ขอจองได้ไหมหัวใจดวงนี้ บทที่ 18 (จบบริบูรณ์)

กระทู้สนทนา

.

            งานแต่งงานของพิธาและอัญชลีจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เชิญเพียงญาติสนิท คนสำคัญ และ เพื่อนสนิทเท่านั้น ปีรติพร้อมครอบครัวก็มาแสดงความยินดีด้วย

                พ่อแม่ของปวินไม่ขุ่นเคืองใจเลยสักนิด กลับยินดีด้วยซ้ำที่เห็นอัญชลีเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ ไม่จมปักกับลูกชาย เพราะถึงอย่างไรลูกชายก็ตายไปแล้ว ตอนอยู่อัญชลีก็ไม่เคยนอกใจเลยสักครั้ง ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีเสมอมา

                 “คู่ต่อไปน้องวากับคุณพิสิฐนะ พี่จะรอ” อัญชลีแกล้งพูดแซวน้องสาวของอดีตสามี

                “วาน่ะไม่มีปัญหาเลยค่ะพี่ลี แต่อีกคนสิ…” ปีรติชำเลืองมองแฟนหนุ่ม พิสิฐยิ้มอย่างคนยอมรับชะตากรรม

               “ค้าบ! ผมก็พร้อมเสมอ แต่งพรุ่งนี้เลยเป็นไง วันนี้งานแต่งพี่พิธากับคุณลี พรุ่งนี้งานแต่งของเราดีมั้ยจ๊ะที่รัก” พิสิฐได้โอกาสแกล้งแฟนสาวคืนเสียเลย ทุกคนที่มาร่วมแสดงความยินดีในงานแต่งของพิธากับอัญชลี ต่างหัวเราะชอบใจกันใหญ่

               “บ้า! พูดอะไรวาอายญาติ ๆ นะ” สาวเจ้าค้อนขวับเข้าให้

                 “ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรนะทั้งสองคน แม่กับพ่อยินดีด้วย ว่าง ๆ ก็อย่าลืมแวะเวียนมาเยี่ยมแม่กับพ่อบ้างนะ” พ่อแม่ของปวินอวยพร  อัญชลีรักเหมือนพ่อแม่ของตนเอง หล่อนเข้าสวมกอดทั้งสองคน “ลีจะไม่ลืมคุณพ่อคุณแม่ค่ะ ลีไม่มีวันลืมวิน” อัญชลีพูดทั้งน้ำตาซึม พิธามองด้วยรอยยิ้ม ไม่ถือสาเลยสักนิด เพราะถึงอย่างไรคนปัจจุบันก็คือตนเอง ปวินไม่มีทางลุกขึ้นมาทวงคืนได้แน่นอน

                  งานแต่งงานที่แสนเรียบง่ายทว่าพิเศษสำหรับทั้งสองคนผ่านไปด้วยดี ทุก ๆ คนมีความสุขกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของทั้งสองคน

                 “ลีไม่ต้องเก็บรูปของคุณวินก็ได้นะครับ เอาโชว์ไว้ที่เดิมแหละ เพราะว่าคุณวินจะได้รู้ ได้เห็นว่าผมรักลีมากแค่ไหน รักจากหัวใจของผม รักอคิณจากใจไม่เสแสร้ง ผมพร้อมจะดูแลลีกับลูกของคุณวิน และ ลูกของเรา” พิธากล่าว ไม่ได้แกล้งพูดเพื่อเอาใจภรรยา ทว่าคิดไปแบบนั้นจริง ๆ

                พิธาไม่ใช่คนเจ้ากี้เจ้าการเรื่องมาก ยึดหัวใจและความรักเป็นหลัก แค่หัวใจของอัญชลีอยู่กับตนเพียงคนเดียว อย่างอื่นก็ไม่สนใจ อีกอย่างเป็นพ่อของอคิณด้วย ครั้นจะนำไปเก็บกลัวลูกชายไม่พอใจ

             “แหม! พูดเอาใจลีหรือเปล่าคะ” อัญชลีพูดแหย่ ปรายตามองสามีที่กำลังนั่งทำงานอยู่ พิธาก็ยังเป็นครูสอนหนังสือเหมือนเดิม ทว่าให้อัญชลีลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว อัญชลีเหนื่อยมามากแล้วช่วงที่ไม่มีใคร วันนี้ตอนนี้มีตนเองเข้ามา ก็ขอเป็นผู้ดูแลแทนปวิน

                “เปล่าเลยครับ ผมพูดจริง ๆ นะ” ครูหนุ่มกล่าว ก่อนจะลุกขยับไปดมแก้มของภรรยา “อคิณไม่อยู่น่า ไปบ้านหาปู่กับย่าตั้งสองวัน ทำน้องให้อคิณดีกว่า”

                “บ้า! ไม่อายวินบ้างหรือไง” อัญชลีแกล้งแหย่

                “อืมม์! เอ่อ คุณวินครับ คุณต้องเข้าใจผมนะครับ เมื่อก่อนลีเป็นของคุณ แต่ตอนนี้ลีเป็นของผมทั้งตัวและหัวใจ” เขาแกล้งพูดคืน พร้อมหอมแก้มโชว์ไปเลย

                    “ทะเล้นใหญ่แล้ว! ลีว่าลีนำรูปถ่ายของปวินไปไว้ในห้องลูกดีกว่าค่ะ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพ่อของอคิณ ถึงพิธาไม่ว่าและเข้าใจลีแค่ไหน ลีก็เกรงใจนะคะ อย่างที่พิธาพูดไง ปัจจุบันลีเป็นของพิธานะ” อัญชลีกล่าว จากนั้นก็ลุกไปเก็บรูปถ่ายของปวินที่โชว์ไว้ตามมุมต่าง ๆ ของบ้าน นำไปโชว์ไว้ในห้องนอนของลูกชาย

                  พิธาปล่อยให้อัญชลีทำตามใจ ตนเองอย่างไรก็ได้ตามที่เคยบอกเอาไว้ ก่อนแต่งงานกับอัญชลีตนเองได้สัญญากับปวินเอาไว้แล้วว่า จะดูแลทั้งสองคนให้ดีที่สุด จะดูแลรับช่วงแทนปวินเอง ให้ปวินสบายใจได้เลย จะไม่มีวันทำให้อัญชลีกับอคิณเสียใจอย่างเด็ดขาด

                “ที่รัก… หยุดยาวที่จะถึงนี้เราพาอคิณไปเปิดหูเปิดตาดีกว่า อีกอย่าง…. อคิณบอกผมว่าอยากมีน้องเร็ว ๆ แล้ว”

               “บ้าจริง ๆ เลยพิธา” แล้วทุกอย่างก็เงียบไป

                ……………………………………….

                 พิสิฐ & ปีรติ

                งานแต่งงานของน้องชายและน้องสาวถูกจัดขึ้นในปีถัดมา

               “ยินดีกับน้องวากับคุณพิสิฐด้วยนะคะ” ขณะรดน้ำสังข์ อัญชลีกล่าวอวยพรแก่คนทั้งสอง

                  “ยินดีด้วยไอ้เสือ รีบ ๆ ตามพี่มานะ จะได้เป็นเพื่อนเล่นด้วยกัน” พิธากล่าว พร้อมบุ้ยหน้าไปยังหน้าท้องของภรรยา ทำเอาเจ้าตัวเขินหน้าแดง

                “เอ้ยพี่! มีน้ำยาด้วยเหรอวะ” พิสิฐแหย่พี่ชาย

                 “ไอ้บ้า! ฉันนี่มันสุดยอดแล้ว เดี๋ยวเถอะแก! นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นงานแต่งน้องวานะ แกโดนแน่” พิธาพูด แขกที่อยู่บริเวณนี้หัวเราะกันใหญ่ ถือเป็นเรื่องสนุกและมีความสุขกันไป

                  “งานแต่งผมด้วย! “

                   “เอองานแต่งแกด้วย! รีบ ๆ ตามฉันมาเลย นะครับคุณวา” คราวนี้หันมาแซวน้องสะใภ้แทน

                    “แน่นอนครับพี่ คืนนี้มาแน่! หึหึ” สองพี่น้องคุยกันด้วยความทะเล้น ส่วนคนที่หน้าแดงกลับเป็นสองสาวภรรยาของทั้งคู่ ก่อนที่อัญชลีจะลากดึงแขนพิธาให้เดินออกจากตรงนี้ไป ไม่อย่างนั้นได้พูดทะเล้นกันยาวแน่ ๆ

                จากชีวิตที่ล่องลอยของทั้งคู่กลับมาเป็นชีวิตที่มีความหมายมากขึ้น จากที่ใช้ชีวิตไม่มีเป้าหมายกลับมามีเป้าหมายและความหมายมากขึ้น ทำให้รู้ว่าใช้ชีวิตทุกวันเพื่อใคร เพื่ออะไร

                อีกคนผิดหวังเสียใจแทบบ้า ชีวิตกับมามีคุณค่าเพราะอีกคน และ อีกคนไม่กล้าเปิดใจเพราะกลัวความสูญเสียที่เกิดขึ้น กลับมายิ้มได้และมองโลกได้กว้างมากขึ้น จากที่จำกัดโลกของตนเองเอาไว้ เพราะมีอีกคนเข้ามาเติมเต็มให้รู้ว่า อย่ากลัวความสูญเสีย เพราะหากสูญเสียบางสิ่งไปก็ได้สิ่งใหม่ ๆ เข้ามาเติมเต็ม

จบ…

https://pantip.com/topic/41226206…. บทที่ 17
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่