คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
1) ช่วงปี 1913-14 เนี่ย หยวนซื่อไควิ่งเต้นค่อนข้างมากในการขอกู้ยืมและการยอมรับจากนานาประเทศหน่ะครับ โดยหลักๆเขาสัญญาเรื่องการนำสันติสุขและความสงบมาสู่ประเทศ ซึ่ง Sponsor ทั้งหลาย (อันได้แก่ชาติมหาอำนาจ) สนใจตรงนี้ เนื่องจากหากจีนสงบสุขก็กระทำการค้าขายได้ดี เงินกู้ที่ให้ไปก็จะออกดอกผลมาคืนได้อย่างเต็มที่
2) ปี 1914-15 เกิดมหาสงครามในยุโรป ซึ่งกระทบต่อฐานะทางการเงินของมหาอำนาจยุโรปมาก ดังนั้นมหาอำนาจยุโรปจะเข้มงวดเรื่องการปล่อยกู้ต่อไปมาก อันนี้เป็นปัญหาแรกที่หยวนซื่อไคต้องเผชิญ
3) ผลประโยชน์ของญี่ปุ่นในจีน ที่ญี่ปุ่นเข้ามาครองแทนเยอรมัน หยวนซื่อไคและรัฐบาลเป่ยหยางไม่ยอมลงนามโอนผลประโยชน์และข้อเรียกร้องของญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นรั้งรอและพยายามใช้การสนับสนุนหยวนซื่อไคเป็นข้อต่อรองในเรื่องนี้
4) แผ่นดินจีนในปี 1915 ไม่ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียว เนื่องจากฝ่ายนิยมสาธารณรัฐยังกุมอำนาจอยู่ทางใต้ แล้วก็จับตาดูหยวนซื่อไคกับรัฐบาลเป่ยหยางอยู่ (พวกเค้าแพ้ในการชิงอำนาจทางการเมืองเมื่อปี 1913 แต่ยังไม่โดนกวาดล้าง)
กลางปี 1915 หยวนซื่อไคเริ่มส่งสัญญาณการจะสถาปนาตนเป็นจักรพรรดิ ด้วยการให้มือมืดหรือสมุนทำการเผยแพร่หรือกระจายข่าวนิมิตรพิสดารนานาประการ รวมถึงมีการเสนอให้หยวนซื่อไคขึ้นครองราชย์ แต่หยวนซื่อไคปฏิเสธหลายครั้งตามธรรมเนียม
สุดท้ายปลายปี 1915 ตัวแทนจากมณฑลต่างๆ (ที่เป็นคนของหยวนซื่อไค) ก็สนับสนุนให้เขาขึ้นครองราชย์ แต่คนที่สนับสนุนก็แค่ตัวแทนที่หยวนซื้อตัวไหนหน่ะครับ คนที่กุมอำนาจทหารของคนที่กุมอำนาจปกครองตามมณฑลต่างๆไม่ได้เห็นด้วย แต่ยังไม่กล้าจะออกมาขัด
พอหยวนซื่อไคสถาปนาตัวเป็นจักรพรรดิ กลุ่มแรกที่ออกมาขัดก็คือขุนศึกในยูนนาน และพอมีคนแรกลุกขึ้นมา กองทัพหรือขุนศึกจากมณฑลอื่นๆก็ลุกขึ้นคัดค้านตามไปด้วย
งานนี้เลยเหมือนไฟไหม้ฟาง เพราะทุกคนพร้อมจะคัดค้านและรอคนแรกลุกออกมา แถมพอคัดค้านกันหนักๆ แม้แต่ขุนศึกเป่ยหยางที่เป็นมือเป็นเท้าของหยวนเองก็คัดค้านและไม่ฟังคำสั่งเขาไปด้วย
ผลกระทบต่อมาคือ เหล่าชาติมหาอำนาจที่วุ่นๆกับสงครามในยุโรป และไม่อยากให้ผลประโยชน์ในจีนกระทบ ก็ออกมาคว่ำบารตรประนามหยวนกันใหญ่ เพราะพวกเขาเล็งเห็นว่าหยวนซื่อไคไปไม่รอด หากสนับสนุนหยวนซื้อไคต่อเงินทุนที่ลงไว้ก็ต้องขาดทุนหมด
สุดท้ายหยวนซื่อไคเลยต้องโยนผ้ายอมแพ้ภายหลังจากผ่านไปแค่ไม่กี่เดือนครับ
2) ปี 1914-15 เกิดมหาสงครามในยุโรป ซึ่งกระทบต่อฐานะทางการเงินของมหาอำนาจยุโรปมาก ดังนั้นมหาอำนาจยุโรปจะเข้มงวดเรื่องการปล่อยกู้ต่อไปมาก อันนี้เป็นปัญหาแรกที่หยวนซื่อไคต้องเผชิญ
3) ผลประโยชน์ของญี่ปุ่นในจีน ที่ญี่ปุ่นเข้ามาครองแทนเยอรมัน หยวนซื่อไคและรัฐบาลเป่ยหยางไม่ยอมลงนามโอนผลประโยชน์และข้อเรียกร้องของญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นรั้งรอและพยายามใช้การสนับสนุนหยวนซื่อไคเป็นข้อต่อรองในเรื่องนี้
4) แผ่นดินจีนในปี 1915 ไม่ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียว เนื่องจากฝ่ายนิยมสาธารณรัฐยังกุมอำนาจอยู่ทางใต้ แล้วก็จับตาดูหยวนซื่อไคกับรัฐบาลเป่ยหยางอยู่ (พวกเค้าแพ้ในการชิงอำนาจทางการเมืองเมื่อปี 1913 แต่ยังไม่โดนกวาดล้าง)
กลางปี 1915 หยวนซื่อไคเริ่มส่งสัญญาณการจะสถาปนาตนเป็นจักรพรรดิ ด้วยการให้มือมืดหรือสมุนทำการเผยแพร่หรือกระจายข่าวนิมิตรพิสดารนานาประการ รวมถึงมีการเสนอให้หยวนซื่อไคขึ้นครองราชย์ แต่หยวนซื่อไคปฏิเสธหลายครั้งตามธรรมเนียม
สุดท้ายปลายปี 1915 ตัวแทนจากมณฑลต่างๆ (ที่เป็นคนของหยวนซื่อไค) ก็สนับสนุนให้เขาขึ้นครองราชย์ แต่คนที่สนับสนุนก็แค่ตัวแทนที่หยวนซื้อตัวไหนหน่ะครับ คนที่กุมอำนาจทหารของคนที่กุมอำนาจปกครองตามมณฑลต่างๆไม่ได้เห็นด้วย แต่ยังไม่กล้าจะออกมาขัด
พอหยวนซื่อไคสถาปนาตัวเป็นจักรพรรดิ กลุ่มแรกที่ออกมาขัดก็คือขุนศึกในยูนนาน และพอมีคนแรกลุกขึ้นมา กองทัพหรือขุนศึกจากมณฑลอื่นๆก็ลุกขึ้นคัดค้านตามไปด้วย
งานนี้เลยเหมือนไฟไหม้ฟาง เพราะทุกคนพร้อมจะคัดค้านและรอคนแรกลุกออกมา แถมพอคัดค้านกันหนักๆ แม้แต่ขุนศึกเป่ยหยางที่เป็นมือเป็นเท้าของหยวนเองก็คัดค้านและไม่ฟังคำสั่งเขาไปด้วย
ผลกระทบต่อมาคือ เหล่าชาติมหาอำนาจที่วุ่นๆกับสงครามในยุโรป และไม่อยากให้ผลประโยชน์ในจีนกระทบ ก็ออกมาคว่ำบารตรประนามหยวนกันใหญ่ เพราะพวกเขาเล็งเห็นว่าหยวนซื่อไคไปไม่รอด หากสนับสนุนหยวนซื้อไคต่อเงินทุนที่ลงไว้ก็ต้องขาดทุนหมด
สุดท้ายหยวนซื่อไคเลยต้องโยนผ้ายอมแพ้ภายหลังจากผ่านไปแค่ไม่กี่เดือนครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมหยวนซื่อข่ายถึงโดนพวกเดียวกัน และประเทศพันธมิตรหักหลังทันทีหลังขึ้นเป็นจักรพรรดิ์