สวัสดีค่ะ ก่อนหน้านี้ เราได้รีวิวสัมภาษณ์วีซ่า B1/B2 ที่กลุ่มเพจ วีซ่าอเมริกา (usa visa) คร่าว ๆ มาแล้วนะคะ
จะมาลงรายละเอียดอีกทีในนี้ค่ะ
เราได้คิวสัมภาษณ์วีซ่า B1/B2 วันที่ 20/01/65 ที่ผ่านมา เวลา 9.30 น.
ซึ่งสมัครช่วง ตค. 64 ซึ่งตอนนั้นคิวไปไกลมาก ประมาณปลายปี 65
เห็นหลายคนแนะนำสมัคร visanotification กัน แต่เราไม่ได้สมัครนะคะ
เราไปเห็น เพื่อนในกลุ่มนั้น แชร์คิวหลุดมา และเข้าไปจอง ตอนนั้น คิวเร็วสุดคือ วันที่ 06/01/65
แต่เราเลือกวันที่ 20/01/65 แทน คิดว่าช่วงนั้น เราคงกลับบ้าน ตจว. อยู่ และไม่อยากรีบร้อนทำอะไรช่วงปีใหม่ด้วย
หลังจากได้วันมา ก็สำรวจ ฟอร์ม ds-160 ที่เรากรอกในตอนแรก แต่รู้สึกว่ายังไม่ค่อยโอเค
เราเลยกรอกใหม่ และได้ เลข ds-160 ใหม่ แล้วก็เอาเลขใหม่ ไปยืนยันในใบนัดอีกที
จากนั้นก็เตรียมเอกสารสำคัญๆ ที่เกี่ยวกับเรารวมถึงหลักทรัพย์ทุกอย่างที่เป็นชื่อเรา (แต่เราเตรียมไม่ทันเอง และเตรียมไม่ครบด้วย) ลงละเอียดไว้ด้านล่างนะคะ
และวันนัดสัมภาษณ์ก็มาถึง เราตื่น 7 โมงเช้า แต่งตัว จนถึง 8.30 น. ไปรับเอกสารเพิ่มเติมที่ธนาคาร
เดินทางโดย mrt มาลงที่ลุมพินี ต่อวินมอไซต์ 20 บาท และพี่วินให้กำลังใจมาด้วยค่ะ
เราถึงหน้าสถานทูต 9.05 น.
เช็คเวลาด่านแรก ยื่นพาสปอร์ตให้ เจ้าหน้าที่ติด แทรกกิ้ง กระดาษทีสีขาวหลัง passport แล้วยื่นคืนเรา
ผ่านแสกนด่านที่สอง (ฝากโทรศัพท์ปิดเครืองพร้อมบัตร ปชช) (ตรงนี้เราต้องเอาของไปฝากข้างนอก ถึง 2 ครั้งกว่าจะได้แสกนผ่านเข้าไปข้างใน ครั้งแรก smart watch ครั้งสอง เข้าเครื่องแสกน เจอ USB ในกระเป๋า เพิ่งรู้ว่า USB ก็เข้าไม่ได้)
นั่งรอตามคิวหน้าห้องสัมภาษณ์ ประมาณ 20-40 นาที
ได้เวลา ก็ไปต่อแถวในห้องสัมภาษณ์ เจ้าหน้าทีคนไทย และท่านกงสุล
สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ไทย ยื่นพาสปอร์ตให้
Q1 เคยไปอเมริกาก่อนหน้านี้ไหม A1 ไม่เคยค่ะ
Q2 เคยเปลี่ยนชื่อ นามสกุลไหม A2 ไม่เคยค่ะ
Q3 ไปอเมริกาทำไม A3 เที่ยวค่ะ หลังแต่งงาน
ขอรูปภาพ 2x2" 1 ใบไปแสกนแล้วคืนเรา
ให้ปั๊มลายนิ้วมือทั้ง 10 แล้วไปต่อแถวสัมฯ ท่านกงฯต่อ
สัมภาษณ์ท่านกงฯ เราได้ท่านกงช่อง 7 ทักทายกัน เรายื่นพาสปอร์ตให้
(เราเจอท่านกงหัวโล้น ที่ใคร ๆ ก็ว่าเคี่ยวด้วยค่ะ แต่พอดีใกล้จะถึงคิวเรา ท่านออกไปไหนไม่รู้ อิอิ)
Q1: คุณจะไปกับใคร A1: สามีค่ะ
