สวัสดีค่ะ อยากสอบถามความคิดเห็นจากหลายๆ คนค่ะ เผื่อจะมีมุมมองที่กว้างขึ้น และเลิกลังเลใจค่ะ
ส่วนตัวเป็นคนอดทน ไม่ท้อถอย มีความตั้งใจ และอยากพัฒนาตัวเองอยู่เสมอค่ะ ชอบประเมินตัวเองว่าที่ผ่านมาเราได้ achievement อะไรบ้าง ต้องพัฒนาตรงไหนเพิ่มอีก จึงไม่หยุดที่จะพยายามสร้างหรือหาโอกาสเข้าหาตัวค่ะ
ปัจจุบันมีประสบการณ์ทำงานทั้งหมดจาก 2 ที่ เกือบ 6 ปีแล้วค่ะ ตอนนี้เป็น Sales & Marketing Executive in retail business อยู่บริษัทฯ แห่งนึง ซึ่งเน้นการส่งออก 90% แต่เราดูฝั่ง Deomestics (sale proportion ~7-10%) นะคะ บริษัทฯ ไม่ใหญ่ค่ะ ดังนั้น นอกเหนือจากความรับผิดชอบด้านการขายเข้าห้าง Modern trade, convenient store, online ทุกช่องทางด้วยตัวเองแล้ว เราแลดูผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ Day1 ตั้งแต่การวางแผนออกวางจำหน่าย การตั้งราคา การวางกลยุทธ์ และการหาแนวทางพัฒนาสินค้าร่วมกับ R&D ความท้าทายคือเป็นสินค้า Niche มาก ต้องสร้าง perception ให้กับลูกค้า ซึ่งในประเทศไทยยังคงมีจำนวน % Target ที่ต่ำมากๆ แต่ก็ยอมรับว่ากำลังโตขึ้นค่ะ แต่จากจำนวนที่น้อยมากไม่ถึง 1% ในไทย ทีนี่ Target ที่บริษัทฯ ตั้งสูงมาก จนไม่มีทางแตะได้เลยค่ะ ทำให้แน่นอนว่า Performance ในเรื่องของการ Achieve target เรามีความเป็นไปได้ยากมากๆ ซึ่งส่งผลต่อโบนัสเราเช่นกัน ซึ่งปีก่อนก็ไม่ได้ค่ะ ปีนี้ยังไม่ออก
แต่ถ้ามองในด้านของการได้ตัดสินใจ ได้ลงมือทำ ที่นี่ก็เปิดโอกาสให้ได้ลองค่ะ เพราะไม่ได้มีหัวหน้างานที่ให้ความรู้ด้านนี้โดยตรง เราต้องทำแพลนไปเสนอ Ceo/Cfo และเขาอนุมัติอะไรทำนองนี้ค่ะ ก่อนหน้านี้เรามีแพลนจะออกค่ะ เพราะเนื่องด้วยเราขึ้นตรงกับคนที่ไม่ได้มีความคิดฝั่ง Sales Dept คุยงานด้วยแล้วเหนื่อยมากค่ะ รู้สึกพัฒนาไปยากเพราะอาจไม่มีคน guide ที่มีประสบการณ์มากๆ แต่ว่าเขาดึงไว้อยากให้อยู่ต่อ ตัวเราเอง(อาจจะแย่หน่อยๆ) เลยต่อรองเขา และเขายินดีจะปรับตำแหน่งเป็น Assistant level และเพิ่มเงินเดือนขึ้น ~15-20% (รวมการขึ้นเงินเดือนปลายปีแล้ว) ไม่มีค่า commission , OT, น้ำมันเบิกได้ตามจริง อยู่แล้ว ตอนนั้นจึงอยู่ต่อ ทั้งนี้หลังจากนั้นมาทั้งเขาและเราก็ปรับตัวเข้าหากัน มันดีขึ้นค่ะ
