[SR] รีวิว ASUS VIVOBOOK PRO 14 / 14X OLED ! Ryzen 9 5900HX จอ 90Hz พร้อม Dialpad ในรุ่น 14X !



ASUS เปิดตัว Vivobook ในรุ่น Pro กันอย่างต่อเนื่องและเน้นสายทำงานหนักหน่วงมากกว่าเดิมด้วยเช่นกัน และครั้งนี้มาในรุ่น 14X OLED ที่ต้องบอกว่าดึงฟีเจอร์แบบรุ่น Proart กันมาเลยทีเดียว รวมถึงประสิทธิภาพของตัวเครื่องใช้งาน Ryzen 9 5900HX ตัวแรงและมาพร้อมกับ RTX 3050 ด้วยเช่นกันครับ อีกทั้งในรุ่น 14 ที่ราคาถูกกว่าก็จะไม่มีฟีเจอร์ Asus Dial หรือ ว่าการ์ดจอแยก แต่ก็ยังได้ Ryzen 9 5900HX เหมือนกันรวมถึงได้หน้าจอระดับเทพเหมือนกัน รวมถึงทั้งงานออกแบบ ช่องต่างๆนั้นมีความใกล้เคียงกันอย่างมาก แต่จะแตกต่างกันเรื่องฟีเจอร์ ดีเทลบางส่วนนั้นเองครับ ทำให้ทั้ง 2 ตัวนี้ทำได้น่าสนใจในสายทำงานเป็นอย่างมาก แต่มันจะมีอะไรแตกต่างกันบ้างนั้นเราไปอ่านรีวิวกันได้เลยในตัว ASUS VIVOBOOK PRO 14 / PRO 14X OLED พร้อม Ryzen 9 5900HX



ทางด้าน ASUS VIVOBOOK PRO 14 OLED และ 14X OLED ในหลายๆส่วนคล้ายกัน แต่ก็มีจุดที่น่าสนในเป็นจุดหลักๆที่แตกต่างกันไปเช่นกัน ซึ่งถ้ามองถึง CPU แน่นอนว่าทั้ง 2 รุ่นนี้จะใช้งานตัวเดียวกันในสเปกที่เรารีวิวจะเป็น AMD Ryzen™ 9 5900HX Processor 3.3GHz (16M Cache, up to 4.6GHz, 8 cores) พร้อมกับ หน้าจอ 14.0 นิ้ว 2.8K (2880 x 1800) OLED 16:10 aspect ratio, 0.2ms response time, 90Hz refresh rate, 100% DCI-P3 color gamut , 1,000,000:1, 1.07 billion colors, PANTONE Validated ซึ่งจะเป็นจุดหลักๆที่เหมือนกัน และ ทางด้าน RAM 16GB  DDR4 on board รวมถึง 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD นั้นเอง และพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆก็ให้มาเหมือนกันทั้ง 2 รุ่น แต่จะมีจุดต่างกันหลักๆ ในรุ่น X จะมี การ์ดจอแยกเสริมเข้ามา นอกเหนือจาก AMD Radeon™ Graphics นั้นเองครับจะได้ NVIDIA® GeForce® RTX™ 3050Ti Laptop GPU เลยทีเดียว รวมถึงรองรับ 1x M.2 2280 PCIe 3.0×4 และจะมีฟีเจอร์ DialPad ที่ทำให้มันแตกต่างกับรุ่น PRO 14 ธรรมดา และแน่นอนส่งผลถึงการใช้งานที่แตกต่างกันด้วย





PRICE

- Vivobook Pro 14X OLED (M7400, AMD Ryzen 5000 Series) CPU: AMD Ryzen™ 9 5900HX Mobile Processor GPU: NVIDIA® GeForce® RTX™ 3050Ti RAM:16GB DDR4 on board 46,990 บาท
- Vivobook Pro 14 OLED AMD Ryzen™ 9 5900HX Processor Intergrated GPU: AMD Radeon™ Graphics RAM: 16GB DDR4 on board 34,990 บาท 





