การเก็บภาษีเพื่อพัฒนาประเทศเป็นเรื่องที่ดี.
สำหรับภาษีคริปโตเก็บภาษีจากกำไรก็ได้ครับถ้าจะเก็บ แต่ต้องเป็นกำไรที่ปิดยอดเทรดของไม้นั้น ๆ ไปแล้ว ไม่ใช่ว่ายังไม่ได้ปิดออเดอร์ก็คิดแล้วแบบนี้ไม่ใช่ และไม่ควรเก็บที่ 15% มันเยอะเกินไปเพราะว่าสรรพากรก็ไม่ได้มาวิเคราะห์การเทรดและการลงทุนกับเราด้วย 15% นี่คือคิดจากอะไรถึงได้ตัวเลขนี้มาอันนี้ต้องชัดเจนเพราะว่าการเทรดแบบนี้มันมีความเสี่ยงที่จะเสียเงินทุนอยู่มาก 15% อาจจะดูไม่เป็นธรรมเท่าไหร่
เก็บจากยอดสุทธิรายปีได้ก็จะดีกว่า แต่ก็คำนวณลำบากอีกเพราะหากนักลงทุนลงไม้เยอะมากแล้วก็ต้องมาจดทุกไม้ ถัวไม้เพิ่มก็ต้องมานั่งคำนวณใหม่มันใช่ไหม?
แต่ไม่ว่ายังไงจะเก็บแบบไหนก็แล้วแต่ภาษีตัวนี้ก็ไม่ควรอยู่ที่ 15% อยู่ดี ยังไงผมก็ว่าตัวเลขนี้ไม่น่าจะเหมาะสม
อีกอย่างเรื่องของคริปโต ไม่ใช่ว่าจะเป็นการลงทุนซื้อหรือขายเพื่อให้ได้กำไรอย่างเดียว มันมีการใช้เงินคริปโตเพื่อทำการ convert เหรียญไปมาจากที่หนึ่งไปที่หนึ่ง จากคนหนึ่งไปหาอีกคนหนึ่ง แล้วสรรพากรจะรู้ได้ยังไงว่ากระเป๋าไหนมันเป็นการลงทุนซื้อขาย หรือเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน หรือเป็นแค่การโยกเงินข้ามประเทศเท่านั้น หากเป็นการโอนให้กันคนรับเหรียญจะคิดกำไรภาษีจากจุดไหน? หรือรับมาแล้วต้องจ่ายภาษีเลย 15% แบบนี้เหรอ?
ดังนั้นเรื่องของคริปโตตอนนี้จึงเป็นเรื่องที่ซับซ้อนที่จะเก็บภาษีเว้นไว้แต่ว่าจะหักจาก Exchange เลยเช่น ซื้อบิทคอยน์ไป 1 หมื่น แล้วขายได้กำไรใน exchange เท่าไหร่ก็หักจากกำไรเลย 2% แบบนี้ก็ได้ แต่ระบบก็ต้องมีการคำนวณเวลานักลงทุนถัวไม้เพิ่มเข้ามาอีกก็ต้องแก้ที่ระบบ แต่ถ้าจะให้นักลงทุนมาใส่ภาษีเองผมบอกเลยว่ายากจะตามก็ยากเพราะกระเป็าเงินดิจิตอลไม่ได้มีกระเป๋าใบเดียว ถ้าสรรพากรจะมานั่ง track ของนักลงทุนทีละคนตายกันพอดี ทางออกก็มีแค่หักจาก exchange เท่านั้นที่พอจะทำได้ และถ้า exchange ไม่ร่วมมือ รัฐก็คงต้องเปิด exchange เองแล้วบังคับนักลงทุนเทรดกับรัฐเท่านั้นถึงจะจัดการได้ง่ายหน่อย
ความคิดเห็นสำหรับภาษีคริปโต
สำหรับภาษีคริปโตเก็บภาษีจากกำไรก็ได้ครับถ้าจะเก็บ แต่ต้องเป็นกำไรที่ปิดยอดเทรดของไม้นั้น ๆ ไปแล้ว ไม่ใช่ว่ายังไม่ได้ปิดออเดอร์ก็คิดแล้วแบบนี้ไม่ใช่ และไม่ควรเก็บที่ 15% มันเยอะเกินไปเพราะว่าสรรพากรก็ไม่ได้มาวิเคราะห์การเทรดและการลงทุนกับเราด้วย 15% นี่คือคิดจากอะไรถึงได้ตัวเลขนี้มาอันนี้ต้องชัดเจนเพราะว่าการเทรดแบบนี้มันมีความเสี่ยงที่จะเสียเงินทุนอยู่มาก 15% อาจจะดูไม่เป็นธรรมเท่าไหร่
เก็บจากยอดสุทธิรายปีได้ก็จะดีกว่า แต่ก็คำนวณลำบากอีกเพราะหากนักลงทุนลงไม้เยอะมากแล้วก็ต้องมาจดทุกไม้ ถัวไม้เพิ่มก็ต้องมานั่งคำนวณใหม่มันใช่ไหม?
แต่ไม่ว่ายังไงจะเก็บแบบไหนก็แล้วแต่ภาษีตัวนี้ก็ไม่ควรอยู่ที่ 15% อยู่ดี ยังไงผมก็ว่าตัวเลขนี้ไม่น่าจะเหมาะสม
อีกอย่างเรื่องของคริปโต ไม่ใช่ว่าจะเป็นการลงทุนซื้อหรือขายเพื่อให้ได้กำไรอย่างเดียว มันมีการใช้เงินคริปโตเพื่อทำการ convert เหรียญไปมาจากที่หนึ่งไปที่หนึ่ง จากคนหนึ่งไปหาอีกคนหนึ่ง แล้วสรรพากรจะรู้ได้ยังไงว่ากระเป๋าไหนมันเป็นการลงทุนซื้อขาย หรือเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน หรือเป็นแค่การโยกเงินข้ามประเทศเท่านั้น หากเป็นการโอนให้กันคนรับเหรียญจะคิดกำไรภาษีจากจุดไหน? หรือรับมาแล้วต้องจ่ายภาษีเลย 15% แบบนี้เหรอ?
ดังนั้นเรื่องของคริปโตตอนนี้จึงเป็นเรื่องที่ซับซ้อนที่จะเก็บภาษีเว้นไว้แต่ว่าจะหักจาก Exchange เลยเช่น ซื้อบิทคอยน์ไป 1 หมื่น แล้วขายได้กำไรใน exchange เท่าไหร่ก็หักจากกำไรเลย 2% แบบนี้ก็ได้ แต่ระบบก็ต้องมีการคำนวณเวลานักลงทุนถัวไม้เพิ่มเข้ามาอีกก็ต้องแก้ที่ระบบ แต่ถ้าจะให้นักลงทุนมาใส่ภาษีเองผมบอกเลยว่ายากจะตามก็ยากเพราะกระเป็าเงินดิจิตอลไม่ได้มีกระเป๋าใบเดียว ถ้าสรรพากรจะมานั่ง track ของนักลงทุนทีละคนตายกันพอดี ทางออกก็มีแค่หักจาก exchange เท่านั้นที่พอจะทำได้ และถ้า exchange ไม่ร่วมมือ รัฐก็คงต้องเปิด exchange เองแล้วบังคับนักลงทุนเทรดกับรัฐเท่านั้นถึงจะจัดการได้ง่ายหน่อย