แต่แล้ววันนึง ได้รับการตอบรับจากบริษัทฯ แห่งนึงที่มีบริษัทฯ แม่เป็นบริษัทใหญ่ ในตำแหน่ง Key account manager (Tier มีหัวหน้า 1 คน และหัวหน้านั้นอยู่ภายใต้ Ceo อีก 1 คน) งานนี้มาจากช่วงที่เราสมัครไว้ว่าจะออกรอบแรก หน้าที่คือติดต่อประสานงานกับโรงงานเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้า เน้นการขายต่างประเทศ ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงเราไม่ได้มีประกบการณ์ด้านส่งออกมาก่อนเลยค่ะ แต่คิดเอาเองว่าสามารถพัฒนาได้ และเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ในเรื่องของ benefit จะได้เท่ากับการที่ๆปัจจุบันขึ้นให้ค่ะ แต่เมื่อผ่านโปรอาจปรับขึ้น 4-8% แล้วแต่ผลการประเมินเงิน มี commission ให้, ไม่มี OT, น้ำมันเบิกตามจริง, มีต้องขับรถไปโรงงานกาญจนบุรีบ้างครั้งคราว แต่ส่วนมากประชุมออนไลน์ได้ค่ะ
ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ ตกอยู่ในภาวะนี้ คิดว่าควรไปทางไหนดีคะ ตอนนี้มืดมากเลย เพราะกำลังทำตัวรักพี่เสียดายน้อง 😞
ปล. สายงานไหนจะไปได้ไกลกว่ากันคะ ถ้าอนาคตเราก็อยากทำธุรกิจส่วนตัว ระหว่าง modern trade vs export business
เสริมนิดนึงค่ะ ไปดูดวงมา เขาแนะนำให้อยู่ต่อ บอกว่าให้ลืมอดีตอยู่กับปัจจุบัน มันกำลังดีขึ้น หัวหน้าเขาโอเคกับเรามาก ไม่มีดวงไปที่ใหม่นะ แต่เหมือนใจจะฝืนอยากไป ไปก็ได้อยู่ก็ได้ เขาว่ามาแบบนี้ค่ะ
ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ 🙏🙏
ทำงานที่เดิม vs ที่ใหม่
ส่วนตัวเป็นคนอดทน ไม่ท้อถอย มีความตั้งใจ และอยากพัฒนาตัวเองอยู่เสมอค่ะ ชอบประเมินตัวเองว่าที่ผ่านมาเราได้ achievement อะไรบ้าง ต้องพัฒนาตรงไหนเพิ่มอีก จึงไม่หยุดที่จะพยายามสร้างหรือหาโอกาสเข้าหาตัวค่ะ
ปัจจุบันมีประสบการณ์ทำงานทั้งหมดจาก 2 ที่ เกือบ 6 ปีแล้วค่ะ ตอนนี้เป็น Sales & Marketing Executive in retail business อยู่บริษัทฯ แห่งนึง ซึ่งเน้นการส่งออก 90% แต่เราดูฝั่ง Deomestics (sale proportion ~7-10%) นะคะ บริษัทฯ ไม่ใหญ่ค่ะ ดังนั้น นอกเหนือจากความรับผิดชอบด้านการขายเข้าห้าง Modern trade, convenient store, online ทุกช่องทางด้วยตัวเองแล้ว เราแลดูผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ Day1 ตั้งแต่การวางแผนออกวางจำหน่าย การตั้งราคา การวางกลยุทธ์ และการหาแนวทางพัฒนาสินค้าร่วมกับ R&D ความท้าทายคือเป็นสินค้า Niche มาก ต้องสร้าง perception ให้กับลูกค้า ซึ่งในประเทศไทยยังคงมีจำนวน % Target ที่ต่ำมากๆ แต่ก็ยอมรับว่ากำลังโตขึ้นค่ะ แต่จากจำนวนที่น้อยมากไม่ถึง 1% ในไทย ทีนี่ Target ที่บริษัทฯ ตั้งสูงมาก จนไม่มีทางแตะได้เลยค่ะ ทำให้แน่นอนว่า Performance ในเรื่องของการ Achieve target เรามีความเป็นไปได้ยากมากๆ ซึ่งส่งผลต่อโบนัสเราเช่นกัน ซึ่งปีก่อนก็ไม่ได้ค่ะ ปีนี้ยังไม่ออก
