ยอดยังสูง ไทยป่วยโควิดใหม่ 7,793 คน ผล ATK อีก 2,039 ราย ดับ 18 คน
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3132712
ยอดยังสูง ไทยป่วยโควิดใหม่ 7,793 คน ผล ATK อีก 2,039 ราย ดับ 18 คน
เมื่อวันที่ 15 มกราคม ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ได้เผยแพร่ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2565 รวม 7,793 ราย จำแนกเป็น
ผู้ป่วยจากในประเทศ 7,523 ราย
ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 270 ราย
ผู้ป่วยสะสม 92,973 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 5,202 ราย
หายป่วยสะสม 48,630 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
ผู้ป่วยกำลังรักษา 77,368 ราย
เสียชีวิต 18 ราย
เปิด 2 ปีโควิดทุบรายได้รัฐหายกว่า6แสนล้าน
https://www.bangkokbiznews.com/business/982556
คลังเผยรายได้รัฐบาลในช่วง 2 ปีที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 คือ ปี 2563-64 ต่ำเป้าหมายกว่า 6 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นยอดการจัดเก็บรายได้กรมสรรพากรที่ต่ำเป้าหมายกว่า 4 แสนล้านบาท โดยเป็นผลพวงจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยยอดการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร ซึ่งเป็นกรมหลักในการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลว่า หลังจากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 กิจกรรมทางเศรษฐกิจได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งผลให้ยอดการจัดเก็บรายได้ของกรมลดลงตามไปด้วย
โดยยอดการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2563 และ 2564 ที่ต่ำกว่าประมาณการกว่า 3 แสนล้านบาทในแต่ละปีหรือมียอดรวมที่จัดเก็บต่ำเป้ากว่า 6 แสนล้านบาทนั้น เป็นการจัดเก็บรายได้ที่ต่ำกว่าเป้าหมายของกรมสรรพากรราว 4 แสนล้านบาท หรือ เฉลี่ยต่ำเป้าปีละกว่า 2 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากยอดการจัดเก็บรายได้หลักในแต่ละตัวของกรมสรรพากรจะพบว่า มียอดลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 กล่าวคือ ในปีงบประมาณ 2562 ยอดการจัดเก็บรายได้จากภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งเก็บจากผู้ประกอบธุรกิจต่างๆจะพบว่า มียอดจัดเก็บสูงถึง 6.94 แสนล้านบาท แต่ในปีงบประมาณ 2563 ยอดจัดเก็บลดลงมาอยู่ที่ 6.08 แสนล้านบาท และ 6.25 แสนล้านบาท ในปีงบประมาณ 2564 ส่วน 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 จัดเก็บได้ 4.4 หมื่นล้านบาท
ส่วนยอดจัดเก็บรายได้จากบุคคลธรรมดา ในปีงบประมาณ 2562 มียอดการจัดเก็บที่ 3.36 แสนล้านบาท ปีงบประมาณ 2563 อยู่ในระดับเดียวกัน คือ 3.36 แสนล้านบาท ส่วนปีงบประมาณ 2564 ลดลงมาอยู่ที่ 3.34 แสนล้านบาท และ ช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท
สำหรับยอดการจัดเก็บรายได้ภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เนื่องจาก รัฐบาลได้อัดมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปีงบประมาณ 2562 ยอดการจัดเก็บรายได้อยู่ที่ 7.99 แสนล้านบาท ปีงบประมาณ 2563 อยู่ที่ 7.45 แสนล้านบาท ปีงบประมาณ 2564 อยู่ที่ 7.93 แสนล้านบาท ส่วน 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 1.39 แสนล้านบาท
สาวร่ำไห้ ลูกหิวไม่มีเงินซื้อ ก่อเหตุขโมยขนมปัง เผยไม่ได้ตั้งใจทำร้ายพนง.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6834824
รวบสาวตกงานขโมยขนมปังให้ลูก ถูกพนักงานร้านจับได้ หันไปเจอชั้นขายมีด คว้ามาขู่พนักงานเปิดทางหนีได้รับบาดเจ็บ ร่ำไห้รับผิด
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 14 ม.ค.65 ที่ สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ร
ณภัฎ ทับทิมธงไชย ผกก.สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี พ.ต.ท.
