คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
สำหรับผม MRL ปัจจุบันตอบโจทย์กว่า DSLR มาก
แต่ก็ขึ้นกับลักษณะการใช้งานด้วย
ข้อดีกว่า DSLR สำหรับผมเช่น
-ไม่มี front back กวนใจ ( ถ้าเป็น DSLR เลนส์นี้ไม่มี F B ก็ไม่รู้ว่าจะไปเจอตัวไหนในอนาคตที่มี )
คนที่ใช้ MRL ไม่เจอ FB และอดีตก็เคยใช้ DSLR แล้วยังไม่เจอ FB อาจจะไม่นึกถึงข้อดีตรงนี้ของมัน
แต่คนที่เคยเจอ FB จะรำคาญตรงที่ถ้าจะเลี่ยงก็ต้องไปใช้ Live view แทน
- eye AF ช่วยให้ถ่าย portrait แล้วสะดวกในการจัด composition มากกว่าไม่มีมาก
-ศักยภาพของการใช้เลนส์ ได้ทั้ง EF และ RF
RF system ต่อ adapter ยังเอาเลนส์ EF มาใช้ได้ดีมาก
คนที่ใช้ DSLR ของ Canon หลายคนบอกว่าใช้กับ RF แล้วโฟกัสดีขึ้น เมื่อมี eye AF
พอเอามาถ่าย portrait เลนส์ที่เคยใช้ถ่ายแล้วโฟกัสยากๆ DOF บางๆอย่าง 85/1.2 L II เหมือนถูกชุบชีวิตใหม่
และอนาคต Canon วางแผนพัฒนาไปทาง RF เต็มตัวแล้ว
เลนส์ RF ดีๆมีมาก และที่จะออกมาก็อีกมาก ช่วงแรกอาจจะเป็นเลนส์แพงเพราะคุณภาพจัดเต็ม
แต่ระยะหลังเริ่มมีเลนส์ราคาถูกมากขึ้น ( ที่จริงบางเลนส์ที่ออกมาตอนแรกก็ไม่แพง อย่าง RF 35/1.8 macro IS )
เช่น RF 50/1.8 , 85/2 macro IS , 16/2.8 และเลนส์ supertele ราคาถูกอย่าง 600/11 , 800/11 , 100-400 ที่เล็ดและเบามาก
เลนส์ 70-200/2.8 L IS , 70-200/4 L IS นี่ก็เล็กและเบากว่า EF มากโดยที่คุณภาพดีกว่าเดิมด้วย
เรื่อง adapter EF to RF ที่จริงมีแบบให้ใส่ชิ้น rear filter พิเศษเพิ่มได้ด้วยเป็น drop in filter
ของ Canon จะทำมาให้มี CPL กับ ND ใส่ที่ adapter
และมี third party เช่น Kolari มีพวกทำให้เป็นโบเก้หมุน ( swirl bokeh ) ด้วย
ทำให้เลนส์บางเลนส์ที่หน้าใหญ่และนูนเช่น Fisheye , 11-24/4 ที่เดิมใช่ circular CPL,ND ไม่ได้
ก็กลับมาใช้ CPL , ND ได้
( เลนส์ธรรมดาของ EF ก็ใช้ได้ทุกตัว เพราะใส่ด้านท้าย ประหยัดเงินค่า filter ได้อีกเยอะ )
-การเห็นภาพก่อนถ่าย อันนี้ช่วยให้เรื่องการวัดแสงอะไรพวกนี้ ง่ายกว่าสมัย DSLR มาก
แต่ถ้าคนที่ใช้ ไม่คิดว่าจะได้ประโยชน์จากข้อดีเหล่านี้
ผมว่ากลับไปใช้ DSLR เถอะครับ แบตอึดกว่าเยอะเลยเพราะ OVF มันไม่เปลืองพลังงานแบบ EVF
แล้วด้วยขนาดที่ใหญ่ ถือแล้วมีส่วนดูโปรขึ้นมาบ้างด้วย
เรื่องโอนภาพผ่าน wifi ตรงนี้ผมไม่ได้สนใจเลย
เพราะเวลาเอาภาพมาลงคอม โอนผ่าน card reader ผมว่าเร็วกว่ามาก
ยิ่งถ้าหลายภาพยิ่งเห็นความต่าง
เรื่องเสียง ลองฟังดูใน youtube ผมว่ามันไม่แย่ และไม่มีผลต่อการใช้งานเลย