Q2: สามีมีวีซ่าหรือยัง A2: ยังค่ะ เพราะพาสปอร์ตเค้ากำลังจะหมดอายุ เค้าจะไปต่ออีกทีถ้าเค้าเคลียร์งานเค้าเสร็จค่ะ (ความจริงคือ นางจะรอบริษัทต่อให้ เราเอาคำตอบนี้ไปบอกท่านกง ไม่ได้นะสิ)
Q3: สามีคุณทำงานอะไร A3: เราตอบอาชีพเค้าและที่ทำงานเค้าเลยค่ะ
Q4: คุณจะไปเมืองไหน A4: PHL, NY, War D.C
Q5: คุณเคยไปประเทศอื่นไหม A5: Vietnam, Burma, SG, Cambodia
Q6: คุณจะไปทำอะไรที่ PHL (อันนี้เราฟังผิด ได้ยินว่า ทำไมถึงเลือกไป PHL เราก็เลยตอบว่า .. เรารู้ว่า PHL เป็นเมืองหลวงเก่าอเมริกา และมีประวัติศาสตร์ เลยอยากไปเที่ยวดู เพราะสามีช้านก็ชอบแบบนี้ค่ะ ท่านเลยยิ้ม แล้วพูดว่า ออไปเที่ยวใช่ไม 5555 ตอนนั้น ชะงักไปนิดนึง แต่ก็ตอบ เยส ๆ ไป ประมาณนี้)
Q7: คุณจะไปกี่วัน A7: 10 วัน ช่วงหยุดยาวค่ะ
(ตอนตอบโต้ ฟีลลิ่งแบบสนุกดีอ่ะ อาจจะเพราะท่านกงฯยิ้มด้วยมั้งคะ ถามมาสิ ช้านรอตอบอยู่ 5555)
จบการสัมฯ ท่านให้ปั๊ม 4 นิ้วขวา แล้วก็บอกว่า อีก 3-5 วันเราจะส่งพาสปอร์ตไปให้คุณ วีซ่าคุณได้รับการอนุมัติแล้ว เที่ยวให้สนุกนะ
ส่วนเรารู้ว่าผ่านตั้งแต่ให้ปั๊มล่ะ เตรียมยิ้มทะลุแมสเลยค่ะ รอท่านพูดจบ เราก็ตอบไปว่า Thank you so much. Have a nice day, sir แล้วก็ไหว้สวยๆ 1 ที ออกมาเลยค่ะ
มูของเรา คือ สีชุดมงคล เช้าวันนั้น คนอื่นๆ โทนสีเดียวกันหมด แต่นี่ colorful เลยจ้า เดรสเขียวหวานเชียว แต่อดทน ท่องไว้q สีมงคลๆ และไลน์ไปขอพรพ่อกับแม่
ส่วนเอกสารที่เราเตรียมไป แล้วเค้าไม่ขอดูเลย
1. พาสปอร์ตเล่มเก่า
2. ใบรับรองเงินเดือน
3. สำเนาทะเบียนบ้าน
4. สำเนาทะเบียนสมรส
5. สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน
6. บัญชีกสิกรทุกเล่มอัพเดทแล้ว (ออมทรัพย์ กับกองทุน) รวมๆ กันหลักหมื่น
7. บัญชีไทยพาณิชย์ยังไม่อัพเดท (ออมทรัพย์) ไม่มีเงินเลย เอาไปไว้ก่อน
8. บัญชีกรุงไทยยังไม่อัพเดท (บช. เงินเดือน) เช้านั้นเราอัพที่ตู้ ตู้ไม่อ่าน error ไปอีก เงินเหลือใน บช 3,xxx บาท
9. ใบนัดสัมฯ กับใบยืนยันการกรอก DS 160
10. สลิปชำระค่าธรรมเนียม (เราทำหาย ไปขอสำเนา ที่ธนาคาร เสียไป 100 บาท)
11.แพลนเทียวคร่าว ๆ
และ 22/01/22 พาสปอร์ตเราก็มาถึงแล้วค่ะ วีซ่า 10 ปีเป๊ะ
จบการรีวิวค่ะ
[CR] รีวิวสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา B1/B2 ที่ กทม. ค่ะ
จะมาลงรายละเอียดอีกทีในนี้ค่ะ
เราได้คิวสัมภาษณ์วีซ่า B1/B2 วันที่ 20/01/65 ที่ผ่านมา เวลา 9.30 น.
ซึ่งสมัครช่วง ตค. 64 ซึ่งตอนนั้นคิวไปไกลมาก ประมาณปลายปี 65
เห็นหลายคนแนะนำสมัคร visanotification กัน แต่เราไม่ได้สมัครนะคะ
เราไปเห็น เพื่อนในกลุ่มนั้น แชร์คิวหลุดมา และเข้าไปจอง ตอนนั้น คิวเร็วสุดคือ วันที่ 06/01/65
แต่เราเลือกวันที่ 20/01/65 แทน คิดว่าช่วงนั้น เราคงกลับบ้าน ตจว. อยู่ และไม่อยากรีบร้อนทำอะไรช่วงปีใหม่ด้วย
หลังจากได้วันมา ก็สำรวจ ฟอร์ม ds-160 ที่เรากรอกในตอนแรก แต่รู้สึกว่ายังไม่ค่อยโอเค
เราเลยกรอกใหม่ และได้ เลข ds-160 ใหม่ แล้วก็เอาเลขใหม่ ไปยืนยันในใบนัดอีกที
จากนั้นก็เตรียมเอกสารสำคัญๆ ที่เกี่ยวกับเรารวมถึงหลักทรัพย์ทุกอย่างที่เป็นชื่อเรา (แต่เราเตรียมไม่ทันเอง และเตรียมไม่ครบด้วย) ลงละเอียดไว้ด้านล่างนะคะ
และวันนัดสัมภาษณ์ก็มาถึง เราตื่น 7 โมงเช้า แต่งตัว จนถึง 8.30 น. ไปรับเอกสารเพิ่มเติมที่ธนาคาร
เดินทางโดย mrt มาลงที่ลุมพินี ต่อวินมอไซต์ 20 บาท และพี่วินให้กำลังใจมาด้วยค่ะ
เราถึงหน้าสถานทูต 9.05 น.
เช็คเวลาด่านแรก ยื่นพาสปอร์ตให้ เจ้าหน้าที่ติด แทรกกิ้ง กระดาษทีสีขาวหลัง passport แล้วยื่นคืนเรา
ผ่านแสกนด่านที่สอง (ฝากโทรศัพท์ปิดเครืองพร้อมบัตร ปชช) (ตรงนี้เราต้องเอาของไปฝากข้างนอก ถึง 2 ครั้งกว่าจะได้แสกนผ่านเข้าไปข้างใน ครั้งแรก smart watch ครั้งสอง เข้าเครื่องแสกน เจอ USB ในกระเป๋า เพิ่งรู้ว่า USB ก็เข้าไม่ได้)
นั่งรอตามคิวหน้าห้องสัมภาษณ์ ประมาณ 20-40 นาที
ได้เวลา ก็ไปต่อแถวในห้องสัมภาษณ์ เจ้าหน้าทีคนไทย และท่านกงสุล
สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ไทย ยื่นพาสปอร์ตให้
Q1 เคยไปอเมริกาก่อนหน้านี้ไหม A1 ไม่เคยค่ะ
Q2 เคยเปลี่ยนชื่อ นามสกุลไหม A2 ไม่เคยค่ะ
Q3 ไปอเมริกาทำไม A3 เที่ยวค่ะ หลังแต่งงาน
ขอรูปภาพ 2x2" 1 ใบไปแสกนแล้วคืนเรา
ให้ปั๊มลายนิ้วมือทั้ง 10 แล้วไปต่อแถวสัมฯ ท่านกงฯต่อ
สัมภาษณ์ท่านกงฯ เราได้ท่านกงช่อง 7 ทักทายกัน เรายื่นพาสปอร์ตให้
(เราเจอท่านกงหัวโล้น ที่ใคร ๆ ก็ว่าเคี่ยวด้วยค่ะ แต่พอดีใกล้จะถึงคิวเรา ท่านออกไปไหนไม่รู้ อิอิ)
Q1: คุณจะไปกับใคร A1: สามีค่ะ
Q2: สามีมีวีซ่าหรือยัง A2: ยังค่ะ เพราะพาสปอร์ตเค้ากำลังจะหมดอายุ เค้าจะไปต่ออีกทีถ้าเค้าเคลียร์งานเค้าเสร็จค่ะ (ความจริงคือ นางจะรอบริษัทต่อให้ เราเอาคำตอบนี้ไปบอกท่านกง ไม่ได้นะสิ)
Q3: สามีคุณทำงานอะไร A3: เราตอบอาชีพเค้าและที่ทำงานเค้าเลยค่ะ
Q4: คุณจะไปเมืองไหน A4: PHL, NY, War D.C
Q5: คุณเคยไปประเทศอื่นไหม A5: Vietnam, Burma, SG, Cambodia
Q6: คุณจะไปทำอะไรที่ PHL (อันนี้เราฟังผิด ได้ยินว่า ทำไมถึงเลือกไป PHL เราก็เลยตอบว่า .. เรารู้ว่า PHL เป็นเมืองหลวงเก่าอเมริกา และมีประวัติศาสตร์ เลยอยากไปเที่ยวดู เพราะสามีช้านก็ชอบแบบนี้ค่ะ ท่านเลยยิ้ม แล้วพูดว่า ออไปเที่ยวใช่ไม 5555 ตอนนั้น ชะงักไปนิดนึง แต่ก็ตอบ เยส ๆ ไป ประมาณนี้)
Q7: คุณจะไปกี่วัน A7: 10 วัน ช่วงหยุดยาวค่ะ
(ตอนตอบโต้ ฟีลลิ่งแบบสนุกดีอ่ะ อาจจะเพราะท่านกงฯยิ้มด้วยมั้งคะ ถามมาสิ ช้านรอตอบอยู่ 5555)
จบการสัมฯ ท่านให้ปั๊ม 4 นิ้วขวา แล้วก็บอกว่า อีก 3-5 วันเราจะส่งพาสปอร์ตไปให้คุณ วีซ่าคุณได้รับการอนุมัติแล้ว เที่ยวให้สนุกนะ
ส่วนเรารู้ว่าผ่านตั้งแต่ให้ปั๊มล่ะ เตรียมยิ้มทะลุแมสเลยค่ะ รอท่านพูดจบ เราก็ตอบไปว่า Thank you so much. Have a nice day, sir แล้วก็ไหว้สวยๆ 1 ที ออกมาเลยค่ะ
มูของเรา คือ สีชุดมงคล เช้าวันนั้น คนอื่นๆ โทนสีเดียวกันหมด แต่นี่ colorful เลยจ้า เดรสเขียวหวานเชียว แต่อดทน ท่องไว้q สีมงคลๆ และไลน์ไปขอพรพ่อกับแม่
ส่วนเอกสารที่เราเตรียมไป แล้วเค้าไม่ขอดูเลย
1. พาสปอร์ตเล่มเก่า
2. ใบรับรองเงินเดือน
3. สำเนาทะเบียนบ้าน
4. สำเนาทะเบียนสมรส
5. สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน
6. บัญชีกสิกรทุกเล่มอัพเดทแล้ว (ออมทรัพย์ กับกองทุน) รวมๆ กันหลักหมื่น
7. บัญชีไทยพาณิชย์ยังไม่อัพเดท (ออมทรัพย์) ไม่มีเงินเลย เอาไปไว้ก่อน
8. บัญชีกรุงไทยยังไม่อัพเดท (บช. เงินเดือน) เช้านั้นเราอัพที่ตู้ ตู้ไม่อ่าน error ไปอีก เงินเหลือใน บช 3,xxx บาท
9. ใบนัดสัมฯ กับใบยืนยันการกรอก DS 160
10. สลิปชำระค่าธรรมเนียม (เราทำหาย ไปขอสำเนา ที่ธนาคาร เสียไป 100 บาท)
11.แพลนเทียวคร่าว ๆ
และ 22/01/22 พาสปอร์ตเราก็มาถึงแล้วค่ะ วีซ่า 10 ปีเป๊ะ
จบการรีวิวค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้