ศุภชัย ศรีศักดิ์ รองผกก.สส.สภ.บางแม่นาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางแม่นาง ร่วมกันจับกุมตัว นาง
สุธาริน อายุ 37 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.6/2565 ลงวันที่ 7 ม.ค.65 พร้อมกลางภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ พยายามฆ่า และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ ดำเนินคดี 3 ข้อหา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 64 เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ สภ.บางแม่นาง รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายในร้านสะดวกซื้อบิ๊กซี มินิ สาขาซอยแก้วอิน ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ พบ น.ส. เอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นพนักงานได้รับบาดเจ็บถูกฟันที่ชายโครงข้างซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางใหญ่ โดยแพทย์ต้องทำการเย็บบาดแผลให้กว่า 20 เข็ม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านสะดวกซื้อ และติดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนสืบทราบตัวคนร้าย หลังก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปพร้อมสามีใหม่กับลูกอีก 2 คน โดยไปพักหลบซ่อนตัวอยู่ที่ห้องพักในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งที่เพชรเกษม 81 ซึ่งเป็นที่ทำงานของแฟนใหม่ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.บางแม่นาง
ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ พบว่า น.ส.
สุธาริน สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีส้ม สวมกางเกงขาสั้นลายดอก สะพายกระเป๋าสีเทา สวมแมสสีขาว เข้ามาในร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะก่อเหตุหยิบขนมปัง 2 ชิ้น เยลลี่ 1 ถุง น้ำอัดลม 1 ขวด ใส่กระเป๋าสะพายที่พกมา จนถูกพนักงานของร้านขอตรวจค้นก็พบกับของกลางที่ขโมยใส่กระเป๋าสะพาย มูลค่า 59 บาท จึงได้ควบคุมตัวไว้และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ระหว่างรอนั้น น.ส.
สุธาริน ซึ่งยืนอยู่ตรงชั้นขายมีดพอดี จึงหันไปหยิบมีดสเต็ก ออกมาขู่พนักงาน เพื่อจะเปิดทางวิ่งหลบหนี แต่ถูกพนักงานร้านเข้ามาขวาง จึงใช้มีดดังกล่าวจ้วงแทงไป 1 ครั้ง ถูกพนักงานจนเสื้อขาดเป็นแผลฉกรรจ์ก่อนจะวิ่งหลบหนีออกจากร้านไป
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ในวันเกิดเหตุตนได้เข้าไปในร้านสะดวกซื้อกับลูกชายคนโต โดยให้ลูกรออยู่หน้าร้าน จากนั้นจึงเข้าไปขโมยขนมปัง เยลลี่ และน้ำอัดลมเพื่อจะนำมาให้ลูกทั้ง 2 คน โดยคนโตอายุ 11 ปี คนเล็ก 7 ปี เนื่องจากตนกับสามีไม่มีงานทำและไม่มีเงิน ลูกบ่นว่าหิวอยากให้ลูกอิ่ม จึงตัดสินใจเข้าไปขโมยสินค้า ก่อนจะถูกพนักงานร้านจับตัวได้
หลังถูกพนักงานจับกุมตัว ตนจึงได้ให้ลูกกลับบ้านก่อนไม่อยากให้ลูกเห็นว่าตนเองถูกจับ ระหว่างที่ยืนรอตนมองไปเห็นชั้นขายมีดมีมีดแขวนอยู่พอดี จึงได้หยิบมีดมาเพื่อขู่ให้พนักงานเปิดทางให้ตนหลบหนี ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายให้ได้รับบาดเจ็บ ตนต้องขอโทษพนักงานคนนั้นด้วย
เบื้องต้นพนักงานร้านสะดวกซื้ออาการปลอดภัยแล้ว สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
JJNY : ป่วยใหม่7,793 ดับ18│2ปี รายได้รัฐหายกว่า6แสนล.│ลูกหิวไม่มีเงินซื้อ ขโมยขนมปัง│ด.ต.ท่องเที่ยวเครียดเงิน จ่อขมับดับ
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3132712