แต่ถ้ามองในด้านของการได้ตัดสินใจ ได้ลงมือทำ ที่นี่ก็เปิดโอกาสให้ได้ลองค่ะ เพราะไม่ได้มีหัวหน้างานที่ให้ความรู้ด้านนี้โดยตรง เราต้องทำแพลนไปเสนอ Ceo/Cfo และเขาอนุมัติอะไรทำนองนี้ค่ะ ก่อนหน้านี้เรามีแพลนจะออกค่ะ เพราะเนื่องด้วยเราขึ้นตรงกับคนที่ไม่ได้มีความคิดฝั่ง Sales Dept คุยงานด้วยแล้วเหนื่อยมากค่ะ รู้สึกพัฒนาไปยากเพราะอาจไม่มีคน guide ที่มีประสบการณ์มากๆ แต่ว่าเขาดึงไว้อยากให้อยู่ต่อ ตัวเราเอง(อาจจะแย่หน่อยๆ) เลยต่อรองเขา และเขายินดีจะปรับตำแหน่งเป็น Assistant level และเพิ่มเงินเดือนขึ้น ~15-20% (รวมการขึ้นเงินเดือนปลายปีแล้ว) ไม่มีค่า commission , OT, น้ำมันเบิกได้ตามจริง อยู่แล้ว ตอนนั้นจึงอยู่ต่อ ทั้งนี้หลังจากนั้นมาทั้งเขาและเราก็ปรับตัวเข้าหากัน มันดีขึ้นค่ะ
แต่แล้ววันนึง ได้รับการตอบรับจากบริษัทฯ แห่งนึงที่มีบริษัทฯ แม่เป็นบริษัทใหญ่ ในตำแหน่ง Key account manager (Tier มีหัวหน้า 1 คน และหัวหน้านั้นอยู่ภายใต้ Ceo อีก 1 คน) งานนี้มาจากช่วงที่เราสมัครไว้ว่าจะออกรอบแรก หน้าที่คือติดต่อประสานงานกับโรงงานเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้า เน้นการขายต่างประเทศ ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงเราไม่ได้มีประกบการณ์ด้านส่งออกมาก่อนเลยค่ะ แต่คิดเอาเองว่าสามารถพัฒนาได้ และเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ในเรื่องของ benefit จะได้เท่ากับการที่ๆปัจจุบันขึ้นให้ค่ะ แต่เมื่อผ่านโปรอาจปรับขึ้น 4-8% แล้วแต่ผลการประเมินเงิน มี commission ให้, ไม่มี OT, น้ำมันเบิกตามจริง, มีต้องขับรถไปโรงงานกาญจนบุรีบ้างครั้งคราว แต่ส่วนมากประชุมออนไลน์ได้ค่ะ
ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ ตกอยู่ในภาวะนี้ คิดว่าควรไปทางไหนดีคะ ตอนนี้มืดมากเลย เพราะกำลังทำตัวรักพี่เสียดายน้อง 😞
ปล. สายงานไหนจะไปได้ไกลกว่ากันคะ ถ้าอนาคตเราก็อยากทำธุรกิจส่วนตัว ระหว่าง modern trade vs export business
เสริมนิดนึงค่ะ ไปดูดวงมา เขาแนะนำให้อยู่ต่อ บอกว่าให้ลืมอดีตอยู่กับปัจจุบัน มันกำลังดีขึ้น หัวหน้าเขาโอเคกับเรามาก ไม่มีดวงไปที่ใหม่นะ แต่เหมือนใจจะฝืนอยากไป ไปก็ได้อยู่ก็ได้ เขาว่ามาแบบนี้ค่ะ
ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ 🙏🙏