และมันคงปรับอะไรไม่ได้ แต่มันไม่ควรคิดว่าเป็นจุดด้อยที่สำคัญเลย
มีเรื่องข้อ 1 ของจขกท.ที่ว่า
1. เวลามองภาพ กับ ภาพที่ถ่ายออกมา ทำไมสว่างไม่เท่ากันครับ ตอนใช้ 6D Mark II มองภาพแบบไหน ถ่ายออกมาได้แบบนั้นเลย (ปรับหน้าจอสว่างเท่ากันทั้ง 2 ตัว)
ผมว่า 6 D II เป็น OVF ไม่ใช่ลักษณะที่เห็นภาพแบบไหนแล้วออกมาแบบนั้น
นอกจากจะใช้เป็นจอหลังแบบ live view ซึ่งท่าทางในการถ่ายมันไม่ค่อยถนัดเหมือนใช้ช่องมองภาพ
การที่ภาพมีโอกาสถ่ายออกมาแล้วเหมือนที่เห็น มันเป็นข้อดีของ MRL มากกว่า
ทั้งนี้ให้ไปดูด้วยว่าได้ปรับใช้ Exposure simulation หรือยัง
ถ้ายังก็ลองปรับให้ใช้คุณสมบัตินี้ก่อนครับ
แล้วถ้าภาพยังออกมามืดหรือสว่างไป ค่อยไปปรับความสว่างของ EVF หรือจอ LCD อีกที
แต่ต้องยอมรับว่าโดยธรรมชาติ เวลาดูกลางแดด เมื่อเทียบกับแสงภายนอกที่สว่างแล้ว
จอพวกนี้มันก็จะดูสว่างลดลงอยู่แล้วครับ
แต่ก็ขึ้นกับลักษณะการใช้งานด้วย
ข้อดีกว่า DSLR สำหรับผมเช่น
-ไม่มี front back กวนใจ ( ถ้าเป็น DSLR เลนส์นี้ไม่มี F B ก็ไม่รู้ว่าจะไปเจอตัวไหนในอนาคตที่มี )
คนที่ใช้ MRL ไม่เจอ FB และอดีตก็เคยใช้ DSLR แล้วยังไม่เจอ FB อาจจะไม่นึกถึงข้อดีตรงนี้ของมัน
แต่คนที่เคยเจอ FB จะรำคาญตรงที่ถ้าจะเลี่ยงก็ต้องไปใช้ Live view แทน
- eye AF ช่วยให้ถ่าย portrait แล้วสะดวกในการจัด composition มากกว่าไม่มีมาก
-ศักยภาพของการใช้เลนส์ ได้ทั้ง EF และ RF
RF system ต่อ adapter ยังเอาเลนส์ EF มาใช้ได้ดีมาก
คนที่ใช้ DSLR ของ Canon หลายคนบอกว่าใช้กับ RF แล้วโฟกัสดีขึ้น เมื่อมี eye AF
พอเอามาถ่าย portrait เลนส์ที่เคยใช้ถ่ายแล้วโฟกัสยากๆ DOF บางๆอย่าง 85/1.2 L II เหมือนถูกชุบชีวิตใหม่
และอนาคต Canon วางแผนพัฒนาไปทาง RF เต็มตัวแล้ว
เลนส์ RF ดีๆมีมาก และที่จะออกมาก็อีกมาก ช่วงแรกอาจจะเป็นเลนส์แพงเพราะคุณภาพจัดเต็ม
แต่ระยะหลังเริ่มมีเลนส์ราคาถูกมากขึ้น ( ที่จริงบางเลนส์ที่ออกมาตอนแรกก็ไม่แพง อย่าง RF 35/1.8 macro IS )
เช่น RF 50/1.8 , 85/2 macro IS , 16/2.8 และเลนส์ supertele ราคาถูกอย่าง 600/11 , 800/11 , 100-400 ที่เล็ดและเบามาก
เลนส์ 70-200/2.8 L IS , 70-200/4 L IS นี่ก็เล็กและเบากว่า EF มากโดยที่คุณภาพดีกว่าเดิมด้วย
เรื่อง adapter EF to RF ที่จริงมีแบบให้ใส่ชิ้น rear filter พิเศษเพิ่มได้ด้วยเป็น drop in filter
ของ Canon จะทำมาให้มี CPL กับ ND ใส่ที่ adapter
และมี third party เช่น Kolari มีพวกทำให้เป็นโบเก้หมุน ( swirl bokeh ) ด้วย