ยอดยังสูง ไทยป่วยโควิดใหม่ 7,793 คน ผล ATK อีก 2,039 ราย ดับ 18 คน
เมื่อวันที่ 15 มกราคม ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ได้เผยแพร่ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2565 รวม 7,793 ราย จำแนกเป็น
ผู้ป่วยจากในประเทศ 7,523 ราย
ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 270 ราย
ผู้ป่วยสะสม 92,973 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 5,202 ราย
หายป่วยสะสม 48,630 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
ผู้ป่วยกำลังรักษา 77,368 ราย
เสียชีวิต 18 ราย
เปิด 2 ปีโควิดทุบรายได้รัฐหายกว่า6แสนล้าน
https://www.bangkokbiznews.com/business/982556
คลังเผยรายได้รัฐบาลในช่วง 2 ปีที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 คือ ปี 2563-64 ต่ำเป้าหมายกว่า 6 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นยอดการจัดเก็บรายได้กรมสรรพากรที่ต่ำเป้าหมายกว่า 4 แสนล้านบาท โดยเป็นผลพวงจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยยอดการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร ซึ่งเป็นกรมหลักในการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลว่า หลังจากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 กิจกรรมทางเศรษฐกิจได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งผลให้ยอดการจัดเก็บรายได้ของกรมลดลงตามไปด้วย
โดยยอดการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2563 และ 2564 ที่ต่ำกว่าประมาณการกว่า 3 แสนล้านบาทในแต่ละปีหรือมียอดรวมที่จัดเก็บต่ำเป้ากว่า 6 แสนล้านบาทนั้น เป็นการจัดเก็บรายได้ที่ต่ำกว่าเป้าหมายของกรมสรรพากรราว 4 แสนล้านบาท หรือ เฉลี่ยต่ำเป้าปีละกว่า 2 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากยอดการจัดเก็บรายได้หลักในแต่ละตัวของกรมสรรพากรจะพบว่า มียอดลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 กล่าวคือ ในปีงบประมาณ 2562 ยอดการจัดเก็บรายได้จากภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งเก็บจากผู้ประกอบธุรกิจต่างๆจะพบว่า มียอดจัดเก็บสูงถึง 6.94 แสนล้านบาท แต่ในปีงบประมาณ 2563 ยอดจัดเก็บลดลงมาอยู่ที่ 6.08 แสนล้านบาท และ 6.25 แสนล้านบาท ในปีงบประมาณ 2564 ส่วน 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 จัดเก็บได้ 4.4 หมื่นล้านบาท
ส่วนยอดจัดเก็บรายได้จากบุคคลธรรมดา ในปีงบประมาณ 2562 มียอดการจัดเก็บที่ 3.36 แสนล้านบาท ปีงบประมาณ 2563 อยู่ในระดับเดียวกัน คือ 3.36 แสนล้านบาท ส่วนปีงบประมาณ 2564 ลดลงมาอยู่ที่ 3.34 แสนล้านบาท และ ช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท
สำหรับยอดการจัดเก็บรายได้ภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เนื่องจาก รัฐบาลได้อัดมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปีงบประมาณ 2562 ยอดการจัดเก็บรายได้อยู่ที่ 7.99 แสนล้านบาท ปีงบประมาณ 2563 อยู่ที่ 7.45 แสนล้านบาท ปีงบประมาณ 2564 อยู่ที่ 7.93 แสนล้านบาท ส่วน 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 1.39 แสนล้านบาท
สาวร่ำไห้ ลูกหิวไม่มีเงินซื้อ ก่อเหตุขโมยขนมปัง เผยไม่ได้ตั้งใจทำร้ายพนง.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6834824
รวบสาวตกงานขโมยขนมปังให้ลูก ถูกพนักงานร้านจับได้ หันไปเจอชั้นขายมีด คว้ามาขู่พนักงานเปิดทางหนีได้รับบาดเจ็บ ร่ำไห้รับผิด