DESIGN PRO 14 OLED 

งานออกแบบในรุ่น PRO 14 แน่นอนว่าบอดี้ภาพรวมถือว่ายังคงทำได้สวยงามและคล้ายๆกันไม่ต่างกันมาก แต่รุ่นนี้จะได้เรื่องของสีที่จะออกอมฟ้าเล็กน้อย ตัวเครื่องบางเบาพอสมควรและงานประกอบทำได้ดี พกพาได้ดีตามสไตล์ของ VIVOBOOK แต่หลังๆนั้นการออกแบบ คุณภาพเรียกได้ว่าเทียบกับพวก ZENBOOK กันได้เลยคุณภาพยกระดับขึ้นมาเยอะมากครับ และในด้านหลังจะเขียน ASUS VIVOBOOK แบบตัวนูนขึ้นมาบนฝาหลังของตัวเครื่องแบบโลหะ





งานออกแบบทำให้ตัวน้ำหนัก 1.4kg ขนาด 14 นิ้วในด้านหน้าจอถือว่าพกพาได้ง่ายและไม่ใหญ่มากเกินไปส่วนด้านในนั้นไม่แตกต่างกันทั้ง2 ตัวครับมมาพร้อมกับคีย์บอร์ด และ ทัชแพดขนาดใหญ่ ปุ่มต่างๆสีดำสวยงามและมีไฟบนคีย์บอร์ดให้มาครบ พร้อมกับหน้าจอขอบบางและมาพร้อมกับหน้าจอแบบเงา และกล้องหน้ามีที่ปิดกล้องหน้ามาให้ครบส่วนการกางต่างๆนั้นกางได้ระดับนึงแต่ก็จะไม่ได้สามารถราบไปกับพื้นได้และจะไม่มี Ergo Lift อะไรใส่เข้ามา





ทางด้านคีย์บอร์ดงานออกแบบภายในก็คล้ายๆกับรุ่นอื่นๆในตระกูลนี้ครับ ปุ่มต่างๆมองง่ายชัดเจนและใช้งานได้ดีพร้อมกับปุ่ม Power และ การระบายความร้อนออกจากด้านหลังเครื่อง และ ช่องดูดลมจากใต้เครื่องถือว่าจัดการได้ดีมากๆในตัวพัดลม เมื่อทำงานหนักๆระบายได้ไวเสียงดังระดับนึงและไล่ได้ไว แต่รุ่นนะจะไม่ได้มีการยกตัวเครื่องอะไรมากถ้ามองเทียบกับพวก Zenbook พวกนั้นจะมี Ergo lift แต่รุ่นนี้จะไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ก็จัดการใช้งานได้ดี



SPEC PRO 14 OLED 

- หน้าจอขนาด 14.0 นิ้ว WQXGA+, อัตราส่วน 16:10, รีเฟรชเรท 90Hz
- AMD Ryzen™ 9 5900HX
- AMD Radeon™ Graphics
- RAM DDR4 16GB SSD 512GB (M.2 NVMe™ PCIe® 3.0)
- Windows 10 Home ที่อัปเกรดเป็น Windows 11 Home ได้เมื่อพร้อมใช้งาน
- คีย์บอร์ด Backlit ระยะปุ่มกด 1.35 มิลลิเมตร
- ลำโพง harman/kardon และไมโครโฟนแบบ Built-in
- พอร์ตการเชื่อมต่อ 1x USB 3.2 Gen 1 Type-A 1x USB 3.2 Gen 1 Type-C 2 x USB 2.0 Type-A 1 x HDMI 1.4 1x 3.5mm Combo Audio Jack 1x DC-in เครื่องอ่านการ์ด Micro SD
- ขนาดตัวเครื่อง: 31.74 x 22.85 x 1.92 ~ 1.93 เซนติเมตร
- น้ำหนัก 1.40 กิโลกรัม



DESIGN PRO 14X OLED

งานออกแบบบอดี้ต่างๆนั้นไม่ต่างกันแต่ในรุ่น X เราจะเห็นการเสริมดีเทลหลายๆส่วนเข้ามา หรือแม้แต่รูปทรงการตัดขอบตัวบอดี้มีแตกต่างกันบ้าง และ บรรดาช่องลมในหลายๆส่วนแตกต่างกันครับแต่ขนาดหน้าจอต่างๆนั้นเหมือนกันทั้งหมด รวมถึงทางด้านโทนสีรุ่น X มีความเข้มดำมากกว่าเดิม และด้านหลังตรงโลโก้แตกต่างกับรุ่นทั่วไปเราจะเห็นว่าจะเป็นสีดำเข้ม เขียน ASUS VIVOBOOK #BeExplores ต่างๆ ซึ่งจะเป็นจุดที่แตกต่างเยอะระหว่าง 2 ตัว





