มาดูพระจันทร์กลางวันที่ Arvika กันไหม?

พระจันทร์กลางวันที่ Arvika Sweden

ตื่นมากับอากาศลบ 12 องศาและหาทางเปิดประตูบ้านไม่ได้ในขณะที่ทุกคนยังหลับอยู่ เมื่อความพยายามเปิดประตูหมดลงแต่ยังคงต้องออกไปวิ่งให้ได้ สุดท้ายเลยต้องเสี่ยงตายโดดลงจากระเบียงบ้านที่สูงสองเมตรลงมาได้อย่างปลอดภัย

ที่สวีเดนเค้าไม่บังคับให้ใส่ Mark นะคะ เพราะยอดติดเชื้อเค้าน้อยที่สุดในยุโรป ซึ่งชาวคณะเราทุกคนแฮปปี้มาก อยากใช้ชีวิตแบบ อัน มาร์ค มาตลอด 2 ปี ส่วนเมืองไทยคิดว่าคงต้องรออีกอย่างน้อย 6-7 ปี 🌚

บ้านทึ่นึ่แต่ละเมืองเค้าจะกำหนดว่าให้สร้างเป็นสีอะไร ใครทึ่จะสร้างเป็นสีอื่นต้องขออนุญาตกับทางการก่อนเท่านั้น

หนึ่งสิ่งที่ชอบของที่นี่คือฟรี Wi-Fi ทุกที่ไม่ว่าร้าน ห้างไหนแม้แต่บนเขาที่ออกไปวิ่งก็ยังมี  เอาสิ

เราค้นพบว่าคนที่มาจากเมืองโคตรร้อนอย่างเราสามารถทนต่อความเหน็บหนาวได้มากกว่าคนท้องถิ่นเยอะทีเดียว ออกไปวิ่งเราสวม ชุดวอร์ม ข้างในสปอร์ตบรา คือเอาอยู่ ยกเว้นอวัยวะส่วนเดียวที่ปิดยังไงก็เอาไม่อยู่ ให้ทายว่าส่วนไหน? ใครทายถูกเดี๋ยวซื้อช็อกโกแลตไปฝาก

เช้านี้ได้วิ่งดูบ้านน่ารักๆ ฟังเพลง”ท้องฟ้า” ใน jook ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยใจฟูๆมากแล้ว

เริ่มทริปด้วยเซลฟี่ค่ะ🤣



บรรยากาศ


















ขอเล่าย้อนนะคะ เนื้อความด้านบน Copy มาจาก Fb อีกที

ช่วงคริสต์มาส ได้มีโอกาสไปเที่ยว Arvika ซึ่งเป็นบ้านของพ่อแม่แฟนน้องค่ะ ห่างจากตัวเมือง Sweden ออกไป 5 ชั่วโมง  โดยเช่ารถยนต์จาก Airport กว่าจะถึงที่พักเรียกว่าเหนื่อย เมื่อยก้น จนหมดสนุกไปเลยค่ะ

ได้อยู่ที่นี่ 3 วัน 3 คืน กิจกรรมฉลองคริสต์มาสคือ กิน กิน และกินจริงๆค่ะ ฮ่าๆ ดีนะที่อาหารไม่ค่อยถูกปาก เลยแทนที่น้ำหนักจะเพิ่ม จบทริปน้ำหนักลงซะงั้นค่ะ