เราเป็นคนที่คอยให้คำปรึกษาคนอื่น เป็นคนเกรงใจคนอื่นแคร์คนรอบตัวที่สำคัญ แต่เราก็ทำตัวปกติตามวัยรุ่น แต่ทำไมเวลาเรามีปัญหาเรารู้สึกว่าเราไม่มีใครเลยไม่กล้าทักไปรบกวนใคร เกรงใจคนอื่นไม่อยากเอาปัญหาตัวเองไปให้คนอื่นจนแม้ว่าเรากำลังเครียดร้องไห้เสียใจอยู่คำเดียวแต่พอมีคนมาขอคำปรึกษาเราก็ให้คำปรึกษาคนอื่นจนถึงแม้ตัวเองจะเสียใจอยู่ เคยไปงานศพเพื่อนที่สนิทเราก็ร้องไห้อยู่หน้าโรง วันเผาเพื่อนเราร้องไห้กันหนักเราก็เข้าไปปลอบเพื่อน พยายามไม่ร้องไห้เพราะถ้าเราร้องจะไม่มีใครปลอบเพื่อน ตอนเด็กๆตั้งแต่จำความได้ไม่กล้าขอให้แม่พ่อให้พาไปเที่ยวไม่กล้าขอซื้อของเล่นเหมือนเพื่อนเด็กๆคนอื่นเพราะเรารู้ว่าตอนนั้นบ้านเราจน เราไม่อยากทำมห้พ่อแม่เราลำบากถึงแม้ว่าเราจะอายุเเค่5-6ขวบ ไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้นิสัยแบบนี้เป็นมาตั้งแต่เมื่อไหล่แต่ไม่มีคนรอบตัวเรารู้เลยบางครั้ง พ่อแม่ทำให้เราเสียใจหรือคิดด้านลบ เราก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเค้าเสียใจคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้ลูกเป็นโรคซึมเศร้าตอนเราปรึกษาหมอ หมอก็บอกเราแคร์คนรอบข้างมาก ห่วงความรู้สึกคนรอบข้างมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เรยเปิดใจคุยกับครอบครัวนะ เราเคยเปิดใจคุยหลังเรามีปัญหากัน แต่เเล้วก็กลับมาเป็นแบบเดิมอีกเราก็ไม่อยากพูดอีกกลัวเค้าเสียใจข้างนอกเราดูไม่สนใจใครมาก ดูแข็งๆแต่เอาเข้าจริงเราแอบร้องไห้คนเดียว ไม่กล้าปรึกษาใครไม่อยากเอาตัวเองไปเป็นภาระให้ใคร หลังจากเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมาเราไปหาหมอจิตแพทย์ เราโกหกแม่กับแฟนว่าจะไปหาหมอทางด้านนี้ บอกแค่ว่าจะไปตรวจภายในเจ็บมดลูก พอไปถึง รพ เราขอเข้าไปก่อนส่วนแม่ไปหาที่จอดรถ เรารีบไปติดต่อแผนกจิตแพทย์ จนมาถึงเวลานั่งรอหมอหน้าห้องทุกคนที่มาด้วยยังคิดว่าเป็นห้องตรวจหญิง จนเราเข้าไปคนเดียวได้ระบายกับคุณหมอบอกอาการต่างๆเดินออกมาร้องไห้จากห้อง หมอก็เรียกคนในครอบครัวเข้าไปหลังจากนั้นทุกคนก็พยายามทำดีกับเรา แคร์เราเเต่เรากลับรู้สึกว่าถ้ารักเราแคร์เราจริง ทำไมถึงมาทำดีตอนนี้หล่ะ ทำไมปล่อยให้ความรู้สึกเราแย่มาจนถึงจุดนี้ ถ้าคนอื่นสนใจความรู้สึกเราเหมือนที่เราสนใจความรู้สึกคนอื่นบ้าง เราคงไม่ต้องมาถึงจุดนี้ ที่ไม่กินยาแล้วนอนไม่หลับทุกวันนี้กินยา5เม็ดทุกวัน ถ้ามีใครสักคนที่แคร์เราจริงๆเราก็ต้องรู้แล้วแต่ทำไมทุกคนมาทำตอนนี้หล่ะตอนที่ทุกอย่างมันแย่ลงไปหมด เราไม่กล้าบอกใครตัวเองเป็นโรคซึมเศร้ากลัวเค้าไม่เข้าใจกลัวว่าเค้าคิดว่าเราเรียกร้องความสนใจ เราบอกแค่คนที่สนิทและเอาใบรับรองแพทย์ให้ดู อยากให้เข้าใจว่าโรคซึมเศร้าคนที่เค้าเป็นไม่จำเป็นต้องซึมเศร้าเหงาหงอย มันมีอีกหลายกรณี หลังจากโควิดกลับมาเราก็ไม่ได้ไป รร เรียนออนไลน์แทนยิ่งทำให้เราแย่เพราะไม่ได้ออกไปพบเจอใครหรือทำกิจกรรมอะไร ดิวยความที่นิสัยเราอยู่คนเดียวก็ได้มีเพื่อนก็ได้ แต่ไม่ได้ติดเพื่อนไม่ได้มีความอยากเที่ยว สิ่งที่ชอบคือการอยู่ในห้องตัวเองเล่น ทส หรือหาไรทำในห้อง เราค่อนข้างมีโลกส่วนตัวระดับหนึ่ง ไม่ชอบให้ใครเข้ามาพื้นที่ส่วนตัว แต่ว่าหลังจากได้ไป รร แล้วและไปพบคุณหมอตามนัด เราได้ปรึกษากับคุณหมอว่า เราอึดอัดกับการไปโรงเรียน ถ้าอยู่กับเพื่อนที่รู้จักสนิทก็พอได้แต่พอเข้าโรงอาหารหรือห้องเรียนที่คนเยอะๆ เสียงดังหรือวุ่นวาย เราจะเริ่มอึดอัดเครียดหงุดหงิด ตอนนี้แม้แต่กินข้าวแล้วคนในครอบครัวมานั่งกินด้วยก็อึดอัด แฟนจากที่คุยกันบ่อยๆจากที่เราติดเค้าเราก็เฉยๆ ขี้เกียจคุยอยากหาไรดูทำอย่างอื่นไม่มีอะไรจะคุย ช่วงที่เราออนไลน์นอกจากไปหาหมอแล้วเราไม่ไปเที่ยวที่อื่นเลยแม้แต่ออกไปซื้อขนมเราก็ไม่ไปมีแค่ไปโรงเรียนตามที่โรงเรียนประกาศ ยังดีที่เพื่อนเรารู้ถึงปัญหาของเราทำให้เค้าพยายามหสที่ ที่มีคนไม่มากหรือน้อยเกินไป หมอบอกเพราะเราอยู่คนเดียวนานทำอะไรคนเดียวนานๆพอกลับไปเข้าสังคมเลยมีปัญหาและลำบากใจหมอบอกให้เราฝืนใจต้องทนให้ได้ไม่งั้นเราจะกลายเป็นคนเข้าสังคมไม่ได้ พอเราปรึกษาเพื่อนแฟนหรือคนรอบข้าง เค้าก็บอกให้หาไรทำ ออกไปเที่ยว ไปหาเพื่อน ฟังเพลงดูหนัง แต่ปัญหาอีกก็คือเราไม่ได้ชอบทำอะไรแบบนั้นเลยแ้วยความที่ไม่ค่อยเที่ยวแต่เด็ก ก็เลยเป็นคนไม่ได้ชอบเที่ยวเราก็ฟังเพลงเล่นเกมเหมือนคนอื่นๆนี้แหละเพียงแต่ไม่ได้ชอบจนแบวว่าเป็นอะไรที่เราชอบทำ นั้นเลยเป็นปัญหาอีกอย่างในการรักษาของเราทำให้มันยากขึ้นเพราะตัวเราไม่ค่อยชอบทำอะไรอยู่แล้วด้วย ตอนแรกอยากจะระบายกับใครแต่ก็ไม่รู้ว่าควรทักหาใครที่เค้าจะว่าหรือสะดวกฟังเราเกรงใจคนอื่นเลยคิดสมัครพันทิปมา อย่างน้อยอาจจะมีใครเข้ามาอ่านหรือเห็น แต่ก็ไม่รู้ว่าเราเป็นใครแล้วคงไม่ทำให้คนที่อ่านต้องมารับฟังปัญหาความในใจของเราโดยที่เค้าไม่เต็มใจ เรามีคนรอบข้างที่ดี มีแฟนที่ดีไม่มีเรื่อง ผญ ไม่ตอดเกม ไม่ติดเพื่อนรักเรายอมเราดูแลเราตั้งใจเรียนมหาลัยและตั้งใจส่งตัวเองเรีนมีแม่ที่ทำงานเก่ง มีปู่กับย่าที่ห่วงความรู้สึกเรา มีตากับยายคอยทำหับข้าวให้ แต่เราก็ไม่กล้าเอาปัญหาเราเล่าให้เค้าฟังแม้กระทั้งบางครั้งเราเหนื่อยจากโรงเรียนและการเดินทางเราไม่กล้าบ่นให้คนเหล่านี้ฟัง เพราะเค้าหาตังส่งเราเรียน ทำเพื่อเราอยู่แล้วเราจะกล้าไปบ่นว่าเหนื่อยกับเค้าได้ไง ถึงแม้ตอนนี้บ้านเราจะมีตังแล้วมีบ้านที่ใหญ่ สวย มีรถหลายคัน พ่อก็ขยับขยายธุระกิจ ส่วนแม่ก็เลื่อนขั้น อยากได้อะไรบ้านเราก็มีให้เเต่เรากลับไม่ได้มีความสุขเท่าไหร่ เราเเค่อยากได้อย่างอื่นไม่รู้ว่าความรักรึป่าว พ่อแม่เราเลิกกันตั้งแต่เราป.1 เราไม่ค่อยมีความทรงจำดีๆ ทั้งสองคนต่างแยกย้ายเดินทางของตัวเองแล้วก็เริ่มดีขึ้นแต่เรากลับไม่มีความสุขเท่าไหร่ บางครั้งเราก็ไม่กล้าแม่แต่จะคิดว่ามีเงินมีบ้านแล้วไงแต่ถ้าไม่มีความสุขก็ไม่มีประโยชน์ แต่อีกใจนึงก็บอกเราว่าให้คิดถึงคนอื่นคนที่ไม่มีเงินเรียน ไม่มีข้าว คนที่เค้ามีปัญหาหนักกว่าเรา แล้วเราจะมาคิดแบบนี้ได้ไง พอได้พิมพ์ระบายแบบนี้รู้สึกดีขึ้นนะมันรู้สึกโล่งๆ เหมือนคุยกับใครซักคนแล้วเราไม่เป็นปัญหาของเค้า คนที่อ่านก็เลือกได้ว่าอยากจะรู้หรือไม่รู้ โดยที่ตัวเราก็ไม่รู้เหมือนกัน ไว้ว่างๆจะมาระบายเรื่องอื่นอีกนะคะ ตอนนี้ต้องไปรีดผ้าแล้ว พน จะไปโรงเรียนแล้วค่ะขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดีของเรานะคะ
#ขอเสริมนะคะหมอบอกว่าจากสถานการณ์ที่ผ่านมามีเด็กวัยรุ่นหรือนักเรียนที่ต้องหยุดอยู่บ้านเนื้องจากการเรียนออนไลน์ทำให้เด็กบางคนไม่เจอสังคมหรือเริ่มซึมเศร้าหมอบอกว่าไม่ได้มีเราคนเดียวที่มีปัญหากับเรื่องนี้มีเด็กนักเรียนมาปรึกษาคุณหมอเยอะมาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีผลเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์
ระบายความในใจ
#ขอเสริมนะคะหมอบอกว่าจากสถานการณ์ที่ผ่านมามีเด็กวัยรุ่นหรือนักเรียนที่ต้องหยุดอยู่บ้านเนื้องจากการเรียนออนไลน์ทำให้เด็กบางคนไม่เจอสังคมหรือเริ่มซึมเศร้าหมอบอกว่าไม่ได้มีเราคนเดียวที่มีปัญหากับเรื่องนี้มีเด็กนักเรียนมาปรึกษาคุณหมอเยอะมาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีผลเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์