เมื่อเปิดฝามาด้านในเราจะเห็นจุดต่างคือปุ่ม ESC สีส้มที่โดดเด่นทิ่มตาเมื่อเปิดและการออกแบบ Layout นั้นเหมือนกันครับไม่ได้หนีกันมากนัก แต่เราจะเห็นเส้นสายอะไรที่แตกต่างรวมถึงการเสริมฟีเจอร์ตรง Touchpad เข้ามาที่แตกต่างกัน และแน่นอนว่าสเปกก็จะหนีกันเยอะมากเช่นกัน ส่วนด้านหลังฝาหลังเราจะเห็นว่ามีขีดเสริมเข้ามาเหนือขอบฝาหลังและ โลโก้ที่จะดำเข้มมากกว่าตัวทั่วไป และ ไม่มีใส่โครเมียมสีเงินอะไรเข้ามาทำให้ดุดันและเข้มกว่ารุ่นทั่วๆไปส่วนน้ำหนักนั้นต่างกับรุ่นทั่วไปคือ 1.45 กิโลกรัม ถ้ามองเทียบกับรุ่น 14 คือ 1.4 กิโลกรัมนั้นเองไม่ได้ต่างกันเยอะ





ในตัวปุ่ม ESC จะเป็นสีส้มแดงสวยงามและโดดเด่น และ นอกเหนือจากนั้นตัวปุ่ม POWER จะรองรับสแกนนิ้วมือได้ด้วย อีกทั้งมีการเล่นลวดลายต่างๆเสริมเข้ามาเหนือปุ่มจะเห็นว่ามีการเขียนหรือขีดตกแต่งเข้ามาทำให้ดูมีลูกเล่นกว่าตัวทั่วๆไป และมีการเล่นลวดลายตามขอบเครื่องที่จะเป็นส่วนระบายความร้อนด้านหลังนั้นเอง ทำให้แตกต่างกันแค่ลวดลายส่วนใหญ่ครับ ส่วนการระบายความร้อนด้านหลังก็มีช่องอะไรเยอะกว่าเล็กน้อยและมีลวดลายมากกว่ารวมถึงการรับลมได้มากกว่าเพราะว่ารุ่นนี้จะมีการ์ดจอแยกเสริมเข้ามา RTX 3050TI ทำให้ต้องใช้งานมากกว่ารุ่นอื่นๆ



SPEC PRO 14X OLED

- หน้าจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว 2.8K, อัตราส่วน 16:10, รีเฟรชเรท 90Hz
- AMD Ryzen™ 9 5900HX AMD Radeon™
- Graphics, NVIDIA® GeForce® RTX™ 3050Ti Laptop
- RAM DDR4 16GB SSD 512GB (M.2 NVMe™ PCIe®)
- Windows 10 Home ที่อัปเกรดเป็น Windows 11 Home ได้เมื่อพร้อมใช้งาน
- คีย์บอร์ด Backlit ระยะปุ่มกด 1.35 มิลลิเมตร
- ลำโพง harman/kardon และไมโครโฟนแบบ Built-in
- Asus Dial 
- Fingerprint Reader
- พอร์ตการเชื่อมต่อ 1x USB 3.2 Gen 1 Type-A 1x USB 3.2 Gen 1 Type-C 2 x USB 2.0 Type-A 1 x HDMI 1.4 1x 3.5mm Combo Audio Jack 1x DC-in เครื่องอ่านการ์ด Micro SD
- ช่องเสียบ M.2 2280 PCIe 3.0×4 จำนวน 1 ช่อง
- ขนาดตัวเครื่อง: 31.74 x 22.85 x 1.79 ~ 1.79 เซนติเมตร
- น้ำหนัก 1.45 กิโลกรัม



ASUS DIAL PAD PRO 14X OLED

แน่นอนว่าตัว DIAL PAD ที่เสริมเข้ามาเราจะเห็นในตัว PROART และได้มีการใส่เข้ามาในตัว VIVOBOOK PRO 14X OLED ด้วยเช่นกันครับ แต่จะมีการใช้งานแบบเสมือนหรือว่าใช้งานบน TOUCHPAD ที่สามารถเปิด/ปิดได้ ถ้าเปิดจะมีไฟขึ้นมาทำให้เราใช้งานแตะตรงนั้นได้เลยนั้นเองเพราะเป็นปุ่มเสมือนพิเศษอย่าง ASUS Dial เข้ามาช่วยให้เราทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น เป็นเหมือนดวงไฟวงแหวนกลมๆ ที่สามารถให้เราควบคุม หมุน กดลงไปได้ แบบสัมผัสทั้งหมดตามคำสั่งที่เราตั้งค่าไว้ ออกแบบมาเพื่อให้การทำงานสะดวกและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อการใช้งานร่วมกับโปรแกรม ไม่ว่าจะเป็น Photoshop, Premiere Pro, Lightroom Classic และ After Effects ใช้งานได้ดีมาก



เพียงใช้นิ้วแตะและเลื่อนหมุนไปมา ถ้าเราตั้งค่าตัว ASUS Dial ให้เหมาะกับงานที่ทำก็จะช่วยเราได้อีกเยอะเลย ใช้เป็นคีย์ลัดในการทำงานไม่ว่าจะเป็นการปรับสี ปรับความเข้มต่างๆ ในตัวโปรแกรมที่รองรับของทาง Adobe และสามารถเพิ่มตัวเลือกอื่นๆให้ ใช้งานได้ สะดวกมายิ่งขึ้นตามแบบของเราได้ด้วย แม้จะไม่ได้ใช้งานแบบปุ่มเหมือน Proart แต่ก็สามารถรองรับการทำงานได้ดีครับ ปรับตัวไม่ยากและสามารถปรับแต่งได้เหมือนกันและพัฒนาได้ดี



PRIVACY 14X OLED

ในเรื่องของความปลอดภัยจริงๆทั้ง 2 รุ่นให้มาดีมากๆคือตัว WEBCAM ที่สามารถปิดหรือเปิดม่านได้เมื่อปิดเราจะเห็นสีส้มนั้นเอง แต่ที่รุ่น 14X OLED นั้นเราจะได้สแกนนิ้วมือใส่เข้ามาให้ตรง POWER รองรับการใช้งานได้สบายๆ



SCREEN

หน้าจอในทั้ง 2 รุ่นเราจะได้หน้าจอตัวเดียวกันในความละเอียดแบบ 2.8K เลยทีเดียวและมีค่าสีที่ตรงและแม่นยำมากๆตัวนึงในตลาดตอนนี้ และสามารถใช้งานทำงานได้สบายๆในสเปก 14.0 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880 x 1800) OLED 16:10 aspect ratio, 0.2ms response time พร้อมกับ 90Hz refresh rate, 100% DCI-P3 color gamut และ ค่าคอนทราส 1,000,000:1, รองรับสี 1.07 billion colors,  และมาตรฐาน PANTONE Validated  พร้อมกับใช้งานกระจกแบบเงา Glossy display และแน่นอนว่า การันตี Pantone และไม่ว่าจะภาพนิ่งหรือเคลื่อนไหวก็สวยสมจริงดุจมีชีวิตด้วยคุณภาพของสีที่ได้การรับรองคุณภาพโดย Pantone validated ซึ่งเป็นระบบสีที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก เป็นมาตรฐานที่ใช้อย่างแพร่หลายทั้งด้านงานออกแบบ, กราฟิกดีไซน์, แฟชั่น, บรรจุภัณฑ์, สถาปัตยกรรมและอีกมากมาย และการใช้งานหน้าจอนี้จะช่วยตัดแสงสีฟ้าถึง 70% เพราะว่าจอ OLED ของ VIVOBOOK PRO  ผ่านการรับรองคุณสมบัติเพื่อการถนอมสายตา จากสถาบันชั้นนำ TÜV Rheinland-certified ลดปริมาณแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาได้มากถึง 70% ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนในทุกลักษณะการใช้งาน และรุ่นนี้ก็จะได้มาตรฐานแบบเดียวกันทั้งหมดแม้จะเป็น Vivobook Pro ก็ทำได้ดีไม่แพ้รุ่นพี่เลยทีเดียวและสีจอทำได้ดี และได้ทั้ง ความคมชัดมากกว่าเดิม และ 90Hz บอกเลยว่าลงตัวและน่าสนใจมาก



ชื่อสินค้า:   ASUS VIVOBOOK PRO 14, ASUS VIVOBOOK PRO 14X OLED
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่