น เพื่อเขาจะไปเยี่ยมหา พอติดต่อโรงเรียน ทางโรงเรียนบอกว่า ไม่ต้องมา 1 ปี ให้มา
เรียน 1 ปีครึ่ง แล้วจบไปเลยดีกว่าไหม ก็เลยเอาทั้งสองคน ย้ายไปเรียน NZ ทั้งสองคน
         ภาษาก็ดีขึ้นเยอะ แต่ทักษะการพูด จะสู้น้องไม่ได้
               
                ส่วนตัวผมนะครับ
                      อยากจะแนะนำว่า ให้ลูกเรียนแบบมีความสุข หากจะเสริมก็เสริมด้านคณิตศาสตร์ให้ต่อเนื่อง  ไม่จำเป็นต้องเรียนเยอะๆๆ มีเวลาทำกิจกรรมในครอบครัวให้เยอะ
            ตื่นแต่เช้า กินข้าวในรถ เลิกเรียนแล้ว มาเรียนพิเศษ ลูกเราต้องเก่งกว่าคนอื่น วันหยุดเรียนเสริม ==> อย่าทำเลยครับ เด็กช้ำหมด
            ประมาณ ม. 2 ครับ กำลังดี ค่อยส่งไปเรียน ก่อนไปก็อาจติว Grammar สักหน่อย น้องปรับตัวได้แน่
            ไม่ต้องไปติวเยอะ เก็บเงินไว้ ปิดเทอม ส่งไป Summer ออกค่ายอาสาที่ต่างประเทศ

      ผมส่งลูกไปร่วมออกค่ายลูกเสือโลก ที่ญี่ปุ่นเมื่อหลายปีก่อน เด็กจะเจอคนหลากหลายประเทศ เขาจะเรียนรู้ว่าโลกกว้างไกล ภาษาสำคัญ
ทุกวันนี้ เขายังติดต่อกับเพื่อนลูกเสือ ชาวญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ฯลฯ ที่เขาแลกบิท (beat) หรือของที่ระลึกกัน
          เขาจะเรียนรู้ว่า ภาษานั้นสำคัญ เขาจะดิ้นรนเอง เราไม่ต้องไปดิ้นรนแทนเขานะครับ
                    
                               ผมลงทุนไม่มากนักนะครับ แต่ก็พอสมควรครับ ให้เป็นข้อมูลอีกด้านหนึ่งครับ
                                                                                                                                     จากคนจ่ายเงินครับ ฮ่าๆๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่