ทำให้เลนส์บางเลนส์ที่หน้าใหญ่และนูนเช่น Fisheye , 11-24/4 ที่เดิมใช่ circular CPL,ND ไม่ได้
ก็กลับมาใช้ CPL , ND ได้
( เลนส์ธรรมดาของ EF ก็ใช้ได้ทุกตัว เพราะใส่ด้านท้าย ประหยัดเงินค่า filter ได้อีกเยอะ )
-การเห็นภาพก่อนถ่าย อันนี้ช่วยให้เรื่องการวัดแสงอะไรพวกนี้ ง่ายกว่าสมัย DSLR มาก
แต่ถ้าคนที่ใช้ ไม่คิดว่าจะได้ประโยชน์จากข้อดีเหล่านี้
ผมว่ากลับไปใช้ DSLR เถอะครับ แบตอึดกว่าเยอะเลยเพราะ OVF มันไม่เปลืองพลังงานแบบ EVF
แล้วด้วยขนาดที่ใหญ่ ถือแล้วมีส่วนดูโปรขึ้นมาบ้างด้วย
เรื่องโอนภาพผ่าน wifi ตรงนี้ผมไม่ได้สนใจเลย
เพราะเวลาเอาภาพมาลงคอม โอนผ่าน card reader ผมว่าเร็วกว่ามาก
ยิ่งถ้าหลายภาพยิ่งเห็นความต่าง
เรื่องเสียง ลองฟังดูใน youtube ผมว่ามันไม่แย่ และไม่มีผลต่อการใช้งานเลย
และมันคงปรับอะไรไม่ได้ แต่มันไม่ควรคิดว่าเป็นจุดด้อยที่สำคัญเลย
มีเรื่องข้อ 1 ของจขกท.ที่ว่า
1. เวลามองภาพ กับ ภาพที่ถ่ายออกมา ทำไมสว่างไม่เท่ากันครับ ตอนใช้ 6D Mark II มองภาพแบบไหน ถ่ายออกมาได้แบบนั้นเลย (ปรับหน้าจอสว่างเท่ากันทั้ง 2 ตัว)
ผมว่า 6 D II เป็น OVF ไม่ใช่ลักษณะที่เห็นภาพแบบไหนแล้วออกมาแบบนั้น
นอกจากจะใช้เป็นจอหลังแบบ live view ซึ่งท่าทางในการถ่ายมันไม่ค่อยถนัดเหมือนใช้ช่องมองภาพ
การที่ภาพมีโอกาสถ่ายออกมาแล้วเหมือนที่เห็น มันเป็นข้อดีของ MRL มากกว่า
ทั้งนี้ให้ไปดูด้วยว่าได้ปรับใช้ Exposure simulation หรือยัง
ถ้ายังก็ลองปรับให้ใช้คุณสมบัตินี้ก่อนครับ
แล้วถ้าภาพยังออกมามืดหรือสว่างไป ค่อยไปปรับความสว่างของ EVF หรือจอ LCD อีกที
แต่ต้องยอมรับว่าโดยธรรมชาติ เวลาดูกลางแดด เมื่อเทียบกับแสงภายนอกที่สว่างแล้ว
จอพวกนี้มันก็จะดูสว่างลดลงอยู่แล้วครับ

แสดงความคิดเห็น
สอบถามท่านที่ใช้ Canon RP ได้พบเจอเรื่องนี้และมีทางแก้ไขมั้ยครับ
1. เวลามองภาพ กับ ภาพที่ถ่ายออกมา ทำไมสว่างไม่เท่ากันครับ ตอนใช้ 6D Mark II มองภาพแบบไหน ถ่ายออกมาได้แบบนั้นเลย (ปรับหน้าจอสว่างเท่ากันทั้ง 2 ตัว)
2. การถ่ายโอนภาพผ่าน WiFi ของตัวกล้อง RP มาที่ iPhone ผ่าน App Camera Connnect ส่งได้ค่อนข้างช้า แต่พอใช้ 6D Mark II ส่งภาพได้เร็วกว่ามากๆ ปกติไม่ค่อยเอาการ์ดมาเสียบคอมครับ ชอบถ่ายรูปแล้วโอนไฟล์มามือถือ
3. เสียงชัทเตอร์ RP ต่างจาก 6D Mk II เลยครับ แต่พอลองเอา R6 มาใช้ มีเสียงชัทเตอร์ที่นุ่มใกล้เคียงกว่ามาก
ไม่ทราบว่าเป็นข้อจำกัดของ RP หรอครับ หรือว่าสามารถมีหนทางแก้ไขได้ครับ
ขอบคุณมากครับ