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 14 ม.ค.65 ที่ สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.รณภัฎ ทับทิมธงไชย ผกก.สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รองผกก.สส.สภ.บางแม่นาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางแม่นาง ร่วมกันจับกุมตัว นางสุธาริน อายุ 37 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.6/2565 ลงวันที่ 7 ม.ค.65 พร้อมกลางภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ พยายามฆ่า และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ ดำเนินคดี 3 ข้อหา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 64 เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ สภ.บางแม่นาง รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายในร้านสะดวกซื้อบิ๊กซี มินิ สาขาซอยแก้วอิน ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ พบ น.ส. เอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นพนักงานได้รับบาดเจ็บถูกฟันที่ชายโครงข้างซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางใหญ่ โดยแพทย์ต้องทำการเย็บบาดแผลให้กว่า 20 เข็ม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านสะดวกซื้อ และติดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนสืบทราบตัวคนร้าย หลังก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปพร้อมสามีใหม่กับลูกอีก 2 คน โดยไปพักหลบซ่อนตัวอยู่ที่ห้องพักในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งที่เพชรเกษม 81 ซึ่งเป็นที่ทำงานของแฟนใหม่ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.บางแม่นาง
ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ พบว่า น.ส.สุธาริน สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีส้ม สวมกางเกงขาสั้นลายดอก สะพายกระเป๋าสีเทา สวมแมสสีขาว เข้ามาในร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะก่อเหตุหยิบขนมปัง 2 ชิ้น เยลลี่ 1 ถุง น้ำอัดลม 1 ขวด ใส่กระเป๋าสะพายที่พกมา จนถูกพนักงานของร้านขอตรวจค้นก็พบกับของกลางที่ขโมยใส่กระเป๋าสะพาย มูลค่า 59 บาท จึงได้ควบคุมตัวไว้และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ระหว่างรอนั้น น.ส.สุธาริน ซึ่งยืนอยู่ตรงชั้นขายมีดพอดี จึงหันไปหยิบมีดสเต็ก ออกมาขู่พนักงาน เพื่อจะเปิดทางวิ่งหลบหนี แต่ถูกพนักงานร้านเข้ามาขวาง จึงใช้มีดดังกล่าวจ้วงแทงไป 1 ครั้ง ถูกพนักงานจนเสื้อขาดเป็นแผลฉกรรจ์ก่อนจะวิ่งหลบหนีออกจากร้านไป
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ในวันเกิดเหตุตนได้เข้าไปในร้านสะดวกซื้อกับลูกชายคนโต โดยให้ลูกรออยู่หน้าร้าน จากนั้นจึงเข้าไปขโมยขนมปัง เยลลี่ และน้ำอัดลมเพื่อจะนำมาให้ลูกทั้ง 2 คน โดยคนโตอายุ 11 ปี คนเล็ก 7 ปี เนื่องจากตนกับสามีไม่มีงานทำและไม่มีเงิน ลูกบ่นว่าหิวอยากให้ลูกอิ่ม จึงตัดสินใจเข้าไปขโมยสินค้า ก่อนจะถูกพนักงานร้านจับตัวได้
หลังถูกพนักงานจับกุมตัว ตนจึงได้ให้ลูกกลับบ้านก่อนไม่อยากให้ลูกเห็นว่าตนเองถูกจับ ระหว่างที่ยืนรอตนมองไปเห็นชั้นขายมีดมีมีดแขวนอยู่พอดี จึงได้หยิบมีดมาเพื่อขู่ให้พนักงานเปิดทางให้ตนหลบหนี ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายให้ได้รับบาดเจ็บ ตนต้องขอโทษพนักงานคนนั้นด้วย
เบื้องต้นพนักงานร้านสะดวกซื้ออาการปลอดภัยแล